โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ครม. รับทราบข้อเสนอแนะคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.42 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

ทำนียบ 15 ก.ค.-ครม. รับทราบข้อเสนอแนะมาตรการ หรือแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน กรณีการปนเปื้อนมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย จากเมียนมา มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลการดำเนินการภาพรวม ให้สำนักเลขาธิการ ครม.ภายใน 30 วัน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.พิจารณาข้อเสนอแนะมาตรการ หรือแนวทางส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน กรณีการปนเปื้อนมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายจากประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 247 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 (3) และมาตรา 42 ตามที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สถานการณ์การปนเปื้อนมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีสาเหตุหลักจากการทำเหมืองแร่ทองคำและแร่แรร์เอิร์ธของบริษัทเอกชนที่ไม่ทราบสัญชาติบริเวณต้นแม่น้ำกกและแม่น้ำสายในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา มีการสกัดแร่ด้วยสารเคมีอันตราย ทำให้ดินและกากแร่ปนเปื้อนโลหะหนัก (สารหนู แคดเมี่ยม ปรอท) ชะล้างลงสู่แม่น้ำสายหลัก และไหลเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลสู่ปัญหาร้ายแรงทางสุขภาพ โดย กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลที่ดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนมลพิษในลุ่มแม่น้ำกก (แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวก) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาขยายตัวสู่ลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงมีข้อเสนอแนะเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ดังนี้

มาตรการภายในประเทศ 1.ให้กรมควบคุมมลพิษประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มความถี่ของการเก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินในพื้นที่เสี่ยง และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนที่เหมาะสม และพัฒนาระบบการเตือนภัยให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง 2.ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคที่อาจเกิดจากโลหะหนัก โดยเฉพาะสารหนู ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อย่างเร่งด่วย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 3.ให้การประปาส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกระทรวงมหาดไทย เร่งจัดหาน้ำดื่มสะอาดสำรองสำหรับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และวางแผนระยะยาวในการจัดหาแหล่งน้ำดิบที่ปลอดภัย พร้อมพัฒนาระบบประปาหมู่บ้านให้มีประสิทธิภาพครอบคลุม 4. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อภาคเกษตรและการท่องเที่ยว และกำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเฉพาะหน้าแก่ผู้ได้รับผลกระทบ 5.สนับสนุนงบประมาณสำหรับการขจัดสารพิษและฟื้นฟูแหล่งน้ำที่ปนเปื้อน รวมถึงโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ และพืชพรรณริมตลิ่ง เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ 6.ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำโขงเหนือเป็นหน่วยประสานหลัก และเสนอให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติแต่งตั้งหรือปรับปรุงองค์ประกอบของอนุกรรมการทรัพยากรน้ำระดับจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่

ส่วนมาตรการระหว่างประเทศ ให้กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเจรจากับประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อยุติการกิจการเหมืองแร่ที่เป็นต้นเหตุของมลพิษโดยเร็วที่สุด โดยใช้กลไกความร่วมมือ ทั้งในทวิภาคีและระดับภูมิภาคที่มีอยู่ พร้อมให้กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแนวทางความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดนผ่านกรอบความร่วมมือต่างๆ ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิผล รวมถึงให้ประเทศในภูมิภาคพัฒนากฎหมายภายใน เพื่อรองรับการจัดการ ป้องกัน และเยียวยาผลกระทบจากปัญหามลพิษข้ามพรมแดน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ครม. รับทราบข้อเสนอแนะดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณา ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คณะกรรมการลุ่มแม่น้ำโขงเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

29 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต. สั่ง ECF แจงเหตุปรับราคาใช้สิทธิ ECF-W5 เป็น 5 บาท

37 นาทีที่แล้ว

9 ทันโลก : 100 ปี “มหาธีร์ โมฮัมหมัด” ผู้นำที่ไม่เคยเกษียณ

37 นาทีที่แล้ว

กวาดล้างจีนเทาแฝงตัวในเชียงใหม่ หลังลวงฆ่ากันเอง

43 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ตำรวจคุมตัว ‘สีกากอล์ฟ’ เข้าห้องขังหลังปฏิบัติการ ‘นารีพิฆาตพระ’ เจ้าตัวยกมือไหว้หลังสื่อถามรู้สึกผิดหรือไม่?

THE STANDARD

เปิดจดหมาย พระโดดน้ำ สั่งเสีย ห้ามน้ำร่างให้โยมแม่ พร้อมเหตุผล

คมชัดลึกออนไลน์

ระทึก! น้ำป่าซัดรถ หมอต๋อง จมเกือบมิดคัน เผยนาทีชีวิต

มุมข่าว

ไม่หวั่น!! "ท่วม-แล้ง" มี "ธนาคารน้ำใต้ดิน" ช่วยสร้างโมเดลบริหารจัดการน้ำของเกษตรกร

สยามรัฐ

บุรีรัมย์มาราธอน 2026 ฉลอง 10 ปีสวรรค์นักวิ่งคาดเงินสะพัดพันล้าน

PostToday

ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจ "นายกฯ ตุ้ย" อดีตนายกฯ บ้านหมอสู้คดีบุกรุก หลังช่วยเปิดทางสาธารณะถูกเจ้าของที่ดินใหม่ฟ้อง!

Manager Online

ป้าใจสลายกลางโรงพัก สามีหายตัว 7 วัน ก่อนมีสายโทรแจ้งเป็นศพตายเปลือยกลางป่า

Khaosod

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ครม.เห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาเกษตรกรรม

สำนักข่าวไทย Online

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub

สำนักข่าวไทย Online

“ภูมิธรรม” สั่งเร่งจัดระเบียบวงการสงฆ์ เอาผิดคนเอี่ยว “สีกา ก.”

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...