เฝ้าระวังภาคเหนือตอนล่าง ฝนยังมี-น้ำป่าไหลหลากต่อเนื่อง
สถานการณ์น้ำในภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยาได้อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ช่วงสัปดาห์นี้ (1-7 ก.ย.68) ประเทศไทยยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุม ยังต้องเฝ้าระวังน้ำหลากจากฝนที่ยังตกสะสมกัน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์) สำหรับภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.ปริมณฑล ที่จะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น แต่อาจเป็นอุปสรรคการเดินทางฝนตกถนนลื่น ต้องเพิ่มความระมัดระวัง พกร่ม เสื้อกันฝน ฝนมักจะเกิดชึ้นช่วงหลังเลิกงาน ส่วนภาคใต้มรสุมยังมีกำลังค่อนข้างแรง ระวังฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามัน ชาวเรือ ชาวประมงเดินเรือด้วยความระวัง เโดยเฉพาะช่วง 1- 3 ก.ย.68 คลื่นลมแรงขึ้น
ส่วน ช่วง 8 - 15 ก.ย.68 ประเทศไทย ยังมีฝนกระจายหลายพื้นที่ และยังมีฝนตกต่อเนื่อง หนักเบาสลับกันในบางวัน ส่วนมากบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนกลางตอนล่าง ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล อิทธิพลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณดังกล่าว (ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามการประมวลผลข้อมูลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น
สำนักงานชลประทานที่ 3 โดย นายชวลิต สุราราช ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา พร้อมด้วย นายเทพนิมิต สิงหพันธ์ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ ลงพื้นที่ ตรวจสอบ สถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นในบางจุดในพื้นที่ของลุ่มน้ำวังทอง ลุ่มน้ำคลองชมพู และแม่น้ำน่าน
- แม่น้ำวังทอง ปริมาณน้ำที่เขตเทศบาลวังทองและต้นน้ำเริ่มลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในถนน ชุมชน และยังมีน้ำบ่าล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ท่วมพื้นที่การเกษตรด้านท้าย สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
- คลองชมพู ปริมาณน้ำต้นน้ำลดลง ยังมีน้ำบ่าล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ชุมชนใกล้แม่น้ำ และพื้นที่เกษตรด้านท้าย สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
จุดเฝ้าระวังที่สำคัญของแม่น้ำน่าน ที่ตรวจติดตาม ได้แก่
• ชุมชนหลังสถานีรถไฟพิจิตร
• ตลิ่งต่ำฝั่งขวาตรงข้ามวัดราชช้างขวัญ
การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง และวางแผนการระบายน้ำในแม่น้ำน่านให้รัดกุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด
จากการวิเคราะห์โดย ศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) พบว่า ระหว่างวันที่ 1–15 กันยายน 2568 ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะพื้นที่ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ จะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก สาเหตุหลักมาจาก
• ร่องมรสุม ที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
• มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงมีกำลังแรง
สำนักงานชลประทานที่ 3 จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังน้ำหลากและน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ ซึ่งมักเกิดฝนหนักในช่วงเวลาดังกล่าว
เขื่อนสิริกิติ์เร่งระบาย – ชลประทานปรับแผนเชิงรุก คุมระดับท้ายเขื่อน เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “หนองฟ้า” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากแม่น้ำสายหลัก ลำห้วยสาขา และการผันน้ำเข้าสู่เขื่อน
เพื่อป้องกันน้ำล้นอ่างและลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ กรมชลประทานได้ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำหนดแผนการระบายน้ำจาก เขื่อนสิริกิติ์ ดังนี้:
• วันที่ 1 – 3 ก.ย. 68: ลดการระบายน้ำเหลือ 25 ล้าน ลบ.ม./วัน (290 ลบ.ม./วินาที)
• วันที่ 4 – 7 ก.ย. 68: ปรับเพิ่มเป็น 50 ล้าน ลบ.ม./วัน (580 ลบ.ม./วินาที)
นายชวลิต ย้ำว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้ ยังไม่น่าไว้วางใจ แม้บางพื้นที่จะยังไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่ปริมาณฝนที่ตกสะสมยังคงสูง และการระบายน้ำจากเขื่อนต้นน้ำยังต้องดำเนินต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมรับมือหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น