โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จากสินทรัพย์เสี่ยง สู่ทุนสำรองโลก ทุนสำรองยุคใหม่ “Bitcoin” ถูกจับตาแทนที่ทองคำแห่งโลกอนาคต

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มาฟังบุคคลที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่ง กุนซือ ของคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ไทยว่าเขาจะมีมุมมองกับสินทรัพย์ของโลกในยุคใหม่อย่างไรบ้าง

คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด เล่าให้ฟังถึงนิยาม บิตคอยน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นทุนสำรองของโลกในอนาคต จากที่เคยกล่าวไว้ว่า “บิทคอยน์” ที่ทะลุ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ซึ่งหลังจากปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ในช่วง เดือน เมษายน ปี 2567 สำหรับวงการคริปโทเคอร์เรนซีนั้นจะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี แล้วหลังจากนั้น 6 เดือน ตามสถิติราคาจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง และรอบนี้ก็คาดว่าจะจบลงในช่วงเดือนตุลาคม 2568 นี้

ในขณะที่หลายคนพยายามพยากรณ์เป้าหมายของราคาบิทคอยน์ในสภาวะขาขึ้นของบิทคอยน์ในรอบนี้ ผมมีความคิดเห็นว่าปัจจุบันมีคนออกมาคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ ซึ่งก็แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น “เคธี่ วูดส์” นักลงทุนหญิงที่ Forbes ยกย่องให้เป็น America's Richest Self-Made Women ในปี 2020 ที่คาดการณ์ว่าราคาบิทคอยน์มีโอกาสไปไกลถึงระดับ 1,000,000 ดอลลาร์ หรือราว 34 ล้านบาทต่อ 1 บิทคอยน์ ในอีก 5 ปีข้างหน้า และธนาคารต่างๆที่ออกมาคาดการณ์ราคา

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่า บิทคอยน์มีค่ามาพอที่จะได้รับการสะสมต่อเนื่อง และมีโอกาศเป็นหนึ่งในทุนสำรองของโลกอนาคตอย่างแท้จริงในระยะยาว

โดยปัจุบันในแต่ละประเทศ ก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน อาทิ สหรัฐอเมริกา ที่ออกมาประกาศว่าจะเป็นผู้นำของสินทรัพย์ดิจิตอล เรื่องแรกคือ USD stablecoin ซึ่งในปีที่ผ่านมาการชำระเงินผ่าน stablecoin อยู่ที่ราว 30 Trillion หรือราว 30 ล้านล้านบาท

คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น สื่อให้เห็นว่าการชำระเงินผ่าน stablecoin ในอนาคตอันใกล้จะเข้ามาแทนที่บัตรเครดิตอย่างแน่นอน นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังยืนยันว่าซื้อบิทคอยน์ จำนวน 1 ล้ายบิทคอยน์ ภายในอีก 5 ปีข้างหน้าซึ่งจะเป็นการทยอยซื้อปีละ 2 แสนบิทคอยน์ ต่อไปเรื่อยๆ สำหรับจำนวนบิทคอยน์ที่ถือครองเป็นทุนสำรองในประเทศต่างๆ

สำหรับการสะสมบิทคอยน์ในปัจจุบันนั้น สหรัฐอเมริกาถือครอง 210,000 บิทคอยน์ ,จีนถือครอง 190,000 บิทคอยน์ ,อังกฤษถือครอง 80,000 บิทคอยน์ ,ภูฏาน 10,000 บิตคอยน์ และยังมีประเทศยูเครน รัสเซีย บราซิล ที่ถือครองบิทคอยน์อีกจำนวนมาก ซึ่งผมมองว่า หากอเมริกาเริ่มซื้อเมื่อไหร่ ประเทศต่างๆทั่วโลกก็จะเร่งที่จะซื้อบิทคอยน์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบัน อเมริกาก็มีความพร้อมอย่างมากที่จะดำเนินการซื้อบิตคอยน์ในทันที แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องทำตาม กฎหมาย ต่างๆตามกระบวนการในการซื้อขาย

ดังนั้นจึงมองว่า บิทคอยน์ จะขึ้นเป็นทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Reserve) ของโลกไม่แตกต่างจากทองคำในยุคที่ผ่านมา โดยปีนี้เองทาง IMF ก็ออกมายอมรับแล้วว่าบิทคอยน์สินทรัพย์ ร

วมถึงสถาบันการเงินระดับโลก อาทิ J.P. Morgan บริษัทให้บริการทางการเงิน และการลงทุน ได้เปิดให้ลูกค้าซื้อบิทคอยน์ผ่านธนาคาร รวมถึง DBS Bank ธนาคารและสถาบันการเงินข้ามชาติของสิงคโปร์ สามารถฝากบิทคอยน์ได้เหมือนฝากเงินในธนาคาร ส่วนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์สามารถฝากบิทคอยน์และกู้บิทคอยน์ออกมาได้ด้วย เสมือนการฝากทองคำหรือฝาก อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งเป็นทิศทางของโลกที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความตื่นตัวของ บิทคอยน์ และหากประเทศไทยยังไม่รีบดำเนินการ ต้นทุนต่อ “หนึ่งบิทคอยน์จะแพงขึ้น” ไปเรื่อยๆ

“โลกอนาคต บิตคอยน์จะเป็นสินทรัพย์สำรองของโลก และมีโอกาสแทนที่ทองคำ”

ถ้าหากให้เรียงลำดับสินทรัพย์สำรองของโลกในอนาคต ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ผมยังมองว่าทองคำยังเป็นการลงทุนที่ดีในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ หรือราวๆ 2030 แต่หลังจากนั้นในอนาคต มีความเป็นไปได้สูงที่เทคโนโลยี Ai จะทรงพลังมาก จนกระทั่งเราสามารถปลูกทองได้ หรือ "Synthesize gold" หรือ "การสังเคราะห์ทองคำ" โดยทั่วไปหมายถึงกระบวนการสร้างทองคำจากธาตุอื่น ๆ หรือจากสารประกอบของทองคำ ซึ่งเป็นการทดลองที่ละเอียดกว่ามนุษย์ และไม่มีต้นทุน

ดังนั้นในอนาคตคาดการณ์ว่าโอกาสที่มาร์เก็ตแคปของบิทคอยน์จะแซงทองคำจะเกิดขึ้น โดยในปี 2567 ที่ผ่านมามาร์เก็ตแคร์ของบิทคอยน์อยู่ที่ประมาณหนึ่งส่วน 10 ของทองคำ และมีทิศทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยความเชื่อมั่นเงินดอลลาร์ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปัญหาหนี้สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้สินทรัพย์ ชนิดอื่นๆไม่ว่าจะเป็น หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของโลก ทีมีมาร์เก็ตแคบใหญ่ ซึ่งจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุม AI ได้ มูลค่าก็ยิ่งจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นระดับล้านล้านดอลลาร์

สำหรับ บิตคอยน์ ในตลาดเมืองไทยผมมองว่า การยกเว้น ภาษี Capital Gain หรือ ภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และขอชื่นชมรัฐบาลที่เข้าใจทิศทางของโลก ซึ่งสนผลดีต่ออุตสาหกรรม คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ในประเทศไทย ซึ่งเม็ดเงิน Cryptocurrency ของก็จะไหลเข้าสู่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สนับสนุนการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเงินเหล่านั้นก็ต้องใช้จ่ายซื้อของกับบริษัทของไทย ซึ่งบริษัทก็ต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate income tax) ให้แก่รัฐบาล 20% ไหนจะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และอื่นๆ

สุดท้ายเงินเหล่านั้นหมุนเวียนกลับมาซึ่งคล้ายกับการเก็บภาษี โดยที่เราไม่เสียอะไรเลย และที่สำคัญประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่ถือคริปโต ที่อยากจับจ่ายใช้สอยเงินจำนวนมาก และเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มียอดเงินการใช้จ่ายต่อหัวสูง ไม่ใช่ทัวร์ ศูนย์เหรียญแบบที่ผ่านมา

หลังจาก การยกเว้น ภาษี Capital Gain ปัจจุบันการลงทุนบิตคอยน์ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ซึ่งหลังจากนี้พอข่าวเริ่มกระจายออกไป สู่ต่างประเทศมากขึ้น ก็จะทำให้การลงทุนกลับมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น แล้วบอกว่านโยบายนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้น GDP ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

สำหรับ Bitkub เราเป็น infrastructure ที่แข็งแรงให้กับประเทศไทย รอแค่โอกาสที่เราจะเอาเทคโนโลยีที่เตรียมมาโดยตลอดเพื่อที่จะมาใช้ได้จริง ทั้งเรื่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) และ Payment ต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจะให้โอกาสคนรุ่นใหม่ดำเนินการหรือไม่อย่างไร และผมมองว่าใช้ระยะเวลาไม่นาน ทางด้าน Carbon credit tokenization ซึ่งมองว่าถ้าใช้ตลาดเก่าไม่มีสภาพคล่อง (Liquidity) ถ้าให้โอกาสคนรุ่นใหม่ทำผมขอ 1 วัน พรุ่งนี้เชื่อว่าจะสามารถเทรดได้เลย เรามีเงินฝากอยู่ 1 แสนล้าน และมีลูกค้าอยู่แล้ว 5 ล้านคน เทคโนโลยีเราพร้อมมากอยู่แล้ว

สำหรับภาพของประเทศไทยในระยะ 3-5 ปี ผมมองว่าอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) จะเป็น currency ของโลกอนาคต ซึ่งไม่ใช่แค่ระยะ 3-5 ปี ซึ่งในยุคที่ AI dominate ในทุกๆวงการ เงินตราของ AI คือ Cryto ไม่ได้ยื่นกระดาษระหว่างกัน ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมทางด้าน AI โดยสหรัฐผู้ชัดเจนว่าเค้าต้องการจะเป็นเซ็นเตอร์ของโลกในเรื่อง AI รวมถึง Digital Asset ซึ่ง AI จะมาปฏิวัติการทำงานทั้งหมด และมองว่าไม่มีบริษัทไหนไม่ใช้ AI อย่างแน่นอนในการทำงาน

สุดท้ายผมอยากจะฝากว่ามีไม่กี่อุตสาหกรรมที่คนไทยทำ และคนไทยประสบความสำเร็จ และใหญ่ที่สุดในอาเซียน หากยกตัวอย่างถึงอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ในประเทศไทยปัจจุบัน ซึ่งไม่ใช่ของคนไทยสักเจ้าภาษีประเทศไทยก็ไม่ได้จ่ายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยขนาดนั้น รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆที่เราใช้ ก็ไม่ใช่ของคนไทย และถ้าหากจะพูดถึง ธุรกิจ Sharing economy อาทิ Grab Spotify Uber แต่ละแบรนด์ที่ทุกคนรู้จัก ซึ่งก็ล้วนแต่ไม่ใช่ของคนไทย

นอกจากแอปพลิเคชัน (Application)ของธนาคาร ที่ปัจจุบันยังเป็นเงินกระดาษอยู่ แต่ว่าถ้าวันนึงถ้าเราหยุดใช้เงินกระดาษ ก็ต้องมี Text equivalent หรืออะไรที่เทียบเท่าธนาคารขึ้นมา แต่อย่างไรก็ดี Financial Platform ของโลก อย่างอนาคต อย่าง Bitkub ก็ยังเป็นของคนไทยอยู่ทุกวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

"สุรเดช" เชียร์ "ลุงป้อม" นั่งนายกฯ ยุติปมพิพาทไทย-กัมพูชา

50 นาทีที่แล้ว

ภาคตลาดทุนไทยสานพลังเอกชน ปีที่ 2 มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยยั่งยืน

54 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตเส้นทาง “พายุดีเปรสชัน” ล่าสุด กระทบไทยหรือไม่?

57 นาทีที่แล้ว

เปิดสถิติเส้นทางพายุเข้าไทยในรอบ 74 ปี

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปี 2567 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและโปร่งใส

BTimes

Boomerang Kids อุปสรรคแผนเกษียณพ่อแม่ | ลงทุนนิยม EP.452

Wealth Me Up

ดีเดย์เดินหน้า“ติดปีกธุรกิจพลังงานไทย”รับยุคดิจิทัล

The Better

GLOBAL WORK แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัวที่ไทยเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Manager Online

Thailand’s soft power touted in US cities

Thai PBS World

พิชัย สรุปผลเจรจาภาษีสหรัฐ ต้องกลับไปทําข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม ยึดหลักวิน-วิน

Khaosod

พิชัย แถลงข้ามทวีปผลเจรจาภาษีสหรัฐ ไทยเร่งปรับข้อเสนอยื่นใหม่อีกครั้ง

เดลินิวส์

ไม่ได้ข้อสรุป! พิชัย เผย เดินหนาเจรจาภาษีกับสหรัฐ ต่อ

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดอลลาร์แข็งค่า ดึงทองลด สอบแนวรับ $3,311

TNN ช่อง16

ทองโลกพักฐาน แนะซื้อสะสม แนวรับ 3,333 ดอลลาร

TNN ช่อง16

ส่องทิศทาง "ทองคำ" ครึ่งปีหลัง มีโอกาสทะลุ 56,000 บาทหรือไม่!

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...