TBN มุ่งสู่ผู้นำด้าน Intelligent Digital Solutions Accelerator อย่างยั่งยืน งบครึ่งปีโกยรายได้กว่า 190 ลบ. โต 5% Backlog แข็งแกร่งอยู่ที่ 350 ลบ.
“บมจ.ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น หรือ TBN” ประกาศงบครึ่งปีแรกของปี 2568 มีรายได้จากการให้บริการรวม 190.86 ลบ. เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ9.90 ลบ.เผยรับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว พร้อม Backlogที่แข็งแกร่งราว 350ลบ. ลุยต่อยอดบริการด้วยโซลูชัน AI, Cybersecurity และแพลตฟอร์ม AI-DrivenLow-Code เสริมประสิทธิภาพองค์กรลูกค้า วางเป้าเป็นผู้นำด้าน Intelligent Digital Solutions Accelerator อย่างยั่งยืน
นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN ผู้นำด้าน Intelligent Digital Platform เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 9.90 ล้านบาท ลดลง 55% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการให้บริการรวม 190.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในงวดไตรมาส 2 ของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1.05 ล้านบาท ลดลง 92% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการให้บริการรวม 93.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แยกเป็นรายได้งานพัฒนาระบบดิจิทัลและงานให้คำปรึกษามีรายได้ 31.93 ล้านบาท ลดลง 14% รายได้จากกลุ่มบำรุงรักษาระบบและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีมีรายได้อยู่ที่ 51.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY และมีรายได้งานอื่นๆ อยู่ที่ 9.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 904% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
“ในไตรมาส 2/2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากกลุ่มงานบำรุงรักษาระบบและงานสนับสนุนด้านเทคโนโลยียังคงมีสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาว และการให้บริการตามข้อตกลง Service Level Agreement (SLA) ที่มีอยู่กับลูกค้า ขณะที่รายได้จากกลุ่มพัฒนาระบบดิจิทัลและงานให้คำปรึกษาปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุหลักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้บริษัทเอกชนลดการลงทุนในภาคเทคโนโลยี ส่งผลให้จำนวนโครงการใหม่มีแนวโน้มลดลง และลูกค้ามีแนวโน้มแบ่งโครงการขนาดใหญ่ออกเป็นเฟสย่อย เพื่อลดภาระด้านงบประมาณและกระจายความเสี่ยงส่งผลให้มูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการลดลงตามไปด้วย” นายปนายุ กล่าว
แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้รายได้รวมและกำไรขั้นต้นของกลุ่มบริษัทลดลง และเมื่อประกอบกับต้นทุนหลักด้านบุคลากรที่ยังอยู่ในระดับเดิม จึงส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิและอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาอัตราส่วนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอัตราส่วนสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูงอยู่ที่ 4.18 เท่า สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นได้ และอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่อยู่ในระดับต่ำที่ 0.05 เท่า แสดงถึงโครงสร้างเงินทุนที่มั่นคงและความเสี่ยงทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 TBN มีงานในมือ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 350 ล้านบาท แบ่งเป็นงานพัฒนาระบบดิจิทัลและที่ปรึกษา 92 ล้านบาท งานบำรุงรักษาระบบและสนับสนุนเทคโนโลยี 231 ล้านบาท และงานอื่น ๆ อีก 27 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามแผนดำเนินโครงการ โดยจะรับรู้รายได้ปีนี้ราว 192 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 158 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีถัดไป
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 349.30 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทประเมินว่ามีรายได้ประจำ (Recurring Income) แล้วกว่า 200 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ที่เป็น Recurring Income เพิ่มขึ้นแตะที่ 60% ของรายได้รวม เทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่กว่า 50% ซึ่งมาจากการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มโรงพยาบาลและพลังงาน รวมถึงงานจากภาครัฐที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และมุ่งหวังงานโครงการขนาดใหญ่ที่เลื่อนรับรู้จากปีก่อนจะทยอยรับรู้แล้วเสร็จภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังเน้นงานภาครัฐเพิ่มขึ้น พร้อมกับการเพิ่มความเข้มงวดในการบริหารโครงการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากต้นทุนส่วนเกินที่อาจไม่สามารถเรียกเก็บคืนได้ในอนาคต
โดยกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 TBN ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรไทยก้าวสู่อนาคตได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนในระยะยาว ด้วย Intelligent Digital Solutions Platform ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AI Driven Mendix Low-Code, Generative AI, Debt Collection Systems, AI Communications Platform รวมถึง Cybersecurity เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่