ปภ.ติดตามพายุ “วิภา” 5 จังหวัด ยังน้ำท่วมเร่งช่วยเหลือ-แจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง
ปภ. ติดตามผลกระทบพายุ"วิภา" ยังมีน้ำท่วม 5 จังหวัด 24 อำเภอ กำชับให้จังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือ พร้อมส่งแจ้งเตือน Cell Broadcast ไปยังพื้นที่เสี่ยง เน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์
วันที่ 28 ก.ค.68 เวลา 13.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากผลกระทบของพายุ "วิภา" พบว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด น่าน เชียงราย แพร่ สุโขทัย และจังหวัดตาก กรม ปภ. ได้ประสานให้หน่วยงานในพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอุทกภัย โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ การแพทย์และสาธารณสุข และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดสถานการณ์ กรม ปภ. ได้ทำการส่งแจ้งเตือน Cell Broadcast ไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์โดยเร็ว
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย ตาก และจังหวัดเลย รวม 59 อำเภอ 279 ตำบล 1,481 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 35,896 ครัวเรือน 118,951 คน มีผู้สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ สุโขทัยและจังหวัดตาก รวม 24 อำเภอ 115 ตำบล 461 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 24,505 ครัวเรือน 79,942 คน ภาพรวมสถานการณ์น้ำในจังหวัดน่าน เชียงราย และจังหวัดแพร่ลดลง จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตากมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น
"กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของ มท.1 และ มท.2 อย่างเคร่งครัดโดยประสานหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ มูลนิธิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนอาสาสมัคร และภาคประชาชน เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง ทั้งในด้านการดำรงชีพ การแพทย์และสาธารณสุข และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชน ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบางไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย พร้อมจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน โรงครัวประกอบเลี้ยง หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงฯ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นย้ำและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก พร้อมกำชับให้ดูแลช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หากอุปกรณ์ บุลคลากร เครื่องจักรกลสาธารณภัยหรือเครื่องอุปโภค บริโภค ไม่เพียงพอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที อีกทั้งยังให้จังหวัดเร่งสำรวจรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อวางแผนการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว"นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าวเพิมเติมว่า ปภ. ได้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันนี้ (28 ก.ค. 68) พบว่า บริเวณภาคเหนือยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง อาจจะทำให้ในบางพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ปภ. จึงได้ส่งแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ไปยังพื้นที่เสี่ยง จำนวน 2 จังหวัด 9 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดน่าน อำเภอท่าวังผา เมืองน่าน ภูเพียง และอำเภอเวียงสา จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย ดอยหลวง เชียงของ เวียงแก่น และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย เพื่อแจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก นํ้าล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือและอพยพกลุ่มเปราะบางไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย รวมถึงระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ ปภ.เขตในพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์ เตรียมความพร้อมทันทีหากเกิดสถานการณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และเมื่อวานนี้(27 ก.ค. 68) ในพื้นที่ 5 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์ ได้แก่จังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ สุโขทัยและจังหวัดตาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย จำนวน 26 หน่วย ได้แก่ รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย รถประกอบอาหาร รถปฎิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ พร้อมทั้งได้มอบถุงยังชีพกว่า 18,900 ชุด และได้รับการสนับสนุนถุงยังชีพจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ปตท. และไทยออยล์ รวมจำนวน 3,500 ชุด เข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ พร้อมกับกำชับให้จังหวัดดำเนินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
ท้ายนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขอเน้นย้ำให้ประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถติดตามสถานการณ์น้ำ ปริมาณฝนสะสม พยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทางแอปพลิเคชัน Thai Disaster Alert (TDA) และติดตามข้อมูลข่าวสารสาธารณภัย ความคืบหน้าสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป