สิงคโปร์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP ชี้ความตึงเครียดทางภาษีสหรัฐฯเริ่มคลี่คลายทั่วโลก
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม(MTI)ของสิงคโปร์เผยแพร่รายงานอัพเดทสถานการณ์เศรษฐกิจสิงคโปร์ (Economic Survey of Singapore)ฉบับล่าสุดในวันนี้(12 ส.ค.) พร้อมทั้งปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP)ของสิงคโปร์ในปีนี้(2568) ขึ้นมาอยู่ระหว่างร้อยละ 1.5-2.5 จากเดิมร้อยละ 0-2 ตามลำดับ
การปรับตัวเลขนี้ สะท้อนถึงการเติบโตที่เข้มแข็งเกินคาดของเศรษฐกิจของสิงคโปร์ ร้อยละ 4.4 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(2568) ซึ่งสูงขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์เดิม ร้อยละ 4.3 เป็นผลจากการเติบโตของภาคค้าปลีก (ร้อยละ 4.7)เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสารเช่น เครื่องสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์, การผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม(เติบโตร้อยละ 5.2) ตลอดถึงการเติบโตของธุรกิจธนาคารและประกันภัย การขนส่งและการเก็บข้อมูลทางดิจิทัล ทั้งนี้ GDP ของสิงคโปร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนิ้ เติบโตร้อยละ 4.1
นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วในปีนี้(2568)ที่กระทรวง MTI ปรับปรุงตัวเลขคาดการณ์ GDP ของสิงคโปร์ใหม่ โดยในครั้งแรก กระทรวง MTI คาดการณ์ GDP ของสิงคโปร์ในปีนี้(2568)จะเติบโตระหว่างร้อยละ 1-3 แต่ต่อมา ในเดือนเม.ย. กระทรวง MTI ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ของสิงคโปร์ หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสิงคโปร์ร้อยละ 10 และประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษีกับประเทศอื่นๆหลายประเทศทั่วโลก
แต่การพักมาตรการเก็บภาษี 90 วันของสหรัฐฯในเวลาต่อมา ช่วยทำให้เศรษฐกิจของหลายประเทศ รวมกลุ่มประเทศที่เจริญแล้วและอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน เริ่มกลับมาฟื้นตัว และเติบโตอย่างเข้มแข็งอีกครั้ง โดยกระทรวง MTI ของสิงคโปร์ตั้งข้อสังเกตเรื่องสถานการณ์การค้าของโลกว่า ความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกเริ่มมีแนวโน้มลดลง หลังจากสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงการค้ากับหุ้นส่วนการค้าหลักๆ เช่น กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน พร้อมทั้งตกลงให้ขยายเวลาพักเก็บภาษีกับจีนในอัตราตัวเลข 3 หลักต่อไปอีก 90 วัน
#สิงคโปร์
#ปรับเพิ่มคาดการณ์GDP
ที่มา: cna