ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร
ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร แจงยังไม่มีข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
วันที่ 26 มิ.ย.2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสข้อความระบุว่า มี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชา ว่า ในกรณีดังกล่าว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2. การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริง
ดังนั้นรายชื่อที่นายวิโรจน์ พูดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ก็ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา ก็มีคดี สจ.กอล์ฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดี
เมื่อถามว่าส่วนกรณีที่ ฮุนเซน เผยว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากสถิติของสากลโลก ตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ประเทศเมียนมา รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ฮุนเซนออกมาเพยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราก็สามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ เน็ต น้ำมัน นั้น ทำให้แก๊ง Call Center ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม
โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตราการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
เมื่อถามว่ากรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแรงสแกมเซ็นเตอร์มียู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไฟเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่างๆเพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ตร.ไซเบอร์ ชี้ ฮุนเซน ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ ย้อนแย้งสถิติโลก 80% อยู่ที่เขมร
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th