ใครดีใครแย่! ตัดเกรดแข้ง ลิเวอร์พูล ปรีซีซั่น 2025
"เดอะ เร้ดส์" มีคิวเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ ในเกมเปิดซีซั่นศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยความมั่นใจ วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ แม้พวกเขาจะแพ้จุดโทษให้กับ คริสตัล พาเลซ ในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก็ตาม
สำหรับเป้าหมายหลักของช่วงปรีซีซั่นไม่ใช่การสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้แฟนบอลทั่วโลกของ "หงส์แดง" เท่านั้น แต่ยังต้องการฟื้นฟูความฟิตของนักเตะ และ การทำผลงานได้ดีในช่วงนี้ก็สามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้ทีมก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ได้
ดังนั้นมีผู้เล่นลงสนามทั้งสิ้น 37 คน แต่การให้คะแนนนักเตะ (จากเต็ม 10) จะเลือกเพียง 22 รายที่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในช่วงอุ่นเครื่องกับ เปรสตัน, สโต๊ค ซิตี้, เอซี มิลาน, โยโกฮาม่า เอฟ มารินอสและ แอธเลติก บิลเบา 2 เกมที่แอนฟิลด์
จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ : 8
ทำผลงานได้โดดเด่น มีโอกาสได้ลงสนามอย่างเต็มที่ เข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดีเยี่ยม ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะมีเสียงวิจารณ์อยู่บ้างจากจังหวะเสียงประตูสุดท้ายในเกมกับ เอซี มิลาน แต่จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ใช่ เพราะคนที่ควรโดนตำหนิก็คือ คอสตาส ซิมิกาส มากกว่า
อลีสซง เบค์เกอร์ : 6
ไม่ค่อยได้แสดงผลงานในช่วงปรีซีซั่น เนื่องจากได้ลงสนามไม่มากเพราะจำเป็นต้องเดินทางกลับ บราซิล เพื่อไปดูแลภรรยาที่ต้องเข้าโรงพยาบาล โดยได้ลงเฝ้าเสาในเกมกับ มิลาน จากนั้นก็กลับมาเล่นในแมตช์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ฟอร์มยังคงไว้วางใจได้ แต่จะนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะ มามาร์ดาชวิลี่ พร้อมแย่งมือ 1 เสมอ
เจเรมี่ ฟริมปง : 8
เริ่มต้นชีวิตใหม่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจมากๆ โดยสามารถปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรวดเร็ว สไตล์การเล่นที่ดุดัน ทรงพลัง เต็มไปด้วยความฟิต เล่นได้เข้ากับแท็กติกของโค้ชอาร์เน่อ สล็อต
คอเนอร์ แบรดลี่ย์ : 6
โอกาสลงสนามถูกจำกัดเนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยกับ แบรดลี่ย์ ในช่วงที่ผ่านมา โดยงานนี้ทีมสตาฟฟ์โค้ชจะต้องพยายามหาทางแก้ไขไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามเมื่อเปิดซีซั่นใหม่
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 5
ฟอร์มการเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทาง โดย ฟาน ไดค์ ยอมรับว่าสภาพร่างกายยังไม่ฟิตเต็มร้อย ผลงานในช่วงอุ่นเครื่องไม่ค่อยน่าประทับใจ และในเกมชิงโล่การกุศลก็น่าผิดหวัง แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลา กัปตันทีมชาวดัตช์ จะกลับมาสู่ฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง
อิบราฮิม่า โกนาเต้ : 6
ในช่วงปรีซีซั่นนักเตะต้องขาดสมาธิจากเรื่องข่าวลือย้ายทีม หลังการขยายสัญญาใหม่กับต้นสังกัดยังไม่เรียบร้อย นั่นทำให้ฟอร์มของ โกนาเต้ ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นเพราะสมาธิไม่อยู่ในสนาม อย่างไรก็ตาม "อิบู" แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ในช่วงปรีซีซั่น แต่ปัญหาสำคัญก็คือเรื่องสภาพร่างกายที่เปราะบาง และอาจส่งผลกระทบทำให้บาดเจ็บได้ง่าย
มิลอส เคอร์เคซ : 7
เล่นด้วยฟอร์มที่มุ่งมั่น และทุ่มเทอย่างเต็มที่ ส่วนเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ อาจไม่ใช่ผลงานที่ดีเยี่ยมมากนัก แต่เข้าใจได้เพราะนี่คือช่วงแรกที่ทำงานร่วมกับ ฟาน ไดค์ จึงอาจจะขาดความเข้าใจกันไปบ้าง แต่กระนั้นศักยภาพของ เคอร์เคซ จะกลายเป็นนักเตะสำคัญของ โค้ชอาร์เน่อ แน่นอน
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 6
ด้วยวัย 31 ปีฟอร์มการเล่นไม่ได้ดุดันเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่จากกรณีที่มีข่าวลือว่า คอสตาส ซิมิกาส จะย้ายทีมทำให้ กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ ยังคงได้อยู่ในทัพ "หงส์แดง" ต่อไป แม้ร่างกายจะไม่เหมือนเดิมแต่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ยังคงมีความสำคัญกับทีมในฐานะกำลังสำรอง
คอสตาส ซิมิกาส : 5
ฟอร์มไม่ได้โดดเด่น บางเกมต้องขยับไปเยือนเซนเตอร์แบ็ก การไม่มีชื่อในเกมชิงโล่การกุศลที่เวมบลีย์ น่าจะเป็นสัญญาณบอกว่าอนาคตของเขาคงไม่มีแล้วในสีเสื้อ "หงส์แดง"
ไรอัน กราเฟนแบร์ก : 8
แม้ช่วงปรีซีซั่น ลิเวอร์พูล จะให้โอกาสดาวรุ่งได้ลงสนามเยอะมาก แต่ กราเฟนแบร์ก ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้ดี มีวินัย และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ การพาบอลเต็มไปด้วยความมั่นใจ และความเร็วในการพลิกตัวทะลุช่องว่างยังคงเฉียบคมเหมือนเดิม
เคอร์ติส โจนส์ : 6
เล่นตามบทบาทที่ กุนซือชาวดัตช์ สั่งได้อย่างลงตัว และสามารถตอบโจทย์ได้หลายด้าน มีความเฉียบคมและขยันขันแข็ง สามารถประสานงานกับฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้อย่างลงตัวเมื่อมีโอกาสลงสนาม
โดมินิค โซโบซไล : 7
โดดเด่นมากๆ ในเกมกับเอซี มิลาน พร้อมทั้งยิงประตูสุดสวยด้วย ปรับตัวกับบทบาทใหม่ได้ดี สภาพร่างกายฟิตเต็มที่เหมือนเดิม แต่การอ่านเกมจำเป็นต้องปรับปรุงพัฒนามากกว่านี้
วาตารุ เอ็นโด : 7
เป็นนักเตะที่มีความจงรักภักดีกับสโมสร ไม่เคยบ่นเมื่อถูกจับให้ลงเล่นในตำแหน่งไหนก็ตาม สภาพร่างกายฟิตเต็มที่ และสร้างผลงานได้ดีในช่วงที่ทัวร์เอเชีย
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ : 6
เล่นด้วยความมุ่งมั่นหลังนำ อังกฤษ ชุดเล็ก คว้าแชมป์ ยูโร ยู-21 แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่มุ่งมั่น และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะความพยายามในการเจาะแนวรับในเกมกับ เอซี มิลาน แม้อนาคตกับทีมยังไม่แน่นอน แต่ทุกครั้งที่ได้รับโอกาสลงสนามก็ทุ่มเทเต็มร้อยเสมอ
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ : 9
แสดงให้เห็นถึงทักษะการเล่นได้อย่างโดดเด่น กลายเป็นหัวใจในเกมรุกของทีมอย่างรวดเร็ว สร้างสรรค์โอกาสได้บ่อยครั้ง จังหวะการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่งทำได้ดี ประสานงานในเกมรุกของทีมได้อย่างลงตัว
เทรย์ นายโอนี่ : 8
หนึ่งในดาวรุ่งที่สมควรได้รับเครดิตเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม ฟอร์มโดดเด่นมากๆ ในเกมกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ครองบอลเหนียวแน่น แย่งบอลกลับคืนได้เร็ว อ่านเกมเด็ดขาด เข้าใจเกมทะลุปรุโปร่ง มีไหวพริบในการเล่นเกมบุก สมควรได้ลงสนามในเกมลีกมากขึ้น
ริโอ เอ็นกูโมอา : 9
เกมปรีซีซั่นคือการแจ้งเกิดอย่างชัดเจนสำหรับ ริโอ เอ็นกูโมอา แม้นักเตะอายุยังไม่ครบ 17 ปีจนกระทั่งหมดเดือนสิงหาคมนี้ แต่ฟอร์มของเขาน่าประทับใจมากๆ และถือเป็นปรากฎการณ์สำหรับ "หงส์แดง" อย่างแท้จริง เด็กหนุ่มคนนี้มีศักยภาพและความรวดเร็วในการทำลายล้างแนวรับคู่แข่ง แม้อาจยังเร็วไปหน่อยที่จะโยนความหวังทั้งหมดให้เขา แต่ เจ้าหนูริโอ พร้อมลงสนามเมื่อได้รับโอกาส
เบน โด๊ค : 7
ความรวดเร็วและความคล่องตัวถือเป็นจุดเด่นมากๆ สำหรับ เบน โด๊ค นอกจากนี้นักเตะยังแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่เหมาะสม และพร้อมลงสนามให้กับทีมในทุกสถานการณ์ ดังนั้นนี่อาจเป็นฤดูกาลที่เขาจะได้รับโอกาสมากขึ้น หากไม่โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวอีกครั้ง
โกดี้ คักโป : 6
เริ่มเข้าฟอร์มและดูเหมือนเป็นผู้เล่นตัวหลักเต็มตัวแล้ว แต่ยังต้องพัฒนาความสม่ำเสมอในการสร้างความอันตรายมากกว่านี้ สองประตูในเกมกับ แอธ.บิลเบา เป็นผลงานที่โดดเด่นของนักเตะ และเป็นฟอร์มที่น่าประทับใจสำหรับ คักโป แต่ฟอร์มในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ถือว่าน่าผิดหวัง และคงต้องพัฒนาต่อไป
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 6
ฟอร์มโดดเด่นในเกมกับ แอธ.บิลเบา ที่แอนฟิลด์ และดูเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า "คิง ออฟ อียิปต์" กำลังกลับมาสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง ประสานงานกบ อูโก้ เอกิติเก้ และ เวียร์ตซ์ ได้อย่างลงตัวในช่วงปรีซีซั่น แต่พลาดจุดโทษ 2 เกมหลังสุด ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก กระนั้น "บังโม" ยังคงเป็นตัวความหวังในเกมรุกเหมือนเดิม
อูโก้ เอกิติเก้ : 8
เปิดตัวได้อย่างร้อนแรกในช่วงทัวร์เอเชีย ด้วยการทำแอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ และจากนั้นก็ยิงประตูสุดงามในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ โดย สตาร์ชาวฝรั่งเศส เต็มไปด้วยความรวดเร็ว และจบสกอร์ได้เฉียบคม นี่คือการเสริมทัพที่สำคัญมากของ "หงส์แดง"
ดาร์วิน นูนเญซ : 6ดูเหมือนจะมีอนาคตกับทีม หลังกลับมาลงเล่นปรีซีซั่นด้วยการซัดแฮตทริกในแมตช์ปะทะ สโต๊ค นอกจากนี้ยังยิงประตูในเกมดวล เปรสตัน รวมทั้งทำประตูและแอสซิสต์ ในเกมแรกที่พบ แอธ. บิลเบา แต่สุดท้ายนักเตะต้องอำลาถิ่นแแอนฟิลด์ แต่ผลงานที่เขาได้สร้างเอาไว้กับทีมยังคงทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" คิดถึงอยู่เสมอ