เจาะพอร์ตหุ้น 'ชนินทธ์–ชนัตถ์และลูก' ศึกเครือดุสิต ขาดทุนสะสมทะลุพันล้าน
จากประเด็นร้อนแรงของหุ้น บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT ที่เกิดความขัดแย้งภายในของผู้ถือหุ้นใหญ่ ระหว่าง นายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการ บมจ. ดุสิตธานี และ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบมจ. ดุสิตธานี
จากการตรวจสอบข้อมูลพอร์ตหุ้นของ 'นายชนินทธ์ โทณวณิก' ย้อนหลัง พบว่า การถือครองหุ้น DUSIT ล่าสุดพบในปี 45 จำนวน 5,980,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.04% รวมทั้งยังมีการถือหุ้น MBK มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 51-57 โดยในช่วงระหว่างปี 51-56 จำนวน 2,453,433 หุ้น คิดเป็น 1.30% แต่ภายหลัง MBK มีการแตกพาร์เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ส่งผลให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มเป็น 24,534,330 หุ้น ในสัดส่วน 1.30% คงเดิม
นอกจากนี้ ยังมีการถือครอง ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) MBK-W1, MBK-W2, MBK-W3 และ MBK-W4 ในจำนวนเท่ากันที่ 48,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.41%, 3.11%, 3.30% และ 1.15% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไม่พบข้อมูลการถือครองหุ้นใดเลยในพอร์ตของ 'นายชนินทธ์'
ด้านพอร์ตหุ้น นางสินี เธียรประสิทธิ์ ย้อนหลังในช่วงระหว่างปี 39-57 พบว่า มีการถือครองหุ้น 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ การถือหุ้น DUSIT ในช่วงระหว่างปี 44-45 จำนวน 5,987,000 หุ้น คิดเป็น 7.04% และการถือหุ้น MBK ในช่วงระหว่างปี 39-57 โดยในช่วงระหว่างปี 39-40 มีจำนวน 5,670,000 หุ้น คิดเป็น 3.48%
จากนั้นในปี 51-56 สัดส่วนการถือหุ้นทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง จากจำนวน 2,580,233 หุ้น คิดเป็น 1.37% จนกระทั้งเหลือ 2,487,233 หุ้น คิดเป็น 1.32% และหลัง MBK แตกพาร์ไปในปี 57 จำนวนหุ้นเพิ่มเป็น 24,872,330 หุ้น ขณะที่สัดส่วนคงเดิมที่ 1.32% อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไม่พบข้อมูลการถือครองหุ้นใดเลยในพอร์ตของ 'สินี เธียรประสิทธิ์'
ขณะที่การถือครองหุ้นย้อนหลังของ นางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ในช่วงระหว่างปี 36-46 พบว่า มีการถือครองหุ้น 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ PRG จำนวน 504,000 หุ้น คิดเป็น 0.84% ในปี 36, NATION-W จำนวน 100,000 หุ้น คิดเป็น 0.83% ในปี 42
โดยการถือหุ้น DUSIT พบในช่วงระหว่างปี 44 จำนวน 7,105,338 หุ้น คิดเป็น 8.36% และปี 45 จำนวน 7,151,744 หุ้น คิดเป็น 8.41% ด้านการถือครองหุ้น MBK เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 51-55 โดยจำนวนหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 2,453,434 หุ้น คิดเป็น 1.30% ในปี 51 ลดลงเหลือ 1,110,084หุ้น คิดเป็น 0.59% ในปี 55 อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันไม่พบการถือครองหุ้นใดในบอกเลยเช่นเดียวกัน
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ DUSIT
ข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 15 อันดับแรกของ DUSIT
1. บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด จำนวน 422,821,310 หุ้น หรือ 49.74%
2. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จำนวน 145,238,320 หุ้น หรือ 17.09%
3. ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 34,500,000 หุ้น หรือ 4.06%
4. นาย วิชิต ชินวงศ์วรกุล จำนวน 32,886,000 หุ้น หรือ 3.87%
5. นาง จารุณี ชินวงศ์วรกุล จำนวน 17,793,300 หุ้น หรือ 2.09%
6. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 16,010,081 หุ้น หรือ 1.88%
7. นาง สาวิตรี รมยะรูป จำนวน 10,677,400 หุ้น หรือ 1.26%
8. นาย ชาลี โสภณพนิช จำนวน 10,597,400 หุ้น หรือ 1.25%
9. นาง สุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล จำนวน 10,597,400 หุ้น หรือ 1.25%
10. นาย ชาติศิริ โสภณพนิช จำนวน 10,597,400 หุ้น หรือ 1.25%
11. น.ส. ชัชลี พัฒนาพลกรสกุล จำนวน 8,045,000 หุ้น หรือ 0.95%
12. นาย สหนันท์ เชนตระกูล จำนวน 7,610,000 หุ้น หรือ 0.90%
13. MRS. ARUNEE CHAN จำนวน 4,868,400 หุ้น หรือ 0.57%
14. บริษัท ดุสิตธานี พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด จำนวน 4,715,000 หุ้น หรือ 0.55%
15. สำนักงานพระคลังข้างที่ จำนวน 4,318,200 หุ้น หรือ 0.51%
ทั้งนี้ จากการตวรจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ข้อมูลการถือหุ้นของ CPN ในดุสิตธานีตั้งแต่ปี 63 มีสัดส่วนการถือหุ้นของ CPN คงที่ที่ 145,238,320 หุ้น หรือ 17.09% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับที่ 2 รองจาก 'บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด'
CPN ออกโรงแจง
จากกระแสข่าวที่อ้างถึงความเข้าใจผิดต่อนโยบายการเข้าลงทุนของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ต่อการลงทุนใน บมจ. ดุสิตธานี นั้น นางสาวอัมพาวีร์ ชมพูพงษ์เกษม เลขานุการเซ็นทรัลพัฒนา ได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทได้รับโอกาสในการร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับดุสิตในการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มาตั้งแต่ปี 60 เป็นเงินทุนรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท โครงการดำเนินการพัฒนาด้วยดีมาโดยตลอด ซึ่งในส่วนของโรงแรม และอาคารสำนักงานได้เปิดดำเนินการแล้ว และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค กำลังจะเปิดให้บริการในวันที่ 4 ก.ย.68 นี้
ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนาถือหุ้นในดุสิตจำนวน 145,238,320 หุ้น หรือ คิดเป็น 17.09% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของดุสิตตั้งแต่ปี 61 ซึ่งที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนา เคารพในการบริหารงานของผู้ถือหุ้นใหญ่ และสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีมาโดยตลอด
กระทั้งเมื่อบริษัทได้รับการเสนอให้ส่งตัวแทนเพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่งตั้งเป็น กรรมการ ของ ดุสิต ได้ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทาง เซ็นทรัลพัฒนา เล็งเห็นว่าจะสามารถใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของ ดุสิต ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
และการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้ง กรรมการ เป็นไปตามแนวทางการมีส่วนร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้นซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติตามปกติ ในการดูแลเงินลงทุนโดยไม่มีอำนาจในการควบคุมในดุสิตแต่อย่างใด โดยได้เสนอรายชื่อเพื่อให้ผู้ถือหุ้นดุสิตพิจารณา จำนวน 2 คน คือ นายปัณฑิต มงคลกุล และนายภูม โอสถานนท์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ดุสิตบริหารงานโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ทางเซ็นทรัลพัฒนาขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการตัดสินใจดำเนินการของ บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด
เปิดงบการเงิน DUSIT
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (65-67) ของดุสิต
รายได้รวม : 4,748.12 ล้านบาท, 6,313.08 ล้านบาท และ 11,077.48 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : -501.46 ล้านบาท, -569.82 ล้านบาท และ -236.77 ล้านบาท
กำไรสะสม : 353.03 ล้านบาท, -333.86 ล้านบาท และ -770.46 ล้านบาท
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด : 2,142.99 ล้านบาท, 1,709.59 ล้านบาท และ 3,551.63 ล้านบาท
รวมหนี้สิน : 21,184.65 ล้านบาท, 23,608.76 ล้านบาท และ 29,482.34 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 68 เทียบ 67
รายได้รวม : 4,043.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 446.11 ล้านบาท หรือ 12.39% จากปีก่อนที่ 3,597.67 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : -242.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ -8.73 ล้านบาท
กำไรสะสม : -1,074.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ -403.09
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด : 1,807.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.07 ล้านบาท หรือ 11.33% จากปีก่อนที่ 1,623.63 ล้านบาท
รวมหนี้สิน : 29,802.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,859.34 ล้านบาท หรือ 10.61% จากปีก่อนที่ 26,942.96 ล้านบาท