จีนคุมเข้มส่งออกรถมือสอง “ไมล์ศูนย์” หวั่นบิดเบือนตลาด – กระทบอุตสาหกรรมยานยนต์
รัฐบาลจีนเตรียมเข้มขึ้นในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ โดยได้ออกมาตรการในการส่งออกรถยนต์มือสองรูปแบบใหม่ที่มีความเข้มงวดในเชิงข้อบังคับ หลังจากเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พวกเขาโดนกล่าวหาในเรื่องของการส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ หรือ Zero-Mileage Car ซึ่งยังไม่ผ่านการใช้งานออกสู่ตลาดนอกประเทศเพื่อให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ในเรื่องการส่งออกรถยนต์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องกำแพงภาษี
กระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOFCOM-Ministry of Commerce) แถลงเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงฯ จะปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลการส่งออกรถยนต์มือสอง เพื่อสนับสนุนการขยายตัวในระดับประเทศของภาคส่วนและรักษาการพัฒนาที่เป็นระเบียบ เพื่อเป้าหมายในการลดเรื่องการส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ที่กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้
ตามรายงานของสำนักข่าว CCTV News โฆษกของกระทรวงพาณิชย์ นาย He Yadong แถลงในงานแถลงข่าวประจำว่า กระทรวงฯ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปตามคำตัดสินเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งการทำงานครั้งนี้จะร่วมกับหน่วยงานอื่นอีก 4 แห่ง
นอกจากนั้น เขายังกล่าวว่าการค้ารถยนต์มือสองถือเป็นแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานในระดับสากล และในฐานะสินค้าอุปโภคบริโภค รถยนต์ที่มีชื่อเสียงในด้านความทนทานจะมีบทบาทสำคัญทั้งตลาดโลกและในประเทศ ตามข้อมูลทางการ ในปี 2023 จีนส่งออกรถยนต์มือสองจำนวน 275,000 คัน โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมประมาณ 6.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 492,800 ล้านหยวน) และในปี 2024 จีนส่งออก “รถมือสอง” ออกไปต่างประเทศมากกว่า 436,000 คัน เพิ่มขึ้น 58.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตามการเพิ่มมาตรการตรวจสอบใหม่นี้เกิดขึ้นในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมกำลังพบกับความท้าทายในการตรวจสอบด้านความโปร่งใสของตลาดรถมือสองในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวน “รถยนต์มือสองไมล์ศูนย์” ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นรถที่จดทะเบียนว่าขายแล้ว แต่มีไมล์น้อยหรือไม่มีเลย และกำลังเป็นประเด็นที่ภาครัฐกำลังถูกโจมตีว่าหมกเม็ดในเรื่องของตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่แท้จริงในประเทศ และเปิดช่องว่างให้รถยนต์พวกนี้ถูกส่งออกนอกประเทศ
หลักการทำงานของ “รถยนต์มือสองไมล์ศูนย์” อยู่ที่กระบวนการนำรถใหม่ได้รับการจดทะเบียนว่าขายแล้ว ซึ่งมักจะจดทะเบียนกับตัวแทนจำหน่ายในเครือหรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สาม ไปขายต่อในฐานะรถใช้แล้ว แม้ว่ารถจะวิ่งน้อยมากก็ตาม
การส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์จะช่วยทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ในจีนสามารถบันทึกยอดขายเป็นรถยนต์ที่ถูกขายแล้วในประเทศ เป็นการเพิ่มตัวเลขยอดขายในรายงาน รวมถึงยังช่วยเคลียร์สต็อกของรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถระบายออกได้ เนื่องจากอุปทานในประเทศลดลง และตลาดต้องเผชิญหน้ากับการรบกันของแบรนด์รถยนต์ด้วยการใช้กลยุทธ์ในเรื่องการตัดราคา และสุดท้ายคือ การเป็นรถยนต์ใช้แล้ว ทำให้สามารถเลี่ยงภาษีนำเข้าในหลายประเทศที่ไม่ได้เข้มงวดกับการนำเข้ารถยนต์ใช้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่ได้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องถ้าผู้รับประโยชน์จากการกระทำมีแค่บริษัทรถยนต์เท่านั้น แต่การส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ยังช่วยเอื้อต่อทั้งผู้ส่งออกซึ่งจะได้จากการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้านั้นๆ และรัฐบาลท้องถิ่นก็จะได้ประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นอย่างน้อย 20 แห่ง รวมถึงศูนย์กลางการส่งออกสำคัญอย่างมณฑลกวางตุ้งและเสฉวน ได้ระบุถึงการสนับสนุนการส่งออกรถศูนย์ไมล์ในเอกสารสาธารณะ โดยมองว่าการปฏิบัตินี้เป็นวิธีสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำหนดโดยรัฐบาลกลางในปักกิ่ง
โดยรัฐบาลท้องถิ่นเหล่านี้ให้การสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การออกใบอนุญาตส่งออกเพิ่มเติม การเร่งรัดกระบวนการคืนภาษีสำหรับผู้ส่งออก การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือและศูนย์โลจิสติกส์ และการจัดงานเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการค้ารถยนต์ใช้แล้ว
ปัญหานี้ได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ผลิต ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้จัดการประชุมกับผู้ผลิตรถยนต์และแพลตฟอร์มรถยนต์มือสองเพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงการกำกับดูแลธุรกรรมและกรอบการทำงานที่เป็นไปได้เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล
แต่ก็ดูเหมือนว่า บางบริษัทก็มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำแต่จะต้องอยู่ภายใต้กรอบที่เหมาะสม ซึ่งผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมบางรายได้ตั้งข้อสังเกตว่าการขยายการส่งออกรถยนต์มือสองที่อยู่ภายใต้การควบคุมอาจเป็นช่องทางสำหรับระบายสินค้าคงคลังส่วนเกิน แต่การบังคับใช้และการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้ เพราะไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบในเชิงลบตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะการผลิต
ที่เป็นเช่นนี้เพราะจากการเปิดเผยของสื่อมวลชนจีนระบุว่ากำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเป็นปัญหาเร่งด่วน โดยสินค้าคงคลังรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศมีจำนวนถึง 3.5 ล้านคันในเดือนเมษายน 2025 ผู้ผลิตบางรายดำเนินการโดยใช้กำลังการผลิตน้อยกว่า 50% ขอการผลิตที่ทำได้ต่อปี
และถ้ายังใช้แนวทางนี้ไปเรื่อยๆ และการระบายสินค้าจะไม่มีจุดสมดุลที่ดีและเหมาะสม กำลังการผลิตรถยนต์ในแต่ละปีก็จะลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะของที่โอเวอร์สต็อคและรอการระบาย
‘มันเหมือนกับคุณเอาเงินในอนาคตมาใช้นั่นแหละ เมื่อถึงวันหนึ่งคุณยังต้องทำงานโดยที่ไม่มีเงินเข้ามาอยู่ในบัญชีเลยก็ได้’ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์ในจีนรายหนึ่งให้ความเห็น
ในตอนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานโดยมีการประกาศภายใต้กรอบการทำงานที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที นั่นหมายความกว่าผู้ส่งออกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระดับชาติที่สำคัญ 2 ข้อบังคับด้วยกัน คือ มาตรฐาน WM/T 8-2022 สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมือสอง และมาตรฐาน WM/T 9-2022 สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถพ่วง
ขณะนี้ รถยนต์แต่ละคันจะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานตรวจสอบที่ได้รับการรับรอง โดยต้องส่งรายงานไปยังกรมศุลกากร อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดให้ปฏิบัติตามกฎการนำเข้าของประเทศปลายทาง รวมถึงการแจ้งข้อมูลการปฏิบัติตามกฎการปล่อยมลพิษเพื่อปรับปรุงการติดตาม หน่วยงานกำกับดูแลกำลังส่งเสริมระบบบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ หรือ Automotive Maintenance Electronic Health Record System ของจีน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่บันทึกประวัติการซ่อมแซมและข้อมูลระยะทางของรถยนต์แต่ละคันเอาไว้
ถ้าทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การที่รถยนต์มือสองแบบไมล์ต่ำมีโอกาสทะลักเข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสองที่เป็นคู่ค้าสำคัญของจีน ทั้งรัสเซีย เอเชียกลาง และแอฟริกา อย่างไรก็ตาม การเน้นย้ำมาตรฐานคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบที่ทางภาครัฐฯพูดถึงข้างต้น ก็อาจช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของจีนในตลาดเกิดใหม่ได้
นาย He Yadong กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่การจำกัดการค้า แต่เป็นการรับรองการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมรถยนต์จีน”
เรียกว่าเป็นระเบิดเวลาอีกลูกที่อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องปลดชนวนออกให้ได้โดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เมื่อถึงเวลาที่สมดุลแห่งการผลิตและการจำหน่ายเกิดความเสียหายจนแก้ไขไม่ได้แล้ว อาจจะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ที่สร้างมาตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาอาจจะพังทลายลงไปได้เพียงพริบตา
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO