24 ทีมชั้นนำ ประชันแข้งล่าแชมป์ ศึกลูกหยังยูแชมเปี้ยนชิพ ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ที่อุบลราชธานี
นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานแถลงข่าวและจับสลากการแข่งขันฟุตบอลชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 (3rd Football Thailand University Championship) รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ชิงถ้วยรางวัลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมทุนการศึกษา รวม 1,000,000 บาท ณ ห้องประชุมแถลงข่าวชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สป.อว.(ถนนโยธี) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค 5 ภาค ได้จัดแข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว ระหว่างวันที่ 2-30 มิ.ย.68 และได้ทีมตัวแทนภาคจำนวน 22 ทีม พร้อมด้วยทีมเจ้าภาพ 1 ทีม คือ ม.ราชภัฏอุบลราชธานี และทีมแชมป์เก่า 1 ทีม คือ ม.นอร์ทกรุงเทพ รวมทั้งสิ้น 24 ทีม ผ่านเข้ามาเล่นรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ก.ย.68 ที่ ม.ราชภัฏอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
ในรอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ นั้น ทีมแชมป์ จะได้รับเงินรางวัล 400,000 บาท, รองแชมป์ รับ 200,000 บาท, อันดับ 3 รับ 100,000 บาท และอันดับ 4 รับ 80,000 บาท ส่วนทีมที่ตกรอบ รอบก่อนรองชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัลทีมละ 55,000 บาท
นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาฟุตบอลชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 เป็นหนึ่งในโครงการของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของนิสิตนักศึกษา โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูกิจกรรมด้านการกีฬาระหว่างสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขัน 2 รอบ คือ รอบคัดเลือกระดับภูมิภาค 5 ภาค และรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ
สำหรับทีมนักเตะปัญญาชน ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้มีทั้งหมด 24 ทีม ประกอบด้วย ม.ราชภัฏอุบลราชธานี (เจ้าภาพ), 2.ม.นอร์ทกรุงเทพ (แชมป์เก่า), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, ม.กรุงเทพธนบุรี, ม.ธรรมศาสตร์, ม.ราชภัฏเชียงใหม่, ม.ปทุมธานี, ม.ราชภัฏนครราชสีมา, วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย, ม.ขอนแก่น, ม.ราชภัฏสงขลา
ม.ทักษิณ, มจพ.พระนครเหนือ, ม.กรุงเทพ, ม.ศิลปากร, ม.เกษมบัณฑิต, ม.นเรศวร, ม.ราชภัฏเพชรบุรี, ม.การจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ม.วงษ์ชวลิตกุล, ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช และ ม.สงขลานครินทร์