คณะผู้สังเกตการณ์ฯอาเซียน ลงพื้นที่ช่องอานม้า รับรู้กัมพูชาละเมิดหยุดยิง รุกล้ำตัดลวดหนาม
กองทัพภาคที่ 2 เผยคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน IOT ลงพื้นที่ช่องอานม้าเกือบ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่แฉกัมพูชาละเมิดหยุดยิง -รุกล้ำตัดลวดหนาม เผยเคยเป็นที่ตั้งศูนย์อพยพมีสำนักงาน UNHCR แต่ปัจจุบันกลายเป็นคาสิโน
19 สิงหาคม 2568 - ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ณ เวลา 14.00 น. พบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา มีรถบรรทุก และรถยนต์หลายคันวิ่งเข้ามาในบางพื้นที่ อีกทั้งตรวจพบโดรน 23 ลำในฝั่งกัมพูชา ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
การดูแลผู้อพยพ สนับสนุนส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่รวบรวมพลเรือน พื้นที่ จ.อุบลราชธานี 8 ศูนย์ ปัจจุบันมียอดรวม 638 คน เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งนี้ทางฝ่ายปกครองได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เข้าดูแลพื้นที่ บ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่อพยพอย่างต่อเนื่อง
คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จำนวน 8 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวม 14 นาย โดยมี พล.ต.ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหัวหน้าคณะ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงกรณีที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยเฉพาะที่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดที่กัมพูชาเข้ามารุกล้ำและตัดลวดหนาม
“ทางคณะผู้สังเกตการณ์ได้ใช้เวลาในการดูพื้นที่บริเวณช่องอานม้าเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง นอกจากอนุสาวรีย์ตาอมแล้ว ร้านค้าที่อยู่บริเวณโดยรอบก็เสียหายจากเหตุการณ์สู้รบ มีบางส่วนที่มีร่องรอยของการโดนระเบิดและมีเหตุไฟไหม้ ซึ่งช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนการค้าชั่วคราว ที่ก่อนหน้านี้ มีการเปิดให้ทำการค้า และทางเจ้าหน้าที่ไทยได้อธิบายว่าพื้นที่ในฝั่งกัมพูชาก่อนหน้านี้เคยเป็นศูนย์อพยพที่มีสำนักงาน UNHCR อยู่ด้วย แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นคาสิโนไปแล้ว ส่วนพื้นที่โดยรอบช่องอานม้ามีการวางกำลังของทหารไทยและกัมพูชาทั้งสองฝ่าย โดยไม่ติดอาวุธ ตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งช่องอานม้าเป็นหนึ่งในพื้นที่การสู้รบสำคัญในช่วงที่ผ่านมา