โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ทรู x แพทยสภา เปิดเวทีคิดใหม่: เมื่อเทคโนโลยีเชื่อมโยงการแพทย์ เพื่ออนาคตใหม่ระบบสุขภาพไทยที่ก้าวไกลกว่าการรักษาและให้คนไทยเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

Manager Online

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

แพทยสภา ร่วมกับ ทรู คอร์ปอเรชั่น ทรู ดิจิทัล เอ้ก ดิจิทัล และทรูไอดีซี จัดเวที “Reimagine Healthcare: Connected Health, Empowered Lives” เปิดพื้นที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับแพทยสภา นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ปธพ. รุ่นที่ 11 (ปธพ. 11) และหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำทางการแพทย์ ปนพ. รุ่นที่ 2 แพทยสภา สถาบันมหิตลาธิเบศร และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อต่อยอดแนวคิดสำคัญด้านการแพทย์สมัยใหม่ และบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรจากทรู และบริษัทในเครือที่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนระบบการแพทย์และสาธารณสุข ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน ณ แกรนด์ฮอลล์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค (เวสต์)

“สุขภาพไทย” ไม่ใช่แค่ทันโลก แต่ต้องก้าวนำอนาคตไปด้วยกัน

งานในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภาและผู้อำนวยการสถาบันมหิตลาธิเบศร เป็นประธานในงาน ซึ่งได้กล่าวถึง “อนาคตของระบบสุขภาพไทย ในยุคดิจิทัล” ว่า “คลื่นลูกใหญ่” ของเทคโนโลยี กำลัง “เขียนนิยามใหม่” ของการแพทย์ วันนี้ หมอต้องปรับตัว เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้รักษา” เป็น “นักเชื่อมโยง” ที่เชื่อมผู้คน เชื่อมข้อมูล เชื่อมเทคโนโลยี เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบสุขภาพที่ดีกว่าเดิม รู้จักใช้ข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลอย่างมีคุณค่า เปิดใจใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่กระจุกตัว เพื่อส่งต่อไปถึงประชาชนทุกคน ไปจนถึงบนอุปกรณ์ที่เทคโนโลยีเข้าถึง ซึ่งเวทีนี้ เปรียบเสมือนห้องทดลองความคิดของอนาคตที่ทุกคนได้แลกเปลี่ยน มุมมอง ประสบการณ์ และต่อยอดกัน”

“3 C ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนการแพทย์ไปข้างหน้า ได้แก่ 1. Connect – เชื่อมความรู้ เทคโนโลยี และจิตใจเข้าสู่การพัฒนาระบบ 2. Create – สร้างสรรค์ กล้าคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อประชาชนที่เจ็บป่วยและมีสุขภาพที่ดีขึ้น และ 3. Collaborate – ร่วมมือกันทั้งแพทย์และบุคลากรสาขาอื่น เมื่อ คน + แพทย์ + เทคโนโลยี มาบรรจบกัน ประเทศไทยจะไม่เพียงมีระบบสุขภาพที่มั่นคง แต่ทันสมัย แข็งแรง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นพ.อิทธพร กล่าวสรุป

ถอดบทเรียนโมเดลสุขภาพดิจิทัลจากนอร์เวย์ สู่โอกาสใหม่ของสาธารณสุขไทย

นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ถ่ายทอดประสบการณ์จากนอร์เวย์ ภายใต้หัวข้อ “Norway’s Health Care Industry and Leadership Vision” โดยชี้ให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขในนอร์เวย์ที่ยึดหลักการเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง ประชาชนทุกคนมีแพทย์ประจำตัว โรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นของรัฐ และการรักษาพยาบาลฟรี ส่งผลให้อายุขัยเฉลี่ยสูงถึง 82 ปี แต่ต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องหันมาใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่เกือบ 30 ปีก่อนด้วย “ดิจิทัลไอดี” ที่เชื่อมโยงประวัติสุขภาพ การสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเวชระเบียนกลาง เพียง 5 ปีที่ผ่านมา นอร์เวย์ก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำ 5G และ AI ให้โรงพยาบาลสามารถเชื่อมต่อเครื่องมือแพทย์แบบเรียลไทม์ เกิดการผ่าตัดทางไกล รถพยาบาลส่งข้อมูลทันทีถึงโรงพยาบาล ไปจนถึง AI ที่ช่วยวินิจฉัยมะเร็ง การเคลื่อนไหวของทารกแรกเกิดเพื่อค้นหาความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และ “สมาร์ทพิลส์” ที่สามารถบันทึกภาพภายในร่างกายแบบเรียลไทม์

“ประเทศไทยมีศักยภาพก้าวกระโดด ที่จะสร้างระบบสาธารณสุขดิจิทัลที่ล้ำหน้า ด้วยการใช้ประโยชน์จาก 5G เทคโนโลยี AI และความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและเอกชน หากสามารถวางระบบดิจิทัลไอดีที่มั่นคง สร้างเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์แบบบูรณาการ ควบคู่กับการวางกรอบนโยบายอย่างเหมาะสม และส่งเสริมความร่วมมือที่แข็งแกร่งของพันธมิตร ประเทศไทยจะสามารถสร้างระบบนิเวศสุขภาพดิจิทัลสมัยใหม่ได้รวดเร็วยิ่งกว่านอร์เวย์” นายซิกเว่ กล่าวเน้นย้ำ

ทรู ชูเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรเพื่อสาธารณสุขไทย

นางสาวศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงการเปิดเวที “Reimagine Healthcare: Connected Health, Empowered Lives” ครั้งนี้ ได้นำทีมผู้บริหารทรู คอร์ปอเรชั่น และเครือซีพี ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ ย้ำวิสัยทัศน์ทรู ในการเป็นผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีของไทย ที่พร้อมนำองค์ความรู้และศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร มาร่วมขับเคลื่อนระบบการแพทย์และสาธารณสุขไทย ได้แก่

นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ได้ยกกรณีศึกษาความสำเร็จ (Healthcare Use) ของ “Intelligent Robot” หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยบริการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยสารรังสีไอโอดีน” ที่สะท้อนมุมมอง “นวัตกรรม” ที่ชัดเจนว่าเกิดขึ้นได้จาก “ความคิดบวก” เพราะ “นวัตกรรม” ไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงกระบวนการที่มีเทคโนโลยีเป็นจิ๊กซอว์ต่อประกอบเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้กระบวนการหรือ Process ตามที่ต้องการ พร้อมแบ่งปันแนวคิดของการพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นมาได้จากการเจอกันของคนสองกลุ่มหรือมากกว่าที่มีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยตีแผ่แนวคิดผ่านกรณีตัวอย่างในการพัฒนา “หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยบริการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยสารรังสีไอโอดีน” ที่เป็นการทำงานร่วมกันของทีมวิศวกร กับ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทั้งการร่วมรับฟังปัญหา สังเกตกระบวนการให้บริการผู้ป่วยจริง ทำให้เกิดนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่มีฟังก์ชันอัดแน่นตอบโจทย์การใช้งาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยสารรังสีไอโอดีน ทั้งยังมีรูปลักษณ์ลวดลายสีสัน หน้าจอและเสียงที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตร ที่สำคัญ ช่วยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ลดปริมาณรังสีที่จะได้รับโดยตรงในระหว่างให้การรักษาผู้ป่วยลงไปได้มากถึง 25 เท่า เหลือเพียง 4% จึงช่วยลดความเสี่ยงและโอกาสที่อาจจะเกิดโรคจากการได้รับรังสีสะสมเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งนวัตกรรมหุ่นยนต์นี้สร้างความสุขและความพึงพอใจแก่ผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก นับเป็นต้นแบบของนวัตกรรมหุ่นยนต์เพื่อยกระดับบริการสาธารณสุขของไทย และสร้างคุณค่าต่อคนไทยและสังคมไทย

ในโอกาสนี้ ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด บรรยายหัวข้อ "Patient Singularity: Precision Healthcare Through Data, AI & Robotics" ว่า “ความท้าทายสำคัญของระบบสาธารณสุขของไทย คือการที่ข้อมูลสุขภาพจำนวนมากไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เราต้องนำพลัง AI และโรโบติกส์ มาเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทุกมิติ ตั้งแต่พันธุกรรม พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับจากการรักษาตามอาการ สู่การดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลที่มีความแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านกรอบการทำงาน 5C - Connect, Create, Communicate, Convert, Curate ที่ช่วยสร้างอินไซต์เจาะลึก รักษาได้ตรงจุด และสื่อสารได้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ขณะเดียวกัน ควรนำโซลูชันด้าน AI & Data-Driven Healthcare มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรอบด้าน อาทิ AI Image Recognition, Patient Flow Analytics, Wellness & Prevention Platform และ AI Translation เป็นต้น ซึ่งเราเชื่อว่าแนวคิดและเครื่องมือเหล่านี้ จะช่วยขับเคลื่อนอนาคตระบบสาธารณสุขสู่มิติใหม่ ลดภาระงานของแพทย์ ลดต้นทุนทางการแพทย์ และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้อย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ได้ขึ้นกล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ "Advancing Healthcare Industry: From Technology to Outcomes" โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของเทคโนโลยีในการยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์ เสริมคุณภาพในการดูแลผู้ป่วย และสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับทุกคน ท่ามกลางความท้าทายที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญจากหลายทิศทาง ในโอกาสนี้ นายเอกราชได้ให้แนวทางด้านการวางฐานรากและโครงสร้างพื้นฐานเชิงเทคโนโลยีในทุกระดับให้เอื้อต่อการมอบบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วกว่า แม่นยำกว่า และวางใจได้ยิ่งกว่าเดิม นับตั้งแต่ระบบโครงข่ายแบบชาญฉลาด คลาวด์และ AI เพื่อการประมวลผลข้อมูลอย่างปลอดภัย โซลูชันสำหรับการบริหารจัดการสถานพยาบาลและทรัพยากรต่างๆ รวมถึงบริการสำเร็จรูปที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย

นอกจากนี้ นายเอกราช ยังเสริมอีกว่า “นวัตกรรมที่ตอบโจทย์จะต้องมีความยืดหยุ่นสูง ทำงานผสานกับอุปกรณ์และระบบต่างๆ ได้อย่างลงตัว และนำมาใช้ด้วยความเข้าใจในรูปแบบการใช้งานจริงของบุคลากรทางการแพทย์”

ขณะที่ นายฐนสรณ์ ใจดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ กล่าวในหัวข้อ “New Era of Cloud and AI Computing Power” ถึงการเลือกโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ไม่ว่าจะเป็น คลาวด์ หรือ ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่จะสนับสนุนให้ภาคธุรกิจ Healthcare ทำ AI ได้สำเร็จ โดยแต่ละองค์กรควรเริ่มต้นจากการจัดลำดับความสำคัญ เลือกหนึ่งเป้าหมาย แล้วเลือกแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการ พิจารณาปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความมั่นคงของระบบ (Reliability) สามารถขยายได้ เชื่อมต่อกับระบบปัจจุบันและใช้ได้จริง ประมวลผลเร็ว มีบริการสำรองและกู้คืนระบบได้อย่างง่ายดาย (Disaster Recovery) รวมถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล PDPA และความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล อีกทั้งยังควรพิจารณาบริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญด้าน AI และให้ความยืดหยุ่นด้านค่าใช้จ่ายและการลงทุนระบบ อย่างไรก็ตาม เมื่อองค์กรเริ่มใช้ AI แล้ว ควรมีการติดตามและประเมินประสิทธิภาพและความคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงและต่อยอดการใช้ AI ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

กองทัพภาคที่ 2 เตือนประชาชนระวังเพจปลอมระบาด ยันเพจจริงมีผู้ติดตามกว่า 2.5 ล้านคน

25 นาทีที่แล้ว

ไทย-กัมพูชาลงนามข้อตกลงRBC เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์-

26 นาทีที่แล้ว

เมอร์เคิล แคปปิตอล เผย Ethereum มีโอกาสพุ่ง

28 นาทีที่แล้ว

จ.ขอนแก่น จัดมาราธอนนานาชาติครั้งที่ 21 คาดช่วงแข่งเงินสะพัด 100 ล้านบาท

30 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Samsung จับมือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยกระดับศักยภาพแรงงานไทย

Manager Online

Huawei Cloud ย้ำผู้นำ หลังการ์ทเนอร์ จัดอันดับ Magic Quadrant

Manager Online

ASUS เคาะวันขาย "ROG Xbox Ally" ในไทย 16 ต.ค.

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...