"DPU" ฮึดสู้ AI เร่งเสริมทักษะวัยแรงงาน ลดโอกาสว่างงาน
ดาริโอ อโมเดอี (Dario Amodei) ซีอีโอของ Anthropic บริษัทผู้พัฒนา AI "Claude" ออกโรงเตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในสายอาชีพออฟฟิศหายไปถึงครึ่งหนึ่ง และอัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกาอาจพุ่งสูงถึง 20% ภายในเวลาไม่เกิน 5 ปี
อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เคยประเมินว่า AI อาจนำไปสู่การตกงานในอาชีพที่มีทักษะสูง เพราะ AI มีศักยภาพมากพอในการพัฒนาตลาดแรงงาน รวมถึง พัฒนาการให้บริการสาธารณะ
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ต่างพยายามเสริมทักษะด้านต่างๆ ให้กับผู้ศึกษาในระดับอุดมศึกษา ให้พร้อมสำหรับการออกสู่สนามแรงงาน
ด้าน กระทรวงแรงงาน มีการเปิดอบรม Up Skill ให้กับแรงงานในกลุ่มวัย Gen Z ที่จบแล้วแต่ยังว่างงาน ขณะที่มหาวิทยาลัย ก็ต้องขยับตัวในการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน โดยเฉพาะ มหาวิทยาลัยเอกชน ที่ต้องปรับตัวเป็นพิเศษ
ล่าสุด มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงาน DPU Grad Master Plan เปิดบ้าน ป.โท-ป.เอก วางแผนทางลัดสู่ความสำเร็จ กิจกรรมภายในงานเน้นสร้างแรงบันดาลใจและแนวคิดพัฒนาตนเองผ่านการบรรยายในหัวข้อ “อนาคตแรงงานไทยในโลกที่ AI จ้องแย่งงาน” และเวิร์กชอป “ตั้งเป้าหมายอนาคต” ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ออกแบบชีวิตอย่างเป็นระบบ พร้อมฟังประสบการณ์ตรงจากศิษย์เก่า DPU ที่เล่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตหลังเรียนต่อ เพื่อจุดประกายแนวคิดและวางแผนอนาคตได้อย่างมีทิศทาง โดยช่วงท้ายของงาน ผู้เข้าร่วมได้เขียนโปสการ์ดถึงตัวเอง บันทึก “เป้าหมายในอีก 3 เดือนข้างหน้า” เสมือนจดหมายจากอดีตที่เตือนใจ เติมแรงฮึด และปลุกวินัยทางความคิดให้เดินตามฝัน
ด้าน รศ.ดร. ดนุวัศ สาคริก ผู้อำนวยการหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาในยุคดิจิทัล (DAD-NIDA) รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้ร่วมขึ้นบรรยายพิเศษภายในงาน ในหัวข้อ “อนาคตแรงงานไทยในโลกที่ AI จ้องแย่งงาน” โดยชี้ให้เห็นว่าโลกการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ที่ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ในอนาคต แต่แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนแล้ว ทั้งในระบบบริการ แอปพลิเคชัน การวิเคราะห์ข้อมูล และการตัดสินใจอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดล้วนขับเคลื่อนด้วย AI
รศ.ดร. ดนุวัศ ยังเน้นย้ำว่า “วุฒิการศึกษา” ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะต่อเนื่องในระยะยาว การเรียนในระดับปริญญาโทจึงเป็นเสมือนการติดตั้งเครื่องมือที่สำคัญให้บุคคลสามารถปรับตัวได้เร็ว ทันโลก และสามารถสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพที่นำไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตและการทำงาน พร้อมเสนอว่า ประเทศไทยควรเร่งยกระดับทุนมนุษย์จากแรงงานทั่วไปให้เป็นบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านนโยบายการศึกษา ทักษะดิจิทัล และการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างเป็นระบบ เพราะ “การศึกษาไม่ใช่เพียงใบปริญญา แต่คือเครื่องมือที่ช่วยรองรับชีวิตในยามวิกฤต”
อีกหนึ่งช่วงที่สำคัญภายในงาน คือกิจกรรมเวิร์กชอป “ตั้งเป้าหมาย ออกแบบอนาคต” โดย รศ.ดร. บุญธิดา เอื้อพิพัฒนากูล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Design Thinking จบการศึกษาจาก University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นผู้นำกระบวนการเรียนรู้ เพื่อจุดประกายให้ผู้เข้าร่วมได้สำรวจตนเองหรือรู้จักตัวเองมากขึ้น ผ่านเครื่องมือ “วงล้อชีวิต” (Wheel of Life) เพื่อประเมินระดับความพึงพอใจในแต่ละมิติของชีวิต อาทิ การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ สุขภาพ และการพัฒนาตนเอง จากนั้นผู้เข้าร่วมจะได้เขียน “Life Plan” โดยตั้งเป้าหมายชีวิตระยะสั้น 2 ปี และระยะยาว 5 ปี พร้อมสร้างภาพเป้าหมายชีวิตเวอร์ชันเต็ม 10 ที่อยากไปให้ถึง วิเคราะห์จุดที่ตนเองยืนอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงทักษะที่ยังขาด เพื่อวางแผนพัฒนาตนเองอย่างเป็นขั้นตอน
กิจกรรมเวิร์กชอปนี้ผสานแนวคิด “Design Your Life” เข้ากับจิตวิทยาเชิงประสาท (Neuro-linguistic Programming) เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถจินตนาการอนาคตได้อย่างชัดเจน เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตนเองในระดับจิตใต้สำนึก และสามารถแปลงความฝันให้กลายเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ โดยเน้นย้ำว่า “การรู้เป้าหมายเร็ว คือการเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จเร็ว” ทั้งนี้ยังได้ยกตัวอย่างคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย เพราะมีความชัดเจนในเป้าหมายและลงมือทำทันทีโดยไม่รอเวลา
รศ.ดร.บุญธิดา ยังแนะนำด้วยว่า “ก่อนเลือกเรียนต่อควรถามตนเองให้ชัดเจนว่าอยากมีชีวิตแบบใดและอยากทำงานในตำแหน่งใด จากนั้นค่อยออกแบบเส้นทางให้เหมาะสม
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจาก JobThai แพลตฟอร์มหางานอันดับ 1 ของไทย ที่มาแนะนำวิธีใช้งานแพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ มีฟีเจอร์ช่วยให้คนหางานค้นหางานที่ตรงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับผู้สมัครงานตั้งแต่จบใหม่ ไปถึงผู้บริหารระดับสูง ทุกสายอาชีพ พร้อมเชื่อมต่อโอกาสดี ๆ ให้เกิดขึ้นจริง รวมถึงมีกิจกรรมพิเศษหมุนวงล้อลุ้นรับของรางวัลสุดน่ารัก อาทิ ปากกา สมุด กระบอกน้ำ และเสื้อยืด นอกจากนี้ทาง CareerVisa Thailand เองก็ยังได้ส่งต่อแนวคิดการจับคู่ “งานที่ใช่” กับ “คนที่ใช่” ผ่านการพัฒนาเส้นทางอาชีพให้เติบโต พร้อมแนะนำการสร้างโปรไฟล์ให้โดดเด่นและสอดคล้องกับตลาดแรงงานในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว