"ปลัด มท." เปิดตัวหนังสือพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล

วันนี้ (11 ส.ค. 68) เวลา 10.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และคณะที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ได้แก่ นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี, นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ และนายพลพัฒน์ อัศวะประภา ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว "หนังสือการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่สากล ประจำปี 2568 (Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026)" ณ EMSKYE ชั้น 14 เอ็ม ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ กรุงเทพฯ

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนทุกถิ่นที่ทั่วประเทศ ได้รับพระกรุณาคุณในการถวายงานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานพระราชโชบายให้กระทรวงมหาดไทยได้ประยุกต์สู่การปฏิบัติ เริ่มจากแนวพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" และการพระราชทานผ้าลายพระราชทาน สู่การบ่มเพาะผู้ประกอบการ ช่างทอผ้า เพื่อพัฒนาคุณภาพและยกระดับผ้าไทย และงานหัตถกรรมไทยสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน

"พระองค์ท่านทรงเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาผ้าไทยสู่ความเป็นสากลมากขึ้น และด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล จึงทรงพระวินิจฉัยถึงความยั่งยืนจะเกิดได้ "ความงามต้องควบคู่กับความรับผิดชอบ" ด้วยเส้นใยจากวัตถุดิบทางธรรมชาติที่สามารถทอได้อย่างหลากหลายมากมาย เรียกว่า พัฒนาโดยใช้ธรรมชาติมาช่วยเรา ดอกไม้ ใบไม้ รากไม้ เอาสิ่งที่เราปลูกมาทำเป็นเส้นใยเกิดเป็นแฟชั่นที่สรรค์สร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน และพระองค์ทรงทำสำเร็จให้เราได้เห็น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ได้สืบสานสิ่งที่สำเร็จให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น สืบสาน สานต่อเอกลักษณ์อัตลักษณ์ภูมิปัญญาคนรุ่นปู่ย่าตายาย ทำให้เกิดการต่อยอด เราทุกคนก็เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมให้สิ่งเหล่านี้คงอยู่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องช่างทอผ้าและผู้ประกอบการได้ด้วยการ "ทำให้สิ่งนี้ฝังอยู่ในใจ กลายเป็นใจ ไม่ใช่เป็นหน้าที่" เพื่อให้สังคมนี้หันมาเห็นคุณค่าและทำอย่างกับที่เราทำ คือการสวมใส่ผ้าไทยที่ทันสมัย ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากดี เศรษฐกิจมหภาคก็จะดีอย่างแน่นอน และตนเชื่อมั่นว่าจะต้องมี Trendbook เล่มที่ 7 8 9 อย่างแน่นอน" นายอรรษิษฐ์ กล่าว

นางจิณณารัชช์ กล่าวว่า "ผ้าไทยมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพิ่มมากขึ้นทุกปี" มีความสวยสดงดงาม จนคนรุ่นปู่ย่าตายายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผ้าไทยสวยงามขึ้นมาก ไม่เชยเหมือนแต่ก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากพระอัจฉริยภาพและองค์ความรู้แฟชั่นต่าง ๆ ที่ทรงรวบรวมมาให้ผู้ประกอบการได้ทำให้ผ้าสวยขึ้น วงการผ้าไทยได้รับการต่อยอดพัฒนาขึ้น และยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนอีกด้วย จากสมัยก่อนผ้าไทยราคาถูกมากแต่ทุกวันนี้ก็ตั้งราคาตาม Value ตามความคิดสร้างสรรค์ ตามลวดลายรูปแบบ ส่งผลให้ผู้หญิงไทยที่เป็นช่างผู้ทอผ้ามีเงินในการดูแลครอบครัว และยังมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เยาวชนคนรุ่นใหม่มีการดีไซน์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผ้าไทยมีความทันสมัยน่าสนใจมากขึ้น โดยตนอยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับตาตัวเองถึงความทันสมัยของผ้าไทยที่งาน "ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี 2568” 9 – 17 ส.ค. 68 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1–3 อิมแพคเมืองทองธานี และร่วมกันถ่ายทอดประชาสัมพันธ์สิ่งเหล่านี้ไปยังคนรู้จักและเพื่อน ๆของพวกเราไปด้วยกันค่ะ

นายสยาม ได้กล่าวถึงบทบาทของกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนได้น้อมนำพระดำริมาบริหารจัดการภายใต้ "โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก" และมีกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายลงไปสู่พี่น้องประชาชนในระดับพื้นที่ เพื่อสร้างความกินดี อยู่ดี ให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการดึงภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นของประเทศไทย ทำให้เกิดการพัฒนาลวดลายผ้า อาทิ ดอนกอยโมเดล นาหว้าโมเดล บาติกโมเดล สิ่งเหล่านี้คือโครงการภายใต้กิจกรรมของกรมการพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ทรงเป็นพระอาจารย์นำแนวทางขยายผลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ด้วยการดึงเอาคนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรม เช่น Young Designer ผู้ประกอบการ OTOP รุ่นใหม่ และพระราชทานพระดำริ Sustainable Fashion สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) และล่าสุด พระองค์ท่านได้รับการทูลเกล้าฯ ประกาศเชิดชูพระเกียรติและรับการถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจด้านการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม การส่งเสริมงานวิจิตรศิลป์ รวมทั้งการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ตลอดจน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในประเทศไทย จากนางโอเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ณ สำนักงานใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

นางอรจิรา กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการคนแรกของไทยที่ทำให้ประเทศไทยมี Trend Book เป็นครั้งแรก ด้วยพระกรุณาคุณที่ทำให้เกิดคู่มือสร้างสรรค์ผ้าไทย ทำให้ผู้ประกอบการ คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ สามารถหยิบเล่มนี้มาคาดเดา มาพยากรณ์อนาคต เพื่อที่จะให้มี Trend ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนมีความต้องการในอนาคตได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มีทักษะฝีมืออยู่แล้วสามารถนำองค์ความรู้เข้ามาใช้ในการออกแบบดีไซน์ สร้างสรรค์ผลิตผลงานจากปัจจัยการผลิต เช่น ใบไม้ ต้นไม้ที่อยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ ทำให้เกิดการสะท้อนเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของท้องถิ่น เฉกเช่น Concept Trend Book เล่มนี้ "อนาคตแห่งแฟชั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน" ทุกคำมีความหมายครบสอดคล้องกับ Sustainable ที่เป็น Global

คุณธนันท์รัฐ กล่าวว่า Trend Book เล่มนี้เป็นเล่มที่ 6 ที่เกิดจากการ Research และทำโฟกัสกรุ๊ปของนักวิชาการจาก 38 มหาวิทยาลัยราชภัฏ และทุกมหาลัยรัฐ เอกชน นักวิชาการอิสระจากทั่วประเทศ มาร่วมกันตกตะกอน "อนาคตแห่งแฟชั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน" โดยมี subtitle คือ มหัศจรรย์แห่งเส้นใย โดยนำเอาเกร็ดความรู้จากการเสด็จไปทรงงานในพื้นที่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นข้อจำกัดและลู่ทางในการทำมาหากินของประชาชน โดย Trendbook จะเป็นสารตั้งต้นของการต่อยอดโดยเฉพาะในเรื่องเส้นใยธรรมชาติที่เล่มนี้จะทำให้รู้ว่า เส้นใยธรรมชาติจากพืชพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งใยหว้า ใยสับปะรด ใยบัว ใยกล้วย ข่า ดอกดาหลา สามารถสร้างสรรค์เป็นผืนผ้าที่สวยงามได้

ด้านนายกุลวิทย์ และนายพลพัฒน์ ได้ถ่ายทอดถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงเปรียบประดุจพระอาจารย์ นำองค์ความรู้ทางด้านแฟชั่นสู่การยกระดับวิชาการและภูมิปัญญาผ้าไทยผ่านการพยากรณ์ด้วยหนังสือ Thai Textiles Trend Book อันมีจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่พระองค์ได้ทรงโปรดให้คณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุกลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านชุมชน จากผืนผ้าที่ไม่ได้มีสีสันสวยงาม กลายเป็นผ้าไทยที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างสวยงามและทันสมัยในทุกวันนี้ ทำให้ผ้าไทยใส่ได้ทุกที่ ทุกวัย ทุกโอกาส

สำหรับหนังสือ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026 ตามแนวพระดำริใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ชู “อนาคตแฟชั่นที่ยั่งยืน” จากมหัศจรรย์เส้นใยไทย สานต่อความสำเร็จอย่างงดงามสู่ผลงานลำดับที่ 6 กับหนังสือ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026 โดย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับหน้าที่บรรณาธิการบริหารอีกครั้ง พระนิพนธ์เล่มล่าสุดนี้จะทำหน้าที่เป็นคู่มือและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้สร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอของไทย ภายใต้แนวคิดหลัก “อนาคตแห่งแฟชั่น:สรรค์สร้างนวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน” (Future Fashion: Creative Innovation for Sustainability)

ขอเชิญผู้ที่สนใจในเสน่ห์ของผ้าไทยและแฟชั่นที่ยั่งยืน เข้าชมนิทรรศการ “Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026” ณ EMSKYE ชั้น 14 เอ็ม ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ระหว่างวันที่ 11 – 14 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. และสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปผู้สนใจหนังสือ Thai Textiles Trend Book Autumn/Winter 2025-2026 สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบดิจิทัลได้ทาง https://online.fliphtml5.com/rnqjs/dbjs/#p=1

.