อุทาหรณ์! เครื่องเล่นรถไฟโยกมรณะ ชนนักเรียนหญิง ป.3 ตับฉีกเสียชีวิต
จากกรณี ด.ญ.เอ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี โดนเครื่องเล่นรถไฟโยก 3 ที่นั่ง ในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในขณะนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ระบุว่าตับฉีก และมีเลือดตกในช่องท้อง เหตุเกิดช่วงเย็นหลังเลิกเรียนวันที่ 30 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ทางญาติได้นำร่างน้องกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว ต่างก็เดินทางมาแสดงความเสียใจ
จากการสอบถาม นางศิริทา สารกอง อายุ 62 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ย่าเด็กหญิงที่เสียชีวิต เล่าว่า พ่อแม่น้องแยกทางกัน แม่ไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อประกอบธุรกิจส่วนตัว น้องจะอยู่กับป้า (พี่สาวพ่อ) ซึ่งรับราชการและอาศัยอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี ครอบครัวเราจะเป็นครอบครัวใหญ่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา จะอยู่ด้วยกัน น้องเป็นคนมารยาทงาม พูดเพราะ เป็นคนขี้ประจบ เป็นคนชอบการแสดงหรือทำกิจกรรม ถือป้ายโรงเรียน เป็นดรัมเมเยอร์ เรียนหนังสือเก่ง เป็นคนตั้งใจและมีความฝัน จะพูดตลอดว่าโตขึ้นจะเป็นคุณหมอ
ส่วนเรื่องการชี้แจงของทางโรงเรียนตนไม่รู้ แต่พอเห็นว่าหลานเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องเล่นชนิดนี้ ตนตกใจและร้องไห้เลย เพราะตนเป็นคุณครูที่ห่วงเรื่องปลอดภัยของนักเรียนมากที่สุด เครื่องเล่นเหมือนเรือโยก เด็กโยกไม่รู้จังหวะใครก็มีโอกาสพลาดได้ ที่โรงเรียนของตนก็เคยมี แต่ได้ประชุมแล้วสั่งให้ภารโรงรื้อออกให้หมด เหลือเพียงกระบะทรายใหญ่ๆ ให้เด็กเล่นเพื่อความปลอดภัย
ทางครูท่านหนึ่งที่โรงเรียน เล่าว่า นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า วันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียน เพื่อนได้มาเล่นสนามเด็กเล่น เพื่อรอผู้ปกครองมารับ เพื่อน ๆ ได้นั่งอยู่บนรถไฟโยก ส่วนน้องยืนอยู่ด้านหลังรถไฟ แล้วใช้มือผลักท้ายรถไฟโยกไปด้านหน้าให้เพื่อนนั่ง ไม่นานจังหวะโยกกลับมา ท้ายรถไฟโยกได้ชนบริเวณท้องน้อง จนล้มลงและกุมท้อง มีอาการหน้าซีด ปากเขียวคล้ำ ครูเห็นจึงเข้ามาปฐมพยาบาลด้วยการ CPR พร้อมกับแจ้งรถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งสนามเด็กเล่นไม่มีกล้องวงจรปิด
ส่วนการเยียวยา เบื้องต้นทางโรงเรียนได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานศพทั้งหมด ส่วนเรื่องประกันชีวิต ซึ่งทางโรงเรียนได้ทำประกันชีวิตหมู่ ซึ่งจะได้สินไหมประมาณ 6 หมื่นบาท และจะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการต่อไป
ทางด้าน ร.ต.อ.สหรัฐ ต่อเติมวัฒนกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะต้องดูว่าบริเวณสนามเด็กเล่นใครเป็นคนอนุญาต วิศวกรรมที่มาดูสถานที่ความปลอดภัยในการก่อสร้างลงความเห็นว่าอย่างไร ออกแบบอย่างไร ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นเรื่องการเล่นของเด็ก ไม่มีใครมาผลัก เล่นแล้วเป็นอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องปลอดภัยทางโรงเรียนจะต้องประสานกับทางตำรวจอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่ได้เรียกใครมาสอบ เพราะคนเห็นเหตุการณ์จะเป็นเด็กทั้งหมด เด็กอายุ 8-9 ขวบ ยังช็อกที่เพื่อนเสียชีวิตตามที่คุณครูบอกมา เด็กยังไม่พร้อมที่มาให้ปากคำต้องรอสหวิชาชีพด้วย จึงต้องรอซักระยะ