โฆษกกองทัพบก เคลียร์แล้ว! คลิปเดือด ทหารไทย-กัมพูชา หน้าปราสาทตาเมือนธม
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีที่มีคลิปเผยแพร่เหตุการณ์โต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น.
โดยเหตุการณ์นั้นเริ่มจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นชุดประสานงานดูแลปราสาทตาเมือนธม ได้ตะโกนเสียงดังเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ออกจากพื้นที่ก่อนเวลา 15.00 น. ตามเวลาปิดปราสาทที่กำหนดไว้ การกระทำดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับนักท่องเที่ยว จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ดูแลพื้นที่ต้องเข้าไปชี้แจง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น
ต่อมากองทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิปที่ปรากฏ โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคณะครูจาก โรงเรียนบ้านปะนอยไถง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ตามกำหนดเวลา คือ เข้าชมได้ตั้งแต่ 09.00 - 15.00 น.
ข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.68 เวลา 14.45 น. ชุดประสานงานฝ่ายไทยได้รับแจ้งจาก หน่วยเหนือว่า จะมีคณะครูจาก โรงเรียนบ้านปะนอยไถง มาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งมีไทม์ไลน์ดังนี้
14.45 น. ชุดประสานงานฝ่ายไทยได้รับแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีคณะครูเข้าเยี่ยมชมปราสาท
14.50 น. คณะครูเดินทางมาถึงบริเวณปราสาท
14.52 น. คณะครูได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่เจ้าหน้าที่ และถ่ายภาพร่วมกันหน้าป้าย
14.54 น. เริ่มเข้าเยี่ยมชมภายในปราสาท
14.55 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาเข้าทักท้วง เนื่องจากใกล้ถึงเวลาปิด
และฝ่ายไทยแจ้งกลับว่า ยังเหลือเวลาอีก 5 นาที ก่อนจะถึงเวลาปิดคือ 15.00 น.
ในขณะเดียวกันนั้น จ.ส.อ.ฮอน จันทรา หัวหน้าชุดประสานงานฝ่าย กพช. จึงได้ใช้วาจาและท่าที ที่ไม่เหมาะสม กับชุดประสานงานฝ่ายไทย ร.ต.วิทูล อาญาเมือง จึงได้เข้าไปโต้เถียง และกระทบกระทั่งโดยวาจา
15.00 น. ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันจนเข้าใจ และแยกย้ายกันโดยไม่มีความขัดแย้งเพิ่มเติม
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เลือดเนื้อชาติเชื้อไทยอย่างเราต้องเฝ้าติดตามกันให้ดีเลยก็ว่าได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทั้งสองฝ่ายยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการปะทะใด ๆ เกิดขึ้น และมีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน และฝ่ายไทยเรายังคงยึดมั่นแนวทางสันติวิธีในการคลี่คลายสถานการณ์ต่อไปค่ะ
เรียบเรียงโดยทีมข่าวสยามนิวส์