โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

DBD ปลื้ม 7 เดือนปี 68 ต่างชาติลงทุนไทย 1.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้นปี 67 กว่า 7 หมื่นล. ญี่ปุ่นครองแชมป์

สยามรัฐ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

DBD ปลื้ม 7 เดือนปี 68 ต่างชาตินำเงินลงทุนเข้าไทยแตะ 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 67 กว่า 7 หมื่นล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 75% ญี่ปุ่นลงทุนอันดับหนึ่ง 69,817 ล้านบาท ตามด้วย สหรัฐอเมริกา และ สิงคโปร์

วันที่ 27 สิงหาคม 2568 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า 7 เดือน ปี 2568 (มกราคม - กรกฎาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 583 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 150 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 433 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 159,460 ล้านบาท โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรกของ 7 เดือน ปี 2568 ได้แก่

1. ญี่ปุ่น 112 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 69,817 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
- ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ
- ธุรกิจบริการเป็นศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบที่ทันสมัย
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น พลาสติกคอมพาวด์และมาสเตอร์แบตช์ สิ่งพิมพ์ลามิเนทเพื่อบรรจุ ภัณฑ์ อุปกรณ์สำหรับรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร และชิ้นส่วนยานพาหนะ

2. สหรัฐอเมริกา 85 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 3,238 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้า เช่น ชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งยานพาหนะ
- ธุรกิจโฆษณา
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิต เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ โลหะผสมสำหรับผลิตเครื่องประดับ และ Captive Screw for PCB

3. สิงคโปร์ 74 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 22,872 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกัน
- ธุรกิจบริการสนับสนุนและบริหารจัดการการวิจัยทางคลินิก
- ธุรกิจบริการให้ใช้แอปพลิเคชันสำหรับเชื่อมต่อกับระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป บรรจุภัณฑ์กระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพ แม่พิมพ์/ชิ้นส่วนพลาสติก และ Printed Circuit Board

4. จีน 73 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 20,029 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจการจัดหาจัดซื้อวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ
- ธุรกิจบริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า
- ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากการผลิต PCBA, ฟิล์มและบรรจุภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ Multilayer Printed Circuit Board

5. ฮ่องกง 64 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 11,467 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจบริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานและสัญญาแบ่งปันผลผลิตในอ่าวไทย
- ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยการออกแบบ ทดสอบ ปรับปรุงชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์
- ธุรกิจบริการ Data Center
- ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าจากขยะ เครื่องมือไฟฟ้า (Power Tools) และผลิตภัณฑ์จากกระดาษรีไซเคิล

การเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างชาติในไทยโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมขุดเจาะ องค์ความรู้เกี่ยวกับบำรุงรักษางานระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานีจัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 123 ราย (27%) (เดือน ม.ค. - ก.ค.68 อนุญาต 583 ราย / เดือน ม.ค. - ก.ค.67 อนุญาต 460 ราย) และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 68,473 ล้านบาท (75%) (เดือน ม.ค. - ก.ค.68 ลงทุน 159,460 ล้านบาท / เดือน ม.ค. - ก.ค.67 ลงทุน 90,987 ล้านบาท) รวมถึงมีการจ้างงานคนไทยจากนักลงทุนที่ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเพิ่มขึ้น 1,940 คน (90%) (เดือน ม.ค. - ก.ค.68 จ้างงาน 4,085 คน / เดือน ม.ค. - ก.ค. 67 จ้างงาน 2,145 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปีก่อน

อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ช่วง 7 เดือน ปี 2568 (มกราคม - กรกฎาคม) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 176 ราย คิดเป็น 30% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 39 ราย (28%) (เดือน ม.ค. - ก.ค.68 ลงทุน 176 ราย / เดือน ม.ค. - ก.ค.67 ลงทุน 137 ราย) โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 73,186 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศ *ญี่ปุ่น 44 ราย ลงทุน 26,937 ล้านบาท *จีน 43 ราย ลงทุน 14,442 ล้านบาท *ฮ่องกง 18 ราย ลงทุน 5,264 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 71 ราย ลงทุน 26,543 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ

* ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
* ธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง ทดสอบเครื่องจักรและระบบการทำงานต่างๆ สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว
* ธุรกิจบริการทางวิศวกรรม โดยการออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์
* ธุรกิจบริการเขต Data Center
* ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปจากแผ่นวงจรพิมพ์ ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์จากกระดาษรีไซเคิล เป็นต้น

เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในไทย 81 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 27 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 54 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 47,954 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจาก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ มีการจ้างงานคนไทย 799 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมขุดเจาะ องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบเชื่อมโลหะสำหรับส่งก๊าซและน้ำมัน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบและกระบวนการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA) เป็นต้น

สำหรับธุรกิจที่คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในเดือนกรกฎาคม 2568 ได้แก่
* ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเพื่อจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วน สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
* ธุรกิจบริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
* ธุรกิจบริการพัฒนา Enterprise Software
* ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะหล่อขึ้นรูป ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากการผลิต PCBA และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ เป็นต้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

เซ็นทาราจัดโปรแรง “Tropic Wonders: Exclusive Flash Sale”มอบส่วนลดเพิ่มพิเศษ 20% ให้กับสมาชิก

13 นาทีที่แล้ว

ครั้งแรก! Louis Vuitton รุกตลาดบิวตี้ เปิดตัวไลน์เมคอัพ La Beauté เจาะตลาดความงามระดับลักชัวรี

15 นาทีที่แล้ว

ด่วน! ขอรับบริจาคเลือด "กรุ๊ปโอ" ช่วย "พลทหารอดิศร" เหยียบกับระเบิดใกล้ปราสาทตาควาย

18 นาทีที่แล้ว

ทบ.แจงเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย ยันกัมพูชาจงใจ

20 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ ALL-อดีตผู้บริหาร ปมปกปิดข้อเท็จจริงในงบปี 65

PostToday

เซ็นทาราจัดโปรแรง “Tropic Wonders: Exclusive Flash Sale”มอบส่วนลดเพิ่มพิเศษ 20% ให้กับสมาชิก

สยามรัฐ

ครั้งแรก! Louis Vuitton รุกตลาดบิวตี้ เปิดตัวไลน์เมคอัพ La Beauté เจาะตลาดความงามระดับลักชัวรี

สยามรัฐ

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้(28 ส.ค. 68)

มุมข่าว

‘มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์’ เร่งผลักดันนวัตกรรมด้านบริการยกระดับมาตรฐานธุรกิจ

เดลินิวส์

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 27ส.ค.ที่ระดับ 32.47 บาทต่อดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ผนึกกำลังเปิดโปรเจ็กต์ "คำสารภาพของหมอผี"

MATICHON ONLINE

OpenAI ถูกฟ้อง! หลัง ChatGPT แนะวิธีลาโลก!

หุ้นวิชั่น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...