เปิดแล้ว “เทศกาลอะโวคาโด มรกตแห่งขุนเขา” วันที่ 8–10 ส.ค.นี้
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) จัดงาน “เทศกาลอะโวคาโด มรกตแห่งขุนเขา” ระหว่างวันที่ 8–10 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตอะโวคาโดคุณภาพ ปลอดภัย และยั่งยืนบนพื้นที่สูงเพื่อเป็นการรณรงค์การบริโภคอะโวคาโด ที่ปลูกในประเทศไทย ที่มีคุณภาพมาตรฐานลดการพึ่งพาการนำเข้าหรือลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศโดยมีเกษตรกรและผู้สนใจกว่า 500 คนเข้าร่วม
การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการยกระดับสินค้าเกษตรของไทยให้มีคุณภาพ และตรงความต้องการของตลาดพร้อมทั้งคุมเข้มการลักลอบนำเข้าอะโวคาโดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดย“ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช”ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งปราบปรามอะโวคาโดนำเข้าเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสุขอนามัยพืช ซึ่งอาจนำศัตรูพืชเข้าสู่ประเทศ สร้างความเสียหายต่อระบบการเกษตรไทย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า อะโวคาโดเป็นพืชอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ พื้นที่ปลูกมีมากกว่า 30,000 ไร่ พื้นที่ปลูกส่วนมากกระจายตัวอยู่ในภาคเหนือในเขตจังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน อะโวคาโดเป็นไม้ผลยืนต้น อายุยืน ไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตและให้ผลผลิตสูงมีคุณภาพดีบนพื้นที่สูง เหมาะสำหรับปลูกทดแทนป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย และทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่มีการใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่เข้มข้นในปริมาณมาก ส่งผลให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีผลต่อสุขภาพอนามัยของเกษตรกร
กรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบูรณ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก จัดงาน วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอะโวคาโดคุณภาพ ภายใต้โครงการ “ขยายผลเทคโนโลยีการผลิตอะโวคาโดปลอดภัยสู่ความยั่งยืนบนพื้นที่สูง”
ภายในงานมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้
- 1. การแสดงนิทรรศการทางวิชาการ“เทคโนโลยีการผลิตอะโวคาโดคุณภาพ” การให้บริการถ่ายทอด ปรึกษา ปัญหาด้านการผลิตอะโวคาโดให้กับเกษตรกร และการจัดกิจกรรมแบบมีส่วนร่วม เช่น การสาธิตประกอบอาหาร การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอะโวคาโด การสาธิตและฝึกปฏิบัติ “การผลิตและการขยายพันธุ์อะโวคาโด” แก่เกษตรกร และผู้สนใจ
- 2.การจัดกิจกรรมเสวนา ทิศทางการผลิตอะโวคาโด เพื่อการค้า
- 3.การจัดกิจกรรมประกวดผลผลิตอะโวคาโดของเกษตรกรในพื้นที่เพื่อคัดเลือกหาสายต้นที่ดี โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 5 ประเภทคือ พันธุ์พื้นเมือง ขนาดผลเล็ก ผลกลาง ผลใหญ่ และผลผลิตพันธุ์การค้า
- 4. การจัดตลาดนัดอะโวคาโด โดยให้เกษตรกรผู้ปลูก ออกร้านจำหน่าย
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงาน “เทศกาลอะโวคาโด มรกตแห่งขุนเขา” ในวันนี้ จะเป็นการขยายผลการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการผลิตอะโวคาโดอย่างปลอดภัย อย่างยั่งยืนบนที่สูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้มีการผลิตอะโวคาโด อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการอันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ภายในงานจะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาและยกระดับการผลิตอะโวคาโดในท้องถิ่นให้ได้มาตรฐาน ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือร่วมใจระหว่างเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาการผลิตอะโวคาโดให้มีคุณภาพไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชน พี่น้องเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจเข้าร่วมงาน “เทศกาลอะโวคาโด มรกตแห่งขุนเขา” ระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์