กกล.บูรพาฯ รวบทั้งคนไทยคนกัมพูชาลักลอบข้ามแดนรายวัน
(20 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เคสแรกโดย กกล.บูรพาฯ,ฉก.อรัญประเทศ ร้อย ทพ.1202 ดำเนินการตรวจแนวชายแดน เพื่อสกัดการลักลอบข้ามแนวชายแดนทางช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด ล่าสุดสามารถจับกุมชาวกัมพูชาได้ 5 คน แยกเป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน ผู้ติดตาม 1 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าเคยทำงานรับจ้างซักรองเท้าในตลาดโรงเกลือ แต่ได้เดินทางกลับกัมพูชาเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อกลับไปกัมพูชาไม่มีงานทำและไม่มีรายได้จึงตัดสินใจลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อหวังกลับมาทำงานที่ตลาดโรงเกลือผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามายังฝั่งไทย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานตรวจพบและจับกุมตัวไว้ได้ ส่วนผู้นำพาได้วิ่งหลบหนีกลับไปยังฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมดมีเพียงหนังสือผ่านแดน (Border Pass) และไม่ได้ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว แต่ยอมรับว่าจ่ายเงินค่านำพาลักลอบข้ามชายแดนให้นายหน้าชาวกัมพูชาคนละ 4,000 บาท
ต่อมาเคสที่ 2 จนท. ชค.กรม.ทพ. 12 โดย ร้อย.ทพ.1201 ได้ทำการจับกุม 2 คนไทย 1. ชาวกัมพูชา ลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณด้านทิศตะวันออกตลาดโรงเกลือ โดยผู้ต้องหาชาวไทยคนแรก หญิง อายุ 45 ปี ชาวอุดรธานี รับสารภาพว่า ถูกเพื่อนชักชวนไปทำงานที่กัมพูชาให้กับนายจ้างชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยไม่ได้รับค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว หลังจากนั้นจึงถูกนายจ้างจ้างขับรถมาส่งที่ปอยเปต ชาวไทยคนที่ 2 หญิง อายุ 62 ปี ชาวเชียงราย อดีตแม่ครัวร้านอาหารในกัมพูชา สารภาพว่า ยอมจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้ผู้นำพาชาวกัมพูชาเพื่อเดินทางกลับประเทศไทยเพราะตนไม่มีเอกสารการเดินทาง คนที่ 3 ชาวกัมพูชา ชาย อายุ 23 ปี ลักลอบกลับเข้ามาประเทศไทยด้วยตนเองผ่านช่องทางธรรมชาติที่รู้จัก เนื่องจากต้องการกลับมาทำงานที่ประเทศไทย
ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติของ กกล.บูรพาฯ อย่างเข้มงวด จนท.ชุดจับกุมได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้ จนท.ตำรวจภูธรในพื้นที่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป