สรุปดราม่า ‘นิ้ง โศภิดา’ ตอบคำถามช่วยใคร ‘ลูก-สามี’ จมน้ำหากเลือกได้คนเดียว
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อ “นิ้ง-โศภิดา จิระไตรธาร” อดีต Miss Universe Thailand 2018 ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ WOODY FM ถึงประสบการณ์ pre-marital counseling หรือการให้คำปรึกษาก่อนแต่งงาน
ซึ่งนิ้งเล่าว่า ในช่วงการให้คำปรึกษา ต้องเผชิญกับคำถามสุดท้าทายที่ว่า "ถ้าลูกกับสามีจมน้ำพร้อมกัน แล้วคุณช่วยได้แค่ 1 คน คุณจะเลือกใคร?" โดยผู้ให้คำปรึกษาได้เน้นย้ำว่า "ต้องเลือก" เพราะคำตอบจะสะท้อนทัศนคติที่แท้จริงของแต่ละบุคคลต่อความสัมพันธ์
คำตอบที่เธอเลือกคือ "สามีค่ะ เพราะสามีคือคู่ชีวิต ที่ต้องอยู่ด้วยกันจนแก่" ขณะที่นิ้งพูดจบประโยค วู้ดดี้ถึงกับหลั่งน้ำตาและพูดว่า “ขอบคุณที่แบ่งปันได้อย่างตรงไปตรงมา แล้วก็กล้าที่อยากจะแบ่งปัน เพราะบางคนอาจจะไม่กล้าพูดว่าฉันจะเลือกสามีต่อหน้าคนที่ดู พี่แค่ร้องไห้เพราะพี่เห็นความงดงามในความซื่อตรง แล้วนี่แหละคือสิ่งที่คุณหลงรัก แล้วก็ภูมิใจ แล้วก็รู้ว่านี่คือคู่ชีวิตที่แท้จริง มันงดงามมากนะที่ได้มีการ counseling ก่อน เพราะคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
ความเห็นโลกโซเชียลแบ่งออกเป็นสองฝ่าย บางกลุ่มชื่นชมมุมมองการเลือกสามี ว่าคำตอบของนิ้งนั้นตรงไปตรงมา และเข้าใจดีว่านี่เป็นเพียงสถานการณ์จำลองที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และการให้ความสำคัญกับคู่ชีวิตในระยะยาว เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างครอบครัวที่แข็งแรง
ขณะที่บางกลุ่มรับไม่ได้ที่ไม่เลือกลูก เพราะคำตอบนี้อาจสะท้อนถึงการไม่ให้ความสำคัญกับลูกในสถานการณ์ฉุกเฉิน หลายคอมเมนต์ตั้งคำถามด้วยความกังวลว่า "ถ้าโตมาลูกเห็นคลิปนี้จะรู้สึกยังไง?" และบางส่วนให้ความเห็นว่าแม้ "คำถามไม่มีถูกผิด" แต่อารมณ์และสัญชาตญาณของแม่ส่วนใหญ่มักจะเลือกช่วยลูกเป็นอันดับแรก
ต่อมาด้าน “เจได ไตรนุภาพ” สามีของนิ้ง ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมสตอรี่ โต้ชาวเน็ตรายหนึ่งที่บอกว่าจะเลิกติดตาม ระบุว่า “ผมว่าคุณน่าจะฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมมั่นใจในสิ่งที่พวกเรา 2 คน เสียสละเพื่อลูกมากกว่าที่ชาวเน็ตไป CAP MOMENT สั้นๆ แล้วก็ไปต่อกันแบบสิ้นคิด ไม่แปลกใจที่ประเทศไม่เจริญ” นอกจากนี้ยังได้โพสต์ข้อความเชิงตัดพ้ออีกครั้งว่า “เรื่อง DRAMA คนดูเป็นล้าน ความรู้ดีๆ คนดูเป็นหมื่น ไม่แปลกใจครับ”
อย่างไรก็ตาม "นิ้ง โศภิดา" ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมเช่นกัน โดยโพสต์ระบุว่า คำถามดังกล่าวเป็นคำถามเชิงจิตวิทยาที่เธอได้รับจากการทำ counseling ก่อนแต่งงาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของชีวิตคู่ในฐานะคริสเตียน ที่มีความเชื่อว่าสามีภรรยาเป็น “หนึ่งเดียวกัน” ตามคัมภีร์ปฐมกาล 2:24 ที่ว่า “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน”
ในโพสต์นิ้งอธิบายว่า เหตุผลที่เธอเลือกช่วยสามีก็เพราะต้องการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับลูกในด้านอารมณ์ ความรัก และความภาคภูมิใจในตัวเอง โดยการแสดงให้ลูกเห็นถึงความรักและความใส่ใจที่พ่อแม่มีให้กันและกันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและมีชีวิตที่สมบูรณ์ในด้านจิตใจ เธอยังย้ำว่าในความคิดของเธอ เมื่อลูกโตขึ้นเขาก็จะออกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง แต่สามีคือคู่ชีวิตมีที่จะอยู่เคียงข้างเธอจนแก่เฒ่า และจะรักกันตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในวันแต่งงานจนกว่าพระเยซูจะมารับ
นอกจากนี้ นิ้งยังได้เผยถึงชีวิตจริง ว่าเธอและสามีช่วยกันเลี้ยงลูกเองในทุกย่างก้าว และทำงานด้วยกันทุกวัน จึงอยากขอให้ทุกคนที่ไม่ได้รู้จักครอบครัวของเธอ อย่าเพิ่งตัดสินคนแค่คำพูดสั้นๆ แต่ขอให้มองที่การกระทำในระยะยาว และเข้าใจว่าชีวิตและประสบการณ์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @jeditrinupab, @Sophida Jiratritarn