โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เฝ้าระวังภาคเหนือตอนล่าง ฝนยังมี-น้ำป่าไหลหลากต่อเนื่อง

JS100

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • JS100:จส.100
เฝ้าระวังภาคเหนือตอนล่าง ฝนยังมี-น้ำป่าไหลหลากต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำในภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยาได้อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ช่วงสัปดาห์นี้ (1-7 ก.ย.68) ประเทศไทยยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุม ยังต้องเฝ้าระวังน้ำหลากจากฝนที่ยังตกสะสมกัน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง (พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์) สำหรับภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.ปริมณฑล ที่จะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น แต่อาจเป็นอุปสรรคการเดินทางฝนตกถนนลื่น ต้องเพิ่มความระมัดระวัง พกร่ม เสื้อกันฝน ฝนมักจะเกิดชึ้นช่วงหลังเลิกงาน ส่วนภาคใต้มรสุมยังมีกำลังค่อนข้างแรง ระวังฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามัน ชาวเรือ ชาวประมงเดินเรือด้วยความระวัง เโดยเฉพาะช่วง 1- 3 ก.ย.68 คลื่นลมแรงขึ้น

ส่วน ช่วง 8 - 15 ก.ย.68 ประเทศไทย ยังมีฝนกระจายหลายพื้นที่ และยังมีฝนตกต่อเนื่อง หนักเบาสลับกันในบางวัน ส่วนมากบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนกลางตอนล่าง ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล อิทธิพลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณดังกล่าว (ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามการประมวลผลข้อมูลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น

สำนักงานชลประทานที่ 3 โดย นายชวลิต สุราราช ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา พร้อมด้วย นายเทพนิมิต สิงหพันธ์ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ ลงพื้นที่ ตรวจสอบ สถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นในบางจุดในพื้นที่ของลุ่มน้ำวังทอง ลุ่มน้ำคลองชมพู และแม่น้ำน่าน

- แม่น้ำวังทอง ปริมาณน้ำที่เขตเทศบาลวังทองและต้นน้ำเริ่มลดลง ยังคงมีน้ำท่วมขังในถนน ชุมชน และยังมีน้ำบ่าล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ท่วมพื้นที่การเกษตรด้านท้าย สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย

- คลองชมพู ปริมาณน้ำต้นน้ำลดลง ยังมีน้ำบ่าล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ชุมชนใกล้แม่น้ำ และพื้นที่เกษตรด้านท้าย สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย

จุดเฝ้าระวังที่สำคัญของแม่น้ำน่าน ที่ตรวจติดตาม ได้แก่

• ชุมชนหลังสถานีรถไฟพิจิตร

• ตลิ่งต่ำฝั่งขวาตรงข้ามวัดราชช้างขวัญ

การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง และวางแผนการระบายน้ำในแม่น้ำน่านให้รัดกุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด

จากการวิเคราะห์โดย ศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) พบว่า ระหว่างวันที่ 1–15 กันยายน 2568 ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะพื้นที่ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ จะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยบางพื้นที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก สาเหตุหลักมาจาก

• ร่องมรสุม ที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

• มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงมีกำลังแรง

สำนักงานชลประทานที่ 3 จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังน้ำหลากและน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำ ซึ่งมักเกิดฝนหนักในช่วงเวลาดังกล่าว

เขื่อนสิริกิติ์เร่งระบาย – ชลประทานปรับแผนเชิงรุก คุมระดับท้ายเขื่อน เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “หนองฟ้า” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำสิริกิติ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากแม่น้ำสายหลัก ลำห้วยสาขา และการผันน้ำเข้าสู่เขื่อน

เพื่อป้องกันน้ำล้นอ่างและลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ กรมชลประทานได้ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำหนดแผนการระบายน้ำจาก เขื่อนสิริกิติ์ ดังนี้:

• วันที่ 1 – 3 ก.ย. 68: ลดการระบายน้ำเหลือ 25 ล้าน ลบ.ม./วัน (290 ลบ.ม./วินาที)

• วันที่ 4 – 7 ก.ย. 68: ปรับเพิ่มเป็น 50 ล้าน ลบ.ม./วัน (580 ลบ.ม./วินาที)

นายชวลิต ย้ำว่า สถานการณ์น้ำในขณะนี้ ยังไม่น่าไว้วางใจ แม้บางพื้นที่จะยังไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่ปริมาณฝนที่ตกสะสมยังคงสูง และการระบายน้ำจากเขื่อนต้นน้ำยังต้องดำเนินต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมรับมือหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...