แท็กซี่หักมุม! ย้อนตำนาน เปอตีต์ เลือกซบ อาร์เซน่อล ต่อหน้า สเปอร์ส
ด้วยถิ่นที่ตั้งและเรื่องต่างๆ ในอดีต ทำให้ อาร์เซน่อล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถือเป็นคู่อริเบอร์ 1 ของกันและกันมาอย่างยาวนาน ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่ดีลของ เอเบเรชี่ เอเซ่ จะทำให้สาวก "ไอ้ปืนใหญ่" สะใจเป็นพิเศษ และทำให้สาวก "ไก่เดือยทอง" ชอกช้ำใจสุดๆ
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อาร์เซน่อล ฉกนักเตะที่เป็นเป้าหมายของ สเปอร์ส ไปต่อหน้าต่อตาของอริตัวฉกาจ เพราะในปี 1997 มันเคยเกิดเรื่องแบบเดียวกันในครั้งนี้มาแล้ว ซึ่งนักเตะคนที่ว่าก็คือ เอ็มมานูเอล เปอตีต์
ย้อนกลับไปในตอนนั้นเปอตีต์ อยู่กับ อาแอส โมนาโก โดยเขาเพิ่งช่วยให้ทีมได้แชมป์ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสมาหมาดๆ ด้วย (สมัยนั้นลีกสูงสุดของฝรั่งเศสยังไม่ได้ใช้ชื่อ ลีก เอิง โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ลีก เอิง ครั้งแรกในปี 2002) ซึ่งมันก็ทำให้ เปอตีต์ เป็นคนที่เนื้อหอมสุดๆ
ตอนแรก สเปอร์ส คือทีมที่มีความคืบหน้าในการล่าตัว เปอตีต์ มากที่สุด พวกเขาถึงขั้นเชิญเปอตีต์ เดินทางไปที่กรุงลอนดอนเพื่อที่จะได้เจรจาเรื่องการย้ายทีมกับ เซอร์ อลัน ชูการ์ ประธานของ สเปอร์ส ในตอนนั้นเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไปเข้าหู อาร์เซน่อล และพวกเขาก็รีบติดต่อไปหา เปอตีต์ ทันที เพื่อบอกกับอีกฝ่ายว่าอย่าเพิ่งเซ็นสัญญาอะไรกับ สเปอร์ส ทั้งนั้น และขอให้เขาลองเดินทางไปพบกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ในตอนนั้นด้วย เพื่อที่จะรับฟังไอเดียกับโปรเจ็กต์ของเวนเกอร์
ประเด็นก็คือเวนเกอร์ กับ เปอตีต์ สนิทกันอยู่แล้ว เพราะว่าเวนเกอร์ เคยเป็นกุนซือของ โมนาโก ในช่วงที่ เปอตีต์ เล่นอยู่กับที่นั่น ดังนั้นเปอตีต์ จึงตอบรับคำขอของฝั่ง อาร์เซน่อล แบบไม่คิดมาก
เมื่อถึงวันที่เดินทางไปถึงกรุงลอนดอนเปอตีต์ ก็เข้าพบกับ สเปอร์ส ตามกำหนดการตั้งแต่แรก ทางฝั่ง "ไก่เดือยทอง" ก็ยื่นข้อเสนอให้กับเขาตามธรรมเนียม แต่ว่า เปอตีต์ ก็ยังไม่เซ็นสัญญาเพื่อทำตามที่ อาร์เซน่อล ขอเอาไว้ โดยอ้างว่าจะขอกลับไปพิจารณาข้อเสนอที่โรงแรมก่อน
หลังออกจากสนามของสเปอร์ส แล้วนั้น เปอตีต์ ก็ขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดอยู่คันหนึ่งหน้าสนาม พร้อมบอกให้คนขับพาเขาไปยังบ้านของ เวนเกอร์ เพื่อที่จะได้พบกับนายเก่าและพูดคุยกัน
สิ่งที่น่าเจ็บปวดสำหรับ สเปอร์ส ก็คือที่จริงรถแท็กซี่คันนั้นเป็นคันที่พวกเขาจ้างมาเป็นพิเศษเพื่อไปส่ง เปอตีต์ ที่โรงแรมเอง ไม่ได้เป็นรถแท็กซี่ที่จู่ๆ ก็มาจอดหน้าสนาม ดังนั้น สเปอร์ส ก็เลยรู้ว่าเปอตีต์ กำลังจะไปเจรจากับอริเบอร์ 1
ทั้งนี้ เปอตีต์ ไม่รู้เลยสักนิดว่ารถแท็กซี่คันนั้นเป็นคันที่ สเปอร์ส จองมาให้เขา และเขาก็ยังไม่รู้ด้วยว่า อาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส เหม็นขี้หน้ากันอย่างแรง
พอไปถึงบ้านของ เวนเกอร์ แล้วนั้น เปอตีต์ ก็ได้พบทั้งนายเก่า รวมถึง เดวิด ดีน รองประธานอาร์เซน่อล อันเลื่องชื่อ โดยพอได้ฟังวิสัยทัศน์ของทั้งคู่ ประกอบกับโอกาสทองที่จะได้ร่วมงานกับอดีตเจ้านายแล้วนั้น เปอตีต์ จึงตัดสินใจซบ อาร์เซน่อล ในที่สุด
เรื่องทั้งหมดนี้มาจากปากของ เปอตีต์ เอง โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์กับ ทอล์คสปอร์ต สื่อของอังกฤษเมื่อปี 2018 ว่า "ผมเคยเข้าเจรจากับ ท็อตแน่ม และ อาร์เซน่อล ในวันเดียวกัน ผมไปหาคนของ ท็อตแน่ม ในตอนเช้า แต่ตอนที่ผมเพิ่งมาถึงอังกฤษใหม่ๆ น่ะผมยังไม่รู้ว่าทั้ง 2 ทีมเป็นคู่อริกัน"
"พอผมออกจากสนามของสเปอร์ส แล้วน่ะ ผมก็ขึ้นรถแท็กซี่ที่พวกเขาจองให้ผม แล้วโชเฟอร์ก็ถามว่าผมจะไปที่ไหน ดังนั้นผมเลยบอกที่อยู่ของ อาร์แซน ไป ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นรถแท็กซี่ที่สเปอร์ส จ้างมาไว้ให้ผมโดยเฉพาะ ดังนั้นพวกเขา (สเปอร์ส) เลยรู้ว่าผมกำลังจะไปที่ไหน!"
"ก่อนจะจากกันน่ะผมบอกคนของสเปอร์ส ไปว่าผมต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับข้อเสนอสักนิด แต่ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าผมต้องรับฟังข้อเสนอของอาร์เซน่อล รวมถึงสโมสรจาก อิตาลี และ สเปน ด้วย ผมบอกกับทุกคนว่าผมอยากใช้เวลาสักหน่อยและถ้าได้คำตอบแล้วน่ะผมก็จะตอบด้วยตัวเอง แต่หลังจากนั้น 2 วันผมก็เซ็นสัญญากับ อาร์เซน่อล และมันก็กลายเป็นข่าวบนหนังสือพิมพ์ จากนั้นจู่ๆ เรื่องทั้งหมดก็ถูกนำมาแฉ"
"ตอนนั้นแหละที่ผมเพิ่งได้รู้ว่าความเป็นอริระหว่างทั้ง 2 ทีมมันดุเดือดมากแค่ไหน ตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของตำนานไปแล้ว เดวิด ดีน ยังชอบเรื่องนั้นมาจนถึงทุกวันนี้เลย เขายังพูดถึงมันหลังจากผ่านมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี!"
อย่างที่รู้กันดีว่าท้ายที่สุดแล้วเปอตีต์ ก็เป็นแกนหลักของอาร์เซน่อล อยู่ช่วงหนึ่ง โดยในฤดูกาล 1997-98 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกกับ อาร์เซน่อล เขาช่วยให้ทีมได้ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ เลยด้วย ขณะที่ สเปอร์ส ในฤดูกาลนั้นพวกเขาต้องจบด้วยอันดับที่ 14 ในสภาพที่มี 40 แต้มจาก 38 นัด มากกว่า โบลตัน วันเดอเรอร์ส ทีมในอันดับ 18 ซึ่งเป็นโซนตกชั้นเพียงแค่ 4 คะแนน