โฟเด้น, แม็กไกวร์ สร้างรายได้นอกสนามมหาศาล สวนทางผลงาน แมนซิตี้ และ แมนยู
แนวรุกวัย 25 ปี ของ แมนซิตี้ มีทรัพย์ประมาณ 8 ล้านปอนด์ (ราว 352 ล้านบาท) ขณะที่ แม็กไกวร์ ก็มีทรัพย์สินในระดับใกล้เคียงกัน โดยทั้งหมดนี้รวมทั้งพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ด้วย
เมื่อปีที่ผ่านมา โฟเด้น มีรายได้จากชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเขาประมาณ 67,000 ปอนด์ (ราว 2.94 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นรายได้เสริมจากค่าเหนื่อยที่ได้รับจา กแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้รับประมาณ 225,000 ปอนด์ (ราว 9.9 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์
กระนั้น โฟเด้น ยังนำเงินที่ได้รับไปต่อยอดเพิ่มด้วยการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัท รอนด็อก สปอร์ตส์ ลิมิเต็ด (Rondog Sports Limited) ของเขามีเงินสด 7.8 ล้านปอนด์ (ราว 343.2 ล้านบาท) ในปี 2024 เพิ่งขึ้นจาก 4.3 ล้านปอนด์ (ราว 189.2 ล้านบาท) เมื่อปี 2023 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากการทำงานนอกสนาม
บรรดานักเตะชั้นนำสามารถสร้างรายได้พิเศษจากการขายสินค้าที่มีการใช้ชื่อเล่น, ฉายา, สโลแกน, ลายเซ็น, ภาพลักษณ์, เสียง, โลโก้, เครื่องแต่งกาย, อักษรย่อ, หรือเบอร์เสื้อของพวกเขาที่ปรากฏอยู่บนสินค้า เช่น เสื้อผ้า หรือของที่ระลึกต่างๆ
สำหรับ โฟเด้น ยังคงมีสัญญากับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปจนถึงปี 2027 และยังมีข้อตกลงสปอนเซอร์รองเท้ามูลค่าสูงกับแบรนด์กีฬาระดับโลกอย่าง "ไนกี้" อีกด้วย
ขณะที่บริษัท HM5 ของ แม็กไกวร์ ซึ่งมีลักษณะธุรกิจว่าที่เรียกว่า "ตัวแทนสิทธิบัตรและตัวแทนลิขสิทธิ์" มีเงินสดและสินทรัพย์รวมจำนวน 8 ล้านปอนด์ (ราว 352 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านปอนด์ (ราว 281.6 ล้านบาท)
ส่วนเมื่อปีก่อน แม็กไกวร์ มีรายได้ 10 ล้านปอนด์ (ราว 440 ล้านบาท) ต่อปีจากการเล่นให้ "ผีแดง" และได้นำเงินประมาณ 5 ล้านปอนด์ (ราว 220 ล้านบาท) ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
ความสำเร็จส่วนตัวของ โฟเด้น และ แม็กไกวร์ ถือว่าชดเชยฟอร์มที่ไม่ค่อยดีนักของพวกเขาเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โดย โฟเด้น ไม่ค่อยได้ลงสนามกับ "เรือใบสีฟ้า" มากนัก และสโมสรก็ทำได้แค่จบอันดับ 3 ในลีก ส่วน แม็กไกวร์ ฟอร์มเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแถม "ผีแดง" จบอันดับ 15 และแพ้รอบชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ด้วย