ชาวบ้านโร่แจ้งตำรวจ! พบชายแต่งกายพระสงฆ์อาศัยนอนลานจอดรถในห้าง ฉันข้าวที่ได้จากบิณฑบาต
(2 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงาน มีแหล่งข่าวรายหนึ่ง ส่งภาพคลิปวิดีโอมายังทีมข่าว เพื่อขอให้ประสานทางตำรวจเข้าตรวจสอบ พบชายสองคนแต่งกายเป็นพระสงฆ์ขับรถกระบะมาจอดในลานจอดรถ ภายในห้างแห่งหนึ่ง ย่านอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในท่าทีแปลกๆ เนื่องจากมีการแบ่งกับข้าวที่ได้มาจากการบิณฑบาต และเงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งนั่งฉันข้าวที่ท้ายรถ ทีมข่าวได้ประสานไปยังสายตรวจของสภ.บางพลี เข้าตรวจสอบ โดยตำรวจ สภ.บางพลี ได้เข้าตรวจสอบและเชิญตัวบุคคลทั้งสองพร้อมด้วยรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาตรวจสอบที่โรงพัก
จากการตรวจสอบของตำรวจพบัตรประชาชน ระบุชื่อ พระบัญดิษ อายุ 50 ปี กับ พระรัชกฤษณ์ฎิพงษ์ อายุ 58 ปี โดยทั้งพระรัชกฤษณ์ฎิพงษ์ ได้แสดงใบสุทธิของสงฆ์ให้เจ้าหน้าที่ดู ซึ่งพบว่าบัตรสุทธิหมดอายุตั้งแต่ปี 2559 ส่วนพระบัญดิษ ไม่มีใบสุทธิ และอ้างว่าทำหาย ตำรวจจึงตรวจสอบประวัติย้อนหลังของบุคคลทั้งสอง พบประวัติเพิ่งเคยถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนพระรัชกฤษณ์ฎิพงษ์ เคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง ที่จังหวัดสงขลา และปี 2567 เคยถูกจับในข้อหา แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายแสดงตัวว่าเป็นพระสงฆ์ ที่จังหวัดปทุมธานี
พระบัญดิษและพระรัชกฤษณ์ฎิพงษ์ ให้การว่าตอนแรกอ้างว่า ตนเองเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยออกจากวัดมาที่สมุทรปราการ เพื่อมานั่งบิณฑบาตที่หน้าตลาดในตอนเช้าไปมาตั้งแต่บางปู บางปลา จนล่าสุดมาที่ตลาดกิ่งแก้ว
ส่วนพระบัญดิษ บอกว่า ตนเองไปบิณฑบาตอีกแห่ง หลังจากบิณฑบาตเสร็จก็นัดกันมาเจอที่ลานจอดรถดังกล่าว ส่วนรถกระบะที่เห็น เป็นรถของลูกสาว แต่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนขับเอง ที่ผ่านมาจะออกไปนั่งรับบิณฑบาตตามชุมชนและตลาด ซึ่งนอกจากจะได้กับข้าวมาแบ่งกันกินแล้ว ยังได้ปัจจัยเฉลี่ยวันละ 300-400 บาท โดยจะอาศัยนอนกันในรถ และจอดตามสถานที่ต่างๆ ถึงเวลาก็ออกไปบิณฑบาต
ตำรวจจึงถามถึงวินัยสงฆ์ หากเป็นพระจริง ช่วงเข้าพรรษา สามารถจำพรรษาในรถได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า ก็สวดมนต์ปลงอาบัติบอกกล่าวเป็นภาษาบาลีแทน ส่วนที่เคยถูกจับเมาแล้วขับนั้น พระบัญดิษ หรือ นายบัญดิษ บอกกับนักข่าวว่า ตนเองเคยถูกจับจริง ที่ถูกจับเพราะว่า ขับรถไปจอดนอนกัน ตอนนั้นก็ใส่ผ้าหลวงเป็นพระอยู่ ชาวบ้านมาเห็นเลยโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจมาตรวจสอบ พบว่าตนเองเมาแล้วขับ จึงถูกจับ แต่ยอมรับที่กินไปนั้น ไม่ใช้เหล้า แต่มันคือยาดองเฉยๆ เป็นยาดองที่ใส่แอลกอฮอล์ กินเพื่อบำรุงร่างกาย โยมเขาเอามาให้ แบบใส่โหลกระปุก และมีการผสมน้ำผึ้งด้วย แต่ก็ไม่ได้ดื่มทุกวันหรอก หลังจากนั้นก็ถูกจับสึกและถูกดำเนินคดี ก่อนจะย้อนกลับมาบวชอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้จนมาถูกตำรวจจับกุมในครั้งนี้
เบื้องต้นตำรวจจึงเชิญตัวทั้งสองไปพบกับ ทางด้าน พระครูอมรวชิรธรรม เจ้าคณะตำบลบางพลี เจ้าอาวาสวัดบางโฉลงนอก เพื่อทำการลาสิกขาให้กับบุคคลทั้งสอง โดยมี พระมหาณรงค์ ขันติพโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เปรียญ 7 ประโยค ทำหน้าที่ในการลาสิกขา ก่อนจะนำตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.บางพลีในข้อหา แต่งกายเลียนแบบพระ ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป