‘ภูมิธรรม’ ร่ายยาวคุย ‘ปชน’ ตั้งรัฐบาล ถาม ‘ภท.’ คุมได้จริงหรือ อุบยุบสภา แย้มมีกระบวนการตาม รธน.
‘ภูมิธรรม’ ร่ายยาว รายละเอียดเจรจา ‘พรรคประชาชน’ ตั้งรัฐบาล ฝากไว้ให้คิด แน่ใจหรือ ‘ภูมิใจไทย’ คุมได้จริง อุบยุบสภา แย้มมีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ เตือน ปชน. ร่วม ภท. คิดให้ดี ชี้ ต้องเร่งตั้งรัฐบาล ปล่อยเป็นเป็ดง่อยไม่ได้
1 ก.ย.2568-ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพูดคุยกับพรรคประชาชนเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังอยู่ในจุดที่พรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายจากพรรคร่วมรัฐบาลในการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อวานนี้ได้พบกับพรรคประชาชน จริงๆแล้วตนไม่ต้องเดินทางไป แต่เมื่อมีการถามหาตนจึงต้องลาการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ไป และได้พูดกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยได้มอบหมายให้ทำหน้าที่ตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งคิดว่าอนาคตของประเทศมีความสำคัญ แม้จะมีความกินแหนงแคลงใจ ไม่พอใจกันบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน
เมื่อวานที่ได้เดินทางไปพรรคประชาชนได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นมาก ก่อนที่จะเข้าไป และหลังจากที่เดินเข้าไปแล้ว ก็รออยู่ไม่มีผู้บริหารรับ และได้เดินเข้าไปพบ 4-5 คนในห้องประชุม ซึ่งเราไปกับตัวแทนพรรคร่วมหลายคน ซึ่งในการพูดคุยตนได้ขอบคุณที่ให้โอกาสมานั่งประชุม ซึ่งในฐานะตัวแทนที่ทุกคนได้มอบหมาย แม้ว่าจะไม่มีหน้าที่ในพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่ก็ทำหน้าที่ในการปฏิบัติงานแทนนายกฯ ซึ่งเป็นประธานของครม. และเมื่อมีการถามหาตนจึงเดินทางไป ซึ่งการพูดคุยตนได้มีการเสนอว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคในข้อเสนอ ทั้งหมดของพรรคประชาชนเรารับทั้งหมด เป็นเรื่องที่ตรงกัน เพราะว่าวันนี้ประเทศวิกฤติ ถึงเวลาที่จะต้องรีเซ็ทการเมืองใหม่ เพราะฉะนั้นการเสนอให้ดำเนินการตามข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นเรื่องที่ดีควรจะทำ และสิ่งที่พรรคประชาชนได้เสนอถามกลับมา ประเด็นแรกคือ รัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่มีเจตนาอะไร หัวใจสำคัญ คือ การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไกของ ส.ส.ร. ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่ได้สนับสนุน ซึ่งตนก็ไม่ได้จิตใจที่จะใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อประกอบใช้ในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากพรรคประชาชนติดใจเรื่องนี้ก็สามารถถอนออกได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเรายอมรับอยู่แล้วว่าจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เมื่อถามถึง เรื่อง MOU43-44 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เห็นว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลใหม่ ยืนยันไม่มีอะไรติดใจหากจะดำเนินการในเรื่องนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง จึงเห็นควรแนบไปกับประชามติ ถ้าประชาชนเห็นอย่างไรรัฐบาลใหม่ จะได้ดำเนินการตามนั้นวิกฤติเรื่องนี้จะได้จบลง
ถามว่า ประเด็นที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้วสว. นายภูมิธรรม กล่าวว่า จริงๆเป็นกระบวนการยุติธรรม จะบอกให้เป็นกระบวนการยุติธรรมก็ได้ และไม่ว่าจะเป็นคดีจากพรรคใด ทั้งที่ดินอัลไพน์ ตนคิดว่าทำได้ทั้งนั้นเพราะว่าอยู่ในกระบวนการ ซึ่งทั้งหมดนี้ตนไม่ได้ตอบไปยังพรรคประชาชน แต่ตนตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุด
“เห็นแกนนำพรรคประชาชนหลายคนพูดว่าหัวใจสำคัญ ของการตัดสินใจเรื่องนี้อยู่ที่การจะดูว่าใครจะอยู่ในความควบคุมได้มากที่สุด ซึ่งผมมองว่าไม่น่าจะเป็นการควบคุม อยู่ที่ว่าสิ่งที่เขาเสนอสามารถเป็นไปตามข้อตกลงได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าจะสนใจพรรคภูมิใจไทย ผมคิดว่าเรื่องการควบคุมว่ามีเสียงน้อยเสียงมาก หรือจะไปจับมือกับเขา การพิจารณาไม่ใช่เรื่องของการควบคุมได้ เพราะตอนนี้หากพูดกันตามความจริงก็ไม่มีใครสามารถควบคุมใครได้ หากคิดว่าไม่ซื่อตรงแล้วจะตัดสินใจก็ตัดสินใจได้ แต่สิ่งสำคัญคือการที่จะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ในเวลาอีก 4 เดือน ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ขอถามว่าคดีเขากระโดงจะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ ในการตีความของพรรคภูมิใจไทย เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนำที่ของหลวงกลับมาในช่วงสิ้นเดือนนี้ เช่นเดียวกับเรื่องการฮั้ว สว. ที่กำลังเข้าสู่การเปิดประเด็นจับกุม ซึ่งขณะนี้ติดอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตนเชื่อว่า 2 เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ แต่ตนได้บอกไปว่าหากติดใจเรื่องนี้ ก็ไม่เป็นไรแต่ขออย่าให้มีกระบวนการแทรกแซง และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรตนก็เคารพการตัดสินใจของพรรคประชาชน แต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นหัวใจสำคัญใครจะ ทำเต็มที่ได้มากกว่ากัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนยันในเรื่องนี้มาตลอด สิ่งที่เคยเป็นปัญหาในเรื่องบางมาตราที่มีความแตกต่างกัน แต่ในเรื่องการยกมือโหวตตรงกัน คือให้มีการตั้ง ส.ส.ร. จึงถามว่าใครคือผู้มีบทบาทในการควบคุม สว. ฝากให้ไปคิด”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรที่พรรคประชาชน สามารถทำให้เกิดขึ้น ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี เพราะพรรคพรรคภูมิใจไทยสามารถทำได้ง่าย จะรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจตนบอกว่าไม่ทัน เชื่อว่า จะดำเนินการไปก่อน เพราะอำนาจ ในการยุบสภารัฐบาลพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นเรื่อง และสิ่งสำคัญขออย่าเบี่ยงประเด็นว่าใครจะได้มากได้น้อย หรือพรรคภูมิใจไทยมีน้อยกว่า 100 เสียง สามารถควบคุมได้ โดยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วนพรรคเพื่อไทยยอมรับว่า เคยบาดหมางกัน แต่เรายืนยันในข้อตกลงมาตลอด การที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยบิดพลิ้ว หรือตระบัดสัตย์ 2 ครั้ง ที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ล้วนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้เสนอชื่อทั้ง 2 ครั้ง และทุกเสียงของพรรคเพื่อไทยยกมือให้หมด แต่สิ่งที่บอกคือ สว. จะโหวตให้แต่สุดท้ายไม่เลือก และประเด็นสุดท้ายขอเวลา 10 เดือน ซึ่งได้ประกาศไปชัดเจนตั้งแต่แรก ว่ารอการตัดสินใจของพระประชาชนไม่ได้ และวันนี้อยากจะร่วมมือกัน ลืมเรื่องเก่าๆ และอยากจะร่วมมือกัน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนยอมรับว่าปล่อยประเทศ ให้พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนที่มี 360 เสียงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ ในขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนมาเจรจาด้วย เพราะไม่มีความเชื่อมั่นเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้อยู่ในอำนาจของพรรคประชาชน ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ
เมื่อถามว่า หากพรรคประชาชนไม่ร่วม รัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือตัดสินใจยุบสภา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภา เราเสนอประเด็นให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ถ้าเขาเลือกพรรคภูมิใจไทยก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร ก็มีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้วที่จะต้องหาทางออกในหลายๆทางที่เป็นไปได้ อันนั้นอยู่ที่ดุลยพินิจ ขอให้สถานการณ์ชัด ตอบให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย และมีข้อกังวลอะไรบอกมาให้ชัด และข้อกังวลนั้นจะหาทางป้องกันอย่างไร
ถามถึงกระบวนการของพรรคเพื่อไทยว่าปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เปล่าครับ ยังไม่มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากจะร่วมการตั้งรัฐบาล โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แล้วจะดำเนินการตามนั้น บอกแล้วว่านโยบายมีเยอะ รวมถึงวาระแห่งชาติ คือต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ ให้มีการรีเซ็ตใหม่คือต้องไปแก้รัฐธรรมนูญ
ถามอีกว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลเดิม และยังรักษาการอยู่ คิดว่าการจับขั้วเพื่อให้ได้นายกฯคนใหม่ ควรจะใช้เวลาเร็วที่สุดเมื่อใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อยากได้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยสภาพแบบนี้ไว้ก็เป็นรัฐบาลเป็ดง่อย ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ อยากให้รอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ พรรคประชาชนยังไม่เคยเลือกนายกฯจากนอกพรรค ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าจะประเดิมด้วยพรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะสร้างหลักประกัน หรือความมั่นใจอะไรให้กับพรรคประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่พรรคประชาชนต้องถามตน ก็รอให้สิ่งนั้นเกิด
เมื่อถามว่า วันนี้พรรคประชาชนจะมีคำตอบที่ชัดเจนมาให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบครับ เพราะเขาบอกว่ากลไกโครงสร้างเยอะ ต้องถามจากส่วนต่างๆ ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่วันนี้ที่มีประชุมและจะมีคำตอบหรือไม่ อาจจะไม่แน่ใจ จะมีหรือไม่มีก็ได้ไม่เป็นไร ขอให้พรรคประชาชนใช้เวลาเต็มที่ แต่เมื่อเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วย เพื่อให้เราดำเนินการขั้นต่อไป
ถามว่า นอกจากพรรคประชาชนแล้วพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังอยู่ด้วยกัน ยังเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ชัดว่าจะไปต่อและการที่มาร่วมแถลงข่าว อาจเป็นเพียงมารยาททางการเมือง เท่านั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาไม่ได้พูดคำนี้ เขาพูดเพียงว่าขณะนี้เรายังร่วมกันอยู่ ทั้งหมดจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งเราเคารพอยู่แล้วทุกพรรคต้องพิจารณาตามสถานการณ์การเมือง