SCGC ผนึกกำลังเทศบาลนครมาบตาพุด เดินหน้าจัดการขยะอย่างยั่งยืน ส่งต่อวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงานให้กับ 6 ธนาคารขยะชุมชน สู่สังคมคาร์บอนต่ำ
SCGC ผนึกกำลังเทศบาลนครมาบตาพุด เดินหน้าจัดการขยะอย่างยั่งยืน ส่งต่อวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงานให้กับ 6 ธนาคารขยะชุมชน สู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
ระยอง-เมื่อเร็วๆนี้เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ร่วมกับเทศบาลนครมาบตาพุด และเครือข่ายธนาคารขยะชุมชน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) “ส่งมอบวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงานให้แก่ธนาคารขยะชุมชน” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วยการนำวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงานของกลุ่มธุรกิจ SCGC ไปรีไซเคิลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของ SCGC ด้าน Low Waste, Low Carbon โดย SCGC จะจัดส่งวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงาน อาทิ ขวดพลาสติก ฝาขวด กระป๋อง และขวดแก้ว
ให้กับธนาคารขยะชุมชนรวม 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารขยะชุมชนเขาไผ่ ธนาคารขยะรีไซเคิล ชุมชนตลาดมาบตาพุด ธนาคารขยะ อสม. ชุมชนโขดหิน 2 วิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้า วิสาหกิจชุมชนธนาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมชุมชนเนินพยอม และวิสาหกิจชุมชนหนองบัวแดงเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีนครมาบตาพุด ดร.พิเชษฐ์ ตั้งปัญญารัช ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการและนวัตกรรม – การจัดการอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางธุรกิจ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยประธานธนาคารขยะชุมชนทั้ง 6 แห่ง ร่วมลงนามความร่วมมือดังกล่าว
นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีนครมาบตาพุด กล่าวว่า “เทศบาลนครมาบตาพุดให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการจัดการวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนจังหวัดระยอง โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงาน แต่ยังเพิ่มรายได้และแรงจูงใจให้ชุมชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการรีไซเคิล นับเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นต้นแบบของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อชุมชนที่น่าอยู่และยั่งยืนต่อไป”
ด้าน ดร.พิเชษฐ์ ตั้งปัญญารัช ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการและนวัตกรรม – การจัดการอุตสาหกรรมและความร่วมมือทางธุรกิจ SCGC กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการขยะอย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ SCGC ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดย SCGC ตั้งเป้านำพลาสติกใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน 500,000 ตันต่อปี ภายในปี 2573 พร้อมทั้งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำโดยเน้นการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ยังช่วยส่งเสริมและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย”