นักท่องเที่ยวมาเลเซียถูกสาดทินเนอร์เผาไฟ สะเทือนเที่ยวไทย ความเชื่อมั่นปลอดภัยวูบ
จากที่ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจและสะเทือนขวัญ โดยนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ได้ใช้ทินเนอร์สาดใส่ร่างของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 2 คน
ประกอบด้วย นายออง ยิก เหลียง อายุ 26 ปี และ น.ส.เกน เซียว เซียน อายุ 27 ปี ก่อนจะจุดไฟเผาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 เวลา 22:00 น. ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านราชดำริ กรุงเทพมหานคร
จากการสอบสวน นายวรากรให้การว่า ก่อเหตุเพราะความเครียดจากการตกงานและไม่มีรายได้ โดยก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวยและได้สมัครงานเป็น รปภ. แต่ถูกให้ออกจากงาน ทำให้เกิดความเครียดและลงมือก่อเหตุดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ พลเมืองดีได้เข้าช่วยเหลือและควบคุมตัวนายวรากรไว้ได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี จะเข้ามาตรวจสอบและดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย
ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและดูแลนักท่องเที่ยวทั้งสองอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานงานกับสถานทูตมาเลเซียและหน่วยงานด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว
เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในมาเลเซีย ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางมายังประเทศไทย
แน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้สร้างบาดแผลให้กับภาพลักษณ์ความปลอดภัยของไทยในสายตานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มมาเลเซียที่เป็นฐานสำคัญช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนหดตัว หากไม่ได้รับการจัดการและแก้ไขอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ตลาดท่องเที่ยวสำคัญนี้หดตัวตามไปด้วย และจะส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ตามข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ในปี 2567มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ประมาณ 4.65 ล้านคน โดยฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังโควิด-19 และการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมาเลเซีย
ขณะที่ ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค-ก.ค.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเที่ยวไทย ประมาณ 2.46 ล้านคน โดยมาเลเซียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดสำหรับประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว เทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนอยู่ที่ประมาณ 2.44 ล้านคน ทำให้มาเลเซียขึ้นเป็นตลาดหลักแทนจีนในช่วงนี้