ดราม่า บริษัทประกัน นินทาลูกค้า ลั่น #มึงทำยังไงก็ได้ไม่ให้มันมีหลักฐาน
แรงมาก! บริษัทประกัน นินทาลูกค้า ลืมวางสาย พนังงานบริษัทประกัน ด่าลูกค้าเคลมประกัน ลั่น #มึงทำยังไงก็ได้ไม่ให้มันมีหลักฐาน
ข่าวโซเชียล กรณี ดราม่า บริษัทประกัน นินทาลูกค้า โดยเรื่องราวดังกล่าวมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า #มันคือปาฏิหาริย์! เรามีคลิปเสียง เป็นคลิปหลุด กับคำพูดของ พนักงานของ บริษัทประกัน และกลวิธีต่างๆ ไม่น่าเชื่อ! เกิดขึ้นได้น้อยมาก กับบริษัทประกัน #ที่ลืมวางสายสนทนาหลังจากที่คุยกับเราเสร็จ โชคดีมากที่เราไม่กดวาง เพราะเราได้ยินทั้งหมด เราได้ยินทั้งหมดจริง ๆ คำพูดชัด ฟังแล้วเจ็บปวด #มึงทำยังไงก็ได้ไม่ให้มันมีหลักฐาน #อีนี่มันหวังเงิน #โทรไปเคลียร์กับมัน #อีนี่มันเก่งมากเก่งจัดเลย และมีคำพูดนึงค่ะที่ทุกคนจะไม่อยากทำประกันเลย แต่ไม่สามารถพิมพ์ออกมาได้ มันเป็นกลวิธีที่เลวร้ายมาก สำหรับผู้ที่เสียชีวิต
เหตุการณ์นี้ เรารู้แล้วว่าเค้ากำลังคุยกันถึงเรื่องการนินทาลูกค้าและกลอุบายต่างๆ รวมถึงวิธีการที่ไม่เป็นธรรม เราจึงรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือ จากบุคคลภายนอก ขอให้พี่เค้าช่วยอัดคลิปเสียงไว้ให้ เพราะเรามีโทรศัพท์เครื่องเดียว เราคุกเข่าอ้อนวอนขอให้พี่เค้าช่วยเหลือ เพราะมันคือทางรอดทางเดียวที่จะให้บริษัทประกัน จำนนต่อหลักฐาน! #ขอไม่เอ่ยชื่อประกันนะคะว่าบริษัทไหน แต่หวังว่าหากเรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป บริษัทประกันอื่นๆจะต้องระวังและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตทุกคน จริง ๆ เราไม่อยากโทษบริษัทประกันนะคะ แต่เราไม่รู้ว่าทำไม ตัวแทนประกัน ที่เป็นถึงขั้นผู้ประเมินประกัน ผู้ประสานประกัน ผู้เกี่ยวข้องในฝ่ายประกันไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม เค้ามีวิธีการคิดแบบนี้ได้อย่างไร
บริษัทประกัน นินทาลูกค้า ลืมวางสายด่าฉ่ำ
โดย เจ้าของโพสต์ระบุข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า คนที่มาถามในคอมเม้นว่า “ตอบให้ชัด ๆ ว่าคุยและะประสานกับใคร เพราะตัวแทนประกันรู้สึกว่ามีผลกระทบกับเรื่องนี้?” เข้าใจค่ะ #และขอโทษตัวแทนประกันท่านอื่นด้วยนะคะ หากบริษัทของท่านทำดีแล้วทำต่อได้เลยค่ะ บริษัทที่น่าเชื่อถือมีเยอะเลย แต่ไม่อยากให้มาคอมเม้นต์อะไร เพราะ เราจะตอบคุณชัดชัดว่า!
1. เราคุยกับผู้ประสานงานประกัน และใช้คำพูดบังคับให้เราไม่ให้ติดต่อกับบริษัทประกันเอง ถ้ายังอยากได้เงินประกัน รวมถึง ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นสาเหตุ ของการทะเลาะและถกเถียงกัน จนทำให้เราต้องออกมาโพสต์ หลักฐานตามที่เราได้ลงข้อความแชทไป ว่าพฤติกรรมของพนักงานท่านนี้ เป็นแบบนี้ จึงทำให้มีผลกับเอกสารที่ล่าช้า และไม่ตรงไปตรงมา ** เมื่อวานเราได้รับการติดต่อมาเรียบร้อยแล้วจากทางทนายความ ได้รับคำขอโทษจากบริษัท ได้ยืนยันว่า น้องมีประกัน ซึ่งข้อมูลต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก และความผิดก็อยู่ที่ส่วนบุคคล เราจึงไม่อยากติดใจเอาความมาก เพราะเป็นเพียงพนักงานท่านหนึ่ง ที่ไม่ควรทำกับญาติผู้เสียชีวิตแบบนี้
2. เราคุยกับ บริษัทประกัน หลายที่ (มากกว่า 4) ของน้อง ได้ติดต่อมาเอง จากการที่เราไปร้อง คปภ. และมีบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ซึ่งเราพูดชื่อไม่ได้ พูดไปก็โดนฟ้อง แต่หากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ก็อยากเอาไว้เป็นเพียงวิทยาทาน อยากให้บริษัทประกันรอบคอบมากกว่านี้เพื่อสิทธิประโยชน์ของผู้เสียชีวิต ที่ได้ทำไว้ให้กับบุคคลข้างหลัง แต่เมื่อเราได้ฟังสายสนทนา ที่ใช้คำว่า #ลืมวางสาย มันเกิดขึ้นจริงนะคะ เราได้ยินที่เค้าด่าทอลูกค้าทั้งหมด และได้ยินถึงวิธีการที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงหลักฐาน เรายังโชคดี ที่มีมีสติมากพอ บันทึกสายสนทนานี้ไว้ได้
สิ่งหนึ่งที่เราอยากได้จากเรื่องนี้คือ เราไม่อยากให้คุณทำแบบนี้กับใคร ไม่ว่าเขาจน จะรวย เขาคือลูกค้าของคุณ และเขาได้สูญเสียไปแล้ว เราอยากได้เงินตรงนี้มากหรอ มันไม่ใช่เงินที่เยอะเลย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ทางผู้สูญเสียควรได้ไม่ใช่หรอ จริงไหม ? ลูกเค้าเล็กมากนะ อย่างน้อยก็อาจจะเยียวยาได้ไปหลายปี
ข่าวที่น่าสนใจ
- คลิปหญิงถูกราดน้ำมันจุดไฟเผา กลางกรุงเทพฯ พลเมืองดีช่วยดับวุ่น
- มาลีแกไม่รอดแน่ ยกแรกเริ่ม! บุ๋ม ปนัดดา ฟาดใส่ พลโทเฟคนิวส์เขมร แซ่บมาก
- ข้อมูลอึ้ง เมียทหาร BHQ คบซ้อนผัวฝรั่ง ไอ้หนุ่มเขมรเป็นชู้ ขอปิดหน้ากลัวบ้านแตก
สิ่งสุดท้ายที่อยากพูดคือ : หากวันนี้โชคชะตาให้เราเลือกได้ เราไม่ได้อยากได้เงิน เราแค่อยากได้ชีวิตน้องเราคืน เราอยากได้เสาหลักของครอบครัว คืนให้กับภรรยา และลูกของเขา ไม่ดีกว่าหรอ ? เราในฐานะพี่สาวที่เลี้ยงน้องมาจนโต ส่งเสียน้องมาทุกอย่าง เป็นเพียงแค่ที่เราไม่สามารถทนเห็นพฤติกรรมของพนักงานแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประสาน และ บริษัทประกัน แค่เราสูญเสีย เราเสียใจมากพอแล้ว แต่ทำไมเราถึงต้องมารองรับอารมณ์ของพนักงานที่ดูแลเกี่ยวกับชีวิตคนด้วย เราไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ เราเป็นเพียงผู้มาประสานงานแทน และได้รับการยินยอมอย่างถูกต้อง แต่แค่วันนี้ เราแค่เลือกเอาชีวิตน้องชายเราคืนมาไม่ได้เท่านั้นเอง ที่เหลือ เราก็ต้องตามสิทธิ์ ตามสมควร
ใจเราไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของบริษัท 100% เพราะ ปัญหานี้ เกิดจากพนักงานของท่าน และพนักงานคือตัวแทนของบริษัทในการเข้ามาเจรจา หากท่านทราบเรื่องนี้จากคำร้องเรียนแล้ว อยากให้ทราบถึงเจตนาของเรา เราไม่ได้อยากจะทำร้ายบริษัท หาก พนักงานของท่าน ไม่คิดทำร้ายเราก่อนด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ