ชายวัย 54 ดื่มสิ่งนี้ แค่สัปดาห์เดียว ตับวายเฉียบพลัน ทั้งที่ไม่แตะแอลกอฮอล์

“ชายวัย 54” ดื่มสิ่งนี้ แค่สัปดาห์เดียว ตับวายเฉียบพลัน ทั้งที่ไม่แตะแอลกอฮอล์ กรณีชายวัย 54 ที่ตับวายเฉียบพลันใน 7 วัน ทั้งที่ไม่แตะแอลกอฮอล์ ถือเป็นอุทาหรณ์ใกล้ตัวที่น่าตกใจ เพราะสาเหตุมาจาก "สิ่งนี้" ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าอันตรายขนาดนี้ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าเครื่องดื่มปริศนาคืออะไร และทำไมถึงทำร้ายตับได้รวดเร็วขนาดนี้ พร้อมคำแนะนำจากแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับคุณ

อันตรายที่คาดไม่ถึง ชายวัย 54 ดื่ม 'สิ่งนี้' แค่สัปดาห์เดียว ตับวายเฉียบพลัน ทั้งที่ไม่แตะแอลกอฮอล์

สำนักข่าว Daily Mail รายงานกรณีศึกษาที่น่าตกใจของ นาย Robert Grafton ชายชาวอเมริกันวัย 54 ปี ที่เกิดภาวะ ตับวายเฉียบพลัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ โดยสาเหตุไม่ได้มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มาจากการดื่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดจากขมิ้นชัน

นาย Grafton เล่าว่าหลังจากดูโฆษณา เขาได้ลองดื่มสารสกัดขมิ้นในรูปแบบน้ำเพื่อบำรุงตับ แต่กลับพบอาการผิดปกติอย่างรุนแรง เช่น ปัสสาวะสีเข้ม คลื่นไส้ และอาการคันอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาหยุดดื่มและไปพบแพทย์ ผลตรวจพบว่าเขาเกิดภาวะตับถูกทำลายจากสารในอาหารเสริม หรือ DILI (Drug-Induced Liver Injury)

ขมิ้นทำร้ายตับได้อย่างไร? และความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับอาหารเสริม

แม้ขมิ้นจะเป็นสมุนไพรธรรมชาติ แต่การบริโภคในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป เช่นในรูปแบบแคปซูลหรือน้ำสกัดเข้มข้น อาจทำให้ตับต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารพิษ จนเกิดการสะสมและนำไปสู่ภาวะเป็นพิษต่อตับได้

แพทย์เฉพาะทางตับจากมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวว่า "หลายคนเข้าใจผิดว่าอาหารเสริมจากธรรมชาติจะปลอดภัย แต่หากใช้เกินขนาดโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้" ทั้งนี้ The American Journal of Medicine ยังรายงานว่ามีผู้ป่วยอย่างน้อย 10 ราย ที่ตับถูกทำลายจากการใช้ขมิ้นชันในรูปแบบอาหารเสริมระหว่างปี 2004–2022

วิธีใช้ขมิ้นชันอย่างปลอดภัยตามคำแนะนำ

เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะตับเป็นพิษ องค์การอนามัยโลก (WHO) มีคำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคขมิ้นชันดังนี้

• ปริมาณที่เหมาะสม: ไม่ควรบริโภคขมิ้นเกิน 3 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
• หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับสารอื่นๆ: ไม่ควรใช้ร่วมกับสารสกัดพริกไทยดำ ซึ่งแม้จะช่วยเพิ่มการดูดซึม แต่ก็เพิ่มภาระการทำงานของตับ
• ใช้แล้วควรพัก: ควรหยุดพักการใช้เป็นระยะ ไม่ควรใช้ต่อเนื่องยาวนาน
• ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้: หากคุณมีโรคตับอยู่เดิม หรือกำลังใช้ยาชนิดอื่น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

กรณีนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนให้เราตระหนักว่า แม้อาหารเสริมจะดู "เป็นธรรมชาติ" แต่หากใช้ผิดวิธีหรือเกินขนาด ก็สามารถส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพได้ การดูแลสุขภาพควรอยู่บนพื้นฐานของความรู้และความระมัดระวังเป็นสำคัญ

ผลข้างเคียงของขมิ้น

รีบไปรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินหากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ

แม้ว่าจะยังไม่ทราบผลข้างเคียงทั้งหมด แต่ขมิ้นชันก็ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อใช้ตามคำแนะนำ

ผลข้างเคียงทั่วไปของขมิ้นอาจรวมถึง

• อาการคลื่นไส้ อาเจียนปวดท้อง ;
• อาการท้องผูก, อาหารไม่ย่อย;
• อาการท้องอืด; หรือ
• ท้องเสีย.