‘กองทัพบก’ แจงไร้ข้อเสนอ ‘เขมร’ ไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิด แลกรื้อลวดหนาม
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. จากกรณี พล.ท.หญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุหากไทยจะเก็บกู้วัตถุระเบิด ต้องรื้อรั้วลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งหมด ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการตรวจผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ในวันนี้นั้น กัมพูชา ไม่มีเงื่อนไขให้ไทยรื้อรั้วลวดหนามจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แลกกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยขอให้ยึดตามคำแถลงข่าวของแม่ทัพภาคที่ 1 เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ไม่ใช่ โดยการแถลงข่าวมีเนื้อหาต่อไปนี้
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมตกลงกันด้วยดี และเห็นชอบในการปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทั้ง 13 ประเด็น นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือในเรื่องสำคัญเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และการแก้ไขปัญหาที่มีความสำคัญที่ส่งผลต่อประชาชนทั้งสองประเทศให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ดังนี้ 1.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ที่จะดำเนินการร่วมมือในเรื่อง การกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยพิจารณาให้มีการหารือร่วมกันในการประชุม GBC ครั้งต่อไป 2.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ที่จะร่วมมือและประสานงานกันในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ใช้เวทีของมหาดไทย กัมพูชา ในการได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเห็นควรเสนอให้มีการหารือร่วมกันในการประชุม GBC ครั้งต่อไป
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า 3.ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นชอบในการให้มีกลไกแก้ไขปัญหา ด้วยการจัดตั้งชุดประสานงาน (Coordinating Group: CG) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (Township Border Committee : TBC) เพื่อเป็นกลไกรองรับของคณะ RBC ในการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ และ 4.ในเรื่องการแก้ไขปัญหาการละเมิด MOU 43 ฝ่ายกัมพูชาขอให้ใช้กลไกอื่นๆ หารือ เนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจของ RBC โดยฝ่ายไทยยืนยันเสนอให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญ และได้แจ้งเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา
โฆษกกองทัพบก กล่าวด้วยว่า ผลการประชุมครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ และตอบสนองผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา.