ตร.เผย 10ล้านที่หาย เป็นเงินส่วนตัวเจ้าอาวาสวัดม่วง เก็บสะสมมา

1 ก.ค.68 กรณี พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม รับรายงานว่า เมื่อวันที่29 มิ.ย.68ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร โดย นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ทำหน้าที่เป็นไวยาวัจกรประจำวัดม่วง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จึงไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม

เกิดเหตุภายในวัดม่วงบริเวณสำนักงานเจ้าอาวาส พบพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง อยู่ภายในสำนักงานฯ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้จ้างวานให้ นายธวัชชัย และ นายทิณกร โดยทั้ง 2 เป็นลูกศิษย์เจ้าคณะ และได้ไปเบิกเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา ศาลายา ประมาณจำนวน10 ล้านบาท โดยนำใส่กระเป๋าเดินทาง และนำกลับมายังอาคารที่สำนักงานเจ้าอาวาสฯ โดยนำมาวางเก็บไว้ในสำนักงานเจ้าอาวาสภายในวันนั้น

ต่อมาเมื่อถึงเช้าวันที่ 29 พ.ค. เวลา 08.00 น. พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง เข้ามาเอาเงินในสำนักงานเจ้าอาวาสเพื่อจะนำไปใช้ในการจับจ่ายใช้สอย ได้พบว่ากระเป๋าเก็บเงินใบดังกล่าวได้สูญหายไปจากสำนักงานเจ้าอาวาส และในเวลาต่อมาได้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในสำนักงานเพิ่มเติมได้พบว่า ทองคำแท่ง จำนวน 250 บาทได้สูญหายไปจากสำนักงาน จึงแจ้งให้นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ซึ่งเป็นไวยาวัชกร ของวัดดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า โดยในวันเกิดเหตุ ทางเจ้าอาวาสได้เดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคารพร้อมกับลูกศิษย์ทั้ง 2 คนด้วย

ส่วนเงินที่สูญหาย เป็นบัญชีส่วนตัวที่ทางเจ้าอาวาสเก็บสะสมมา ไม่ใช่เงินของวัดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝง เพื่อรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป

ทีมข่าว จึงลงพื้นที่ไปยังวัดม่วงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว สอบถามกับนายเบียร์ ซึ่งเป็นคนดูแลตู้บริจาคบริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินภายในวัด ซึ่งตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้นในเบียร์ไปแล้ว

โดยนายเบียร์บอกว่า ตนจะทำหน้าที่ดูแลตู้บริจาค แต่ละวันจะต้องนำตู้บริจาคไปเก็บไว้ที่ศาลาสำนักงาน โดยล็อคกุญแจอย่างแน่นหนาและทุกเดือนจะมีการเปิดตู้นับเงินบริจาคภายในตู้ ซึ่งในขั้นตอนนี้ตนและ ลูกศิษย์คนอื่นๆจะไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง , การนับเงินจะนับภายในกุฏิของท่านเจ้าอาวาส และมีเพียงพระไม่กี่รูปเท่านั้นที่เข้าไปร่วมตรวจนับ

ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 10 ล้านและทองคำแท่ง 250 บาทหายไปจากกุฏิท่านเจ้าอาวาส ตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบวันที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบภายในกุฏิเจ้าอาวาสและมาสอบปากคำ ซึ่งตนให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว

ส่วนที่ว่าจะเป็นฝีมือใครขโมยเงินใบนั้นตนอยากให้ตำรวจรีบทำการสืบสวนและจับคนร้ายมาให้ได้ โดยส่วนตัว ตนเชื่อว่าเงินจำนวนนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของท่านเจ้าอาวาสจริงเพราะท่านบวชมานาน 40 กว่าพรรษาและมั่นใจว่า ไม่ซ้ำรอยกับทิดแย้ม วัดไร่ขิงและ เจ้าคุณอาชว์ วัดตรีทศเทพ เพราะเท่าที่รู้จักกับท่านเจ้าอาวาสไม่มีพฤติกรรมไปในทำนองเรื่องชู้สาวหรือเกี่ยวข้องกับการพนัน