โปรดเกล้าฯ เลื่อนพระอิสริยยศ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า องค์ที่ 11 เป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสถาปนา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า องค์ที่ 11 เป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
นับเป็นข่าวอันเป็นมหามงคลยิ่ง เมื่อเว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ เรื่อง การสถาปนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เลื่อนพระอิสริยยศ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า
โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ที่ 11 ว่ามีพระคุณูปการอย่างยิ่งแด่พระบวรพุทธศาสนาและราชอาณาจักรไทย ทรงมีคุณูปการแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระผนวช ได้ถวายพระโอวาทานุสาสนี ตามพระฐานะแห่งพระอาจารย์ทุกประการ ทรงรับธุระพระพุทธศาสนา บริหารทำนุบำรุงต่อเนื่องมาแต่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ด้วยพระอุเบกขาอันแน่วแน่เที่ยงธรรม ทรงพระสติปัญญาสามารถ ทรงพระสุตญาณปรีชาอันลึกซึ้ง เป็นพหุสุตเมธีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีน้ำพระทัยเยือกเย็น ทรงพระกัลยาณัธยาศัยประนีประนอมถ่อมพระองค์ ดำรงพระสีตลหฤทัยใสสะอาด พระศีลาจารวัตรวิมลไม่มัวหมอง ทรงเรืองรองด้วยพระสมรรถคุณพหุลปัญญา มีพระกมลหมายมุ่งแต่กรณียกิจ อันอำนวยหิตานุหิตประโยชน์ต่อพระบวรพุทธศาสนาและมหาชน ให้บังเกิดผลดีต่อราชอาณาจักร
ทรงรักษาพระบวรพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ ด้วยทรงพระอุตสาหะ รับเป็นประธานชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ สนองพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสำเร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นธรรมทานวัตถุ สืบอายุพระนวังคสัตถุศาสน์ ทั้งยังทรงจัดตั้งมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยและทรงพระกรุณาโปรดให้มีการสอบธรรมศึกษาสำหรับคฤหัสถ์ด้วย
บัดนี้ บรรลุอภิลักขิตสมัย 100 ปีวันสวรรคตแห่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และ 100 ปีวันเสด็จขึ้นทรงราชย์แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการสืบสนองพระบรมราชปณิธานในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเสด็จสถิตที่พระฐานะไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์ พระราชกรรมวาจาจารย์ในสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบรมอัยกาธิราชในรัชกาลปัจจุบันทั้งสองพระองค์ นับเนื่องโดยตรงถึงพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงเป็นธรรมทายาท ตามพระราชสถานะอนุศิษย์ ด้วยเหตุที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ สมควรจักสถาปนาพระอิสริยยศพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบูรพาจารย์ทางธรรมในรัชกาลปัจจุบัน เพื่อเป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธา
จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนาพระอิสริยยศทางพระบรมราชวงศ์และทางพระสมณฐานันดรศักดิ์ เฉลิมพระนามพระอัฐิ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ เสด็จสถิตที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ มหาเจษฎานุพงศสิริวัฒน ภัทรผลพูลสวัสดิขัตติยพรหมจารี สังฆราชาธิบดีศรีสมณุตมปริณายก ตรีปิฎกกลาโกศล มงคลธรรมเจดีย์คัมภีรญาณยุตสุตสุนทร ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์ ศุภศีลศานติ์มหาอนาคาริยรัตน พุทธศาสนบริษัทนิปัตยคารวสถาน มโหฬารเมตตาขันตยาไศรย ศรีรัตนตรัยสรณคุณารักษ์ อุกฤษฏศักดิสกลสงฆปาโมกขคณิศราธิบดี มหาสถาวีรวโรดมบรมบพิตร
การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานจัดเบญจปฎลเศวตฉัตร ถวายกางกั้นพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรสุทธิเทวารยวงศ์ ซึ่งประดิษฐานในซุ้มคูหาพระเจดีย์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถวายเป็นเครื่องปรากฏแห่งพระมหาสมณคุณสืบไป
ขอให้พระเกียรติคุณวิบุลยศ ปรากฏแผ่ไพศาลไปในสากลจักรวาล ตราบจิรัฏฐิติกาลนิรันดร เทอญ
ประกาศ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ยาทรามาดอล ระงับอาการปวดเฉียบพลัน เป็นยาควบคุมพิเศษ
- ราชกิจจาฯ ประกาศ ขับรถผ่านแอปฯ ต้องจดทะเบียน-มีใบขับขี่สาธารณะ บังคับใช้ใน 90 วัน
- ราชกิจจาฯ ออกประกาศ แสดงความประสงค์ สละสัญชาติไทย 195 คน
อ้างอิง : สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช