จับตาคิวโลกตั้ง นีล นั่งบอร์ดเพื่อดันเข้าโอลิมปิก 2032
โดยองค์กรคิวโลก ได้ทำการโพสต์ประกาศอย่างเป็นทางการผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเองทุกแพลตฟอร์มเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 68 ที่ผ่านมา
อันที่จริงตำแหน่งนี้ ไม่ค่อยมีนักสอยคิวในทัวร์อยากจะมาเป็นกันสักเท่าใดนัก เพราะมันมีผลอย่างยิ่งต่อการเบียดเบียนเวลาซ้อม จนผลงานการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆออกมาไม่ดีนัก ดังนั้น ผู้ที่เข้ามารับบทบาทอันทรงเกียรตินี้ ต้องมีความรับผิดชอบและเสียสละสูง
อย่างไรก็ตาม การที่สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) ที่มี เจสัน เฟอร์กูสัน เป็นประธาน ได้ตัดสินใจทาบทาม นีล โรเบิร์ตสัน ให้เข้ามาเป็นบอร์ดบริหาร คงมิได้หลับตาจิ้มชื่อแบบส่งเดชแต่อย่างใด แต่คงมีจุดประสงค์หรือแผนการบางอย่างซ่อนเร้นไว้
ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ ขอเกริ่นถึง นีล โรเบิร์ตสัน กันก่อนอีกสักครั้ง เพื่อย้ำเตือนความจำว่า จอมคิวผมบลอนด์ทองถนัดซ้าย มีความสำคัญเพียงใด ถึงขนาดได้รับการทาบทามให้นั่งบอร์ดบริหารองค์กรคิวโลก
เชื่อว่าแฟนสนุกเกอร์รุ่นเดอะ คงทราบเป็นอย่างดีว่า นีล โรเบิร์ตสัน คือนักสอยคิวผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในยุทธจักรคิวโลก
โดยเขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักสนุกเกอร์นอกสหราชอาณาจักร (อังกฤษ,สกอตแลนด์,เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเวลาปัจจุบัน
ยืนยันได้จากการที่เขา เป็นเพียง 1 ใน 11 ผู้เล่นตลอดกาลในพงศาวดารคิวโลก ที่คว้าแชมป์ศึกใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ครบทั้ง 3 ทัวร์นาเมนต์ อันได้แก่ ชิงแชมป์โลก,ยูเคแชมเปี้ยนชิพ และ มาสเตอร์ส ซึ่งอีก 10 คนที่เหลือเป็นชาวสหราชอาณาจักรทั้งหมด
ด้วยผลงานการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2010 ผงาดถ้วยทริปเปิลคราวน์รวมกัน 6 รายการ (ชิงแชมป์โลก 1 สมัย, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ 3 สมัย และมาสเตอร์สอีก 2 สมัย) และคว้าโทรฟี่แชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งถึง 25 รายการ(รั้งอันดับ 7 ในทำเนียบนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุด) ได้ทำให้เขา คือสนุกเกอร์ฮีโร่ของประชาชนชาวออสเตรเลียทั้งประเทศ แม้ผลงานในช่วงหลังๆ จะดร็อปลงไปตามอายุขัยก็ตาม
และจากการที่ นีล ยังเป็นขวัญใจของบรรดาแฟนกีฬาแม่นรูแห่งแดนจิงโจ้นี่เอง จึงมีโอกาสไม่น้อยที่สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก(WPBSA) ทาบทามให้เจ้าตัวมานั่งเป็นบอร์ดบริหาร เพื่อเป้าหมายสำคัญ ในการผลักดันกีฬาคิวสปอร์ต(สนุกเกอร์,บิลเลียด,พูล และแครอมบอล) ให้เข้าบรรจุชิงชัยในโอลิมปิก 2032 ที่นครบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ในอีก 7 ปีข้างหน้าให้ได้
ช่วงที่ จ้าว ซิน ถง จอมคิวจากจีนแผ่นดินใหญ่ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นชาวเอเชียคนแรกที่คว้าแชมป์โลกเมื่อ 2 เดือนก่อน จนทำให้กระแสสนุกเกอร์ที่จีน และอีกหลายชาติในเอเชีย เป็นที่นิยมมากขึ้น
เจสัน เฟอร์กูสัน เคยประกาศยุทธศาสตร์ในช่วงนั้นเอาไว้ว่า ต้องการกระแสสนุกเกอร์ฟีเวอร์ในจีนจาก จ้าว ซิน ถง นี่แหละ ช่วยผลักดันให้สนุกเกอร์ เข้าโอลิมปิกอีกครั้ง หลังเคยล้มเหลวตอนพยายามผลักดันเข้าโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตอนนั้น ฌอน เมอร์ฟี่ จอมคิวชื่อดังชาวอังกฤษ นั่งบอร์ดบริหาร WPBSA
ทั้งนี้ นอกจากกระแสบูมของชาวจีนแล้ว องค์กรคิวโลกก็ต้องอาศัยความเป็นฮีโร่ท้องถิ่นอย่าง นีล โรเบิร์ตสัน มาช่วยผลักดันให้คิวสปอร์ต ถูกบรรจุในโอลิมปิก 2032 ณ ดินแดนจิงโจ้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การจะดันคิวสปอร์ต ที่ไม่เคยถูกจัดในโอลิมปิกมาก่อน เข้าไปชิงชัยในบริสเบน 2032 ให้ได้ มิใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใด เพราะมีกีฬาอีกหลายประเภท จ้องจะเข้าไปชิงชัยในมหกรรมกีฬารายกายใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติเช่นกัน