“ปักกิ่ง” ออกโรงปฎิเสธรายงานอ้างแอบส่ง “อาวุธจีน” ให้ “กัมพูชา” หลัง “ฮุน มาเนต” ยังรบไม่หยุดหลัง “ทรัมป์” เพิ่งประกาศข่าวดีกาวใจสันติภาพในสงครามคล้าย “อินเดีย-ปากีฯ”
เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ปักกิ่งล่าสุดปฎิเสธข่าวหนาหูว่าแอบส่งอาวุธเมดอินไชน่าให้กองทัพใช้กัมพูชาถล่มไทยท่ามกลางความขัดแย้งยังคงเกิดขึ้นต่อวันอาทิตย์(27 ก.ค)คล้อยหลังนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต เพิ่งรับปากหยุดยิงหลังผู้นำสหรัฐฯระหว่างตีกอล์ฟในสกอตแลนด์เป็นโบรกเกอร์ต่อสายโทรหาผู้นำ 2 ฝ่ายให้หยุดยิงหรือไม่ก็ไม่มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯชี้ศึกไทย-กัมพูชาไม่ต่างอินเดียรบปากีสถาน
ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันเสาร์(26 ก.ค)ว่า ท่ามกลางสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาที่ยังไม่หยุดแม้ประธานาธิบดีบดีสหรัฐฯจะเพิ่งโพสต์ข่าวดีสันติภาพไป อ้างอิงจากการรายงานของสื่อไทยภาคภาษาอังกฤษที่เปิดเผยว่า โฆษกกองทัพไทยแถลงวันอาทิตย์(27)ว่า กองกำลังกัมพูชายังคงโจมตีข้ามพรมแดนเข้ามาไม่หยุดหย่อนถึงแม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเพิ่งออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นก็ตาม
โฆษกกองทัพไทย พลตรี วินธัย สุวารี แถลงว่า “กัมพูชายังคงไม่หยุดยิง การโจมตีเริ่มต้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ของเช้านี้พร้อมด้วยจรวดมากมายตกใส่นอกเขตปฎิบัติการทหารในจ.สุรินทร์”
การรายงานข่าวสื่อต่างประเทศถึงข่าวสู้รบไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นอย่างมีสีสันที่แม้แต่ในแถลงการณ์แรกที่โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของผู้นำสหรัฐฯที่ออกมาจะมีโทนดุดันอย่างน่ากลัวและข่มขู่และได้กล่าวไปว่าการปะทะระหว่างทั้ง 2 ชาตินั้นทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯรำลึกไปถึงสงครามระหว่างอินเดีย-ปากีสถานที่มีการส่งเครื่องบินรวม 250 ลำจากทั้ง 2 ฝ่ายและยังเป็นการเปิดตัวเครื่องบินรบขับไล่เมดอินไชน่า Chengdu J-10C ประเดิม
โดย Geopolitical Intelligence Services AG หรือ GIS ธิงแทงก์ที่มีฐานอยู่ในลิกเตนสไตน์และก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 โดยเจ้าชายไมเคิลแห่งลิกเตนสไตน์ได้รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี(24)ว่า อุตสาหกรรมอาวุธของจีนเฟื่องฟูจากสงครามอินเดีย-ปาสกีสถานที่ปักกิ่งป้อนยุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่อิสลามาบัดสามารถยิง "เครื่องบินราฟาล" เมดอินฟรานซ์ของอินเดียตก
และนำมาสู่ความวิตกว่า “จีน” ที่เป็นประเทศใกล้ชิดกับพนมเปญและได้ลงทุนในโครงการพัฒนาสนามบินและฐานทัพเรือเรียมที่ไม่ห่างจากจ.ตราดพร้อมกับมีเรือรบจีนจอดเป็นเวลานานทำให้มีการวิตกว่า ปักกิ่งอาจจะป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยของตัวเองให้กัมพูชาเพื่อสู้กับไทย
กัมพูชาที่ผ่านมามีรายงานว่าจะได้รับมอบเรือคอร์เวตต์จีน 056 จำนวน 2 ลำให้ใช้งานที่มีกำหนดจะเกิดขึ้นในปี 2025
อ้างอิงจากบีบีซีภาคภาษาไทยของอังกฤษเมื่อวันที่ 6 ส.ค ปี 2024 พบว่า ที่ฐานทัพเรียมนี้มีระบบเรดาร์ติดตาม
ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยให้สัมภาษณ์กับบีบีซี
"ฐานทัพเรียมเป็นความท้าทายสำคัญต่อการควบคุมและการตรวจตราอ่าวไทยของกองทัพเรือไทย"
ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า พ.อ.พิเศษ เซิ่ง เวย (Senior Col Sheng Wei) รองผู้อำนวยการกองเอเชีย สำนักงานกิจการความร่วมมือทางทหารระหว่างประเทศฯ หรือ OIMC ออกมาอ้างว่า ตั้งแต่การปะทะเริ่มต้นปักกิ่งยังไม่ได้ส่งอาวุธใหม่ให้กัมพูชา แต่สิ่งที่กัมพูชามีนั้นเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ปักกิ่งได้ให้ไว้แต่เดิมผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ
“นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นบริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา จีนไม่ได้มอบอุปกรณ์ทางการทหารใดๆให้แก่กัมพูชาเพื่อใช้ต่อต้านไทย”
พร้อมร้องขอต่อว่า “ขอได้โปรดอย่าเชื่อข่าวปลอมเฟคนิวส์ที่มาจากบรรดผู้เล่นที่ไม่หวังดี” รายงานอ้างอิงจากหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์
โดยสื่อไทยในประเทศได้รายงานข่าวว่าทูตทหารไทยประจำสถานทูตไทยในกรุงปักกิ่งก่อนหน้าได้เข้าหารือร่วมกับฝ่ายจีนโดยมี พ.อ.พิเศษ เซิ่ง เวย เป็นผู้แทนจากฝ่ายจีนร่วมหารือ
โดยตามการรายงานระบุว่าฝ่ายไทย น. พ.อ. ศิวัตม์ รัตนอนันต์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบก และรักษาราชการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานทูตไทยเดินทางเข้าหารือ "ข้อราชการเร่งด่วน" กับฝ่ายปักกิ่งที่ฝ่ายจีนปฎิเสธว่าไม่มีการส่งอาวุธช่วยเขมร
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO