โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา ลุ้น ‘พรรคประชาชน’ เลือก ‘อนุทิน’

เดลินิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
รอลุ้นพรรค ปชน.ตัดสินใจเลือก ”อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกฯ คนที่ 32 ซึ่งต่อจากนี้ต้องรอดูท่าที “เพื่อไทย” จะมีออกมาคัดค้านแนวทางนี้หรือไม่ โดยเฉพาะ ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ จะกล้ายุบสภาหรือไม่

ประเด็นร้อนทางการเมืองในขณะนี้ไม่พ้นการตัดสินใจของ “พรรคประชาชน (ปชน.)” จะเลือก "เพื่อไทย (พท.)" หรือ "ภูมิใจไทย (ภท.)" เพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลชั่วคราว ภายใต้การยอมรับ 3 เงื่อนไขประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน ตั้งแต่ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป 2.คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (รธน.) เพื่อนำไปสู่การจัดทำ รธน.ใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่าง รธน. (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินวันก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สส. 3 .พรรค ปชน.ยืนยันที่จะไม่ร่วมรัฐบาล และทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชน ไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีใน ครม.นี้

ทั้งนี้ ความคิดเห็นในที่ประชุมพรรค ปชน. เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ค่อนข้างแตกต่างหลากหลาย เกี่ยวกับแนวทางการโหวตนายกฯ ที่จะต้องยอมรับเงื่อนไขของพรรค ทั้งพรรค พท.และพรรค ภท. หรือไม่โหวตใครเลย ภายใต้โจทย์ของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบันโดยมีรายงานว่าที่ประชุมส่วนใหญ่โน้มเอียงไปในทิศทางเดียวกันว่า จะโหวตเลือกไปทางพรรค ภท. ซึ่งหมายความว่า "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรค ภท. จะได้เป็นนายกฯ คนที่ 32

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พรรค ภท. ได้กำหนดกรอบและแนวทางนโยบายที่จะเริ่มดำเนินการภายใน 120 วัน หลังจากแถลงนโยบาย รวมถึงกรอบการลงพื้นที่ของฝ่ายบริหาร หรือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ซึ่งจะเน้นไปในพื้นที่ภัยพิบัติ และจังหวัดที่มีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ประชาชนจะต้องได้รับการดูแลเป็นลำดับแรกๆ ส่วนการขับเคลื่อนวาระงานในสภาจะเร่งบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับพรรคประชาชน ซึ่งก็ยืนยันว่า จะดำเนินการให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ร่วมกำหนดไว้ และยังจะพิจารณาปลดล็อกกฎหมายการกระจายอำนาจท้องถิ่น

ขณะที่กลายเป็นประเด็นร้อน และกระทบกับพรรค พท. หลัง "นายชัยเกษม นิติสิริ" แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. คนที่ 3 ให้สัมภาษณ์ในรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” เปิดเผยถึงสถานะตัวเองและความพร้อมในการทำงานทางการเมือง ว่า ขณะนี้สุขภาพแข็งแรง ตั้งแต่กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ถูกศาลสั่งขาดคุณสมบัติ ยังไม่มีใครติดต่อมาให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ อย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าถ้าสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ก็เต็มใจ เมื่อถูกถามถึงการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว นายชัยเกษม ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า อาจมีอัศวินขี่ม้าขาวปรากฏตัวก็ได้ ส่วนเรื่องข้อเสนอการยุบสภา 4 เดือน และแก้ไข รธน. ต้องรอดูว่าพรรคจะมีมติอย่างไร และหากทุกฝ่ายเห็นพ้องเป็นมติพรรค เขาก็พร้อมสนับสนุน

“ถ้าจะให้รับผิดชอบอะไร ก็ต้องให้ผมรับรู้ก่อน ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ ผมเป็นส่วนหนึ่งของพรรค พท. แต่ก็ต้องคุยกัน มีเหตุผล ผมถึงจะไปทำงานร่วมกับพรรคได้อย่างเต็มที่ ยอมรับยังไม่มีการติดต่อจากแกนนำพรรค พท.ในเรื่องเตรียมตัวเลย อาจมีอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาก็ได้ ส่วนกรณีทำไมต้องยุบสภาใน 4 เดือน อันนี้ยังไม่ตกผลึก ย้ำถ้าข้อสรุปกับพรรคประชาชน มีเหตุผลไม่เข้าท่า ก็มีสิทธิจะทักท้วง เพราะถ้าจะให้ร่วมรับผิดชอบ ผมต้องเห็นชอบก่อน เพราะผมไม่ใช่หุ่นยนต์” นายชัยเกษม กล่าว

คำถามคือ "อัศวินขี่ม้าขาว" เป็นใคร หรือพรรค พท. ยังมีดีลลับไปทาบทาม "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" องคมนตรี และอดีตนายกฯเข้ามาทำหน้าผู้นำประเทศอีกครั้ง เพื่อดึงเสียงจาก สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ของ "นายสุชาติ ชมกลิ่น" และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กลับมาเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งท่าทีดังกล่าวยิ่งอาจทำให้ พรรค ปชน. แสดงจุดยืนที่ชัดเจน จะเลือกสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคการเมืองไหน

ส่วนประเด็นเรื่องอำนาจการยุบสภานั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ยังยืนยันมีอำนาจยุบสภา เพราะปฏิบัติงานแทนนายกฯ ไม่ใช่รักษาการ เมื่อถามว่า การประชุม ครม.วันนี้จะมีการหารือเรื่องการยุบสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือ เพราะขั้นตอนยังอยู่ช่วงการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามต่อว่า เรื่องยุบสภายังมีเวลาตัดสินใจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่ว่าบทสรุปการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นเช่นไร ต้องรอพรรค ปชน. เมื่อถามว่า ข้อกังวลของ ปชน.ที่ยังกลัว พท.หักหลัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า หักหลังไม่หักหลังอยู่ที่ ปชน.ตัดสินใจ เมื่อถามต่อว่า มีโอกาส พท.จะไหลไปรวมกับภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ช่วงจัดตั้งรัฐบาล ไปพูดถึงเรื่องเป็นไปไม่ได้

“นายปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงอำนาจการยุบสภาของรักษาการนายกฯ ว่า ได้ให้ความเห็นไปแล้ว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน เมื่อถามว่า ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่เชื่อคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล นายปกรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ท่านต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งก็มีความเห็นทางวิชาการหลากหลาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ เมื่อถามอีกว่าถ้ารัฐบาลยุบสภาแล้วมีคนไปร้องต่อศาล รธน.การเมืองในช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องยังไม่เกิดขอไม่ตอบดีกว่า เดี๋ยวนักวิชาการจะมาว่าตนอีกว่าตนไม่ใช่นักวิชาการไปพูดอะไรมากมาย

นอกจากนี้ยังปรากฏหนังสือที่ "นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์" เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ส่งหนังสือเวียน ถึงกระทรวง กรม และหน่วยงานอิสระ เรื่อง ขอซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องที่ต้องนำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณา โดยอ้างถึงหนังสือ สำนักสลค.ที่ นร 0508/ว101 ลงวันที่ 23 ก.พ.61 ว่ากรณีการเสนอเรื่องขอพระราชทานพระมหากรุณาในเรื่องต่าง ๆ ส่วนราชการจะต้องพึงระวังตรวจสอบกลั่นกรองว่าได้ดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ หรือแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องแล้ว รวมทั้งหากเป็นเรื่องที่มีข้อร้องเรียนว่ามิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือแนวทางปฏิบัติที่ได้กำหนดไว้ก็สมควรได้ตรวจสอบหรือดำเนินการให้แก้ไขเป็นที่ยุติเสียก่อน รวมทั้งเรื่องที่เสนอต้องไม่เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องต่อศาลอันอาจเป็นเหตุให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และสำนักสลค.ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้หนังสือที่แนบอ้างอิง ลงวันที่ 23 ก.พ. 61 และหนังสือดังกล่าวถูกส่งเวียนกลับมาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค. 64 ซึ่งอยู่ในสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ

คงต้องรอดูนายภูมิธรรมจะกล้าตัดสินใจยุบสภาหรือไม่ เพราะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกายังยืนยันความเห็นเดิม รัฐบาลรักษาการไม่สามารถยุบสภาได้ พร้อมชี้เป็นอำนาจศาล รธน.ตีความ แต่เรื่องต้องเกิดก่อน

"ทีมข่าวการเมือง"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...