‘วิโรจน์’ บอกใครก็ได้เป็นนายกฯชั่วคราว ปชน. ยินดียกมือให้ หากยอมรับเงื่อนไข
"วิโรจน์" ย้ำ ปชน. พร้อมยกมือโหวตนายกฯ ชั่วคราว หากรับเงื่อนไขได้ รองบ 69 ผ่าน-ยุบสภา ไม่ติดว่าเป็นใคร พรรคไหน ขอให้อยู่ภายใต้กติกา บอกเลิกฝันไปเลยถ้าจะรัฐประหารหากยังมีพรรคประชาชนอยู่ในสภาฯ
5 กรกฎาคม 2568 - ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อมาแก้วิกฤตบ้านเมือง ว่า เราลืมหน้าตานายกฯ หรือพรรค ไปได้เลย ว่าพรรคไหนหน้าตาเป็นอย่างไร พรรคประชาชนยึดหลักการเป็นหลัก และยังคงยืนยันเงื่อนไขที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน แต่กรณีเงื่อนไขที่ต้องมีนายกฯ ชั่วคราว เพื่อให้ผ่านงบประมาณปี 69 ไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน
นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราอยากหาทางออกภายใต้เงื่อนไขที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและและคำนึงถึงสัจจะวาจาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน แต่ถ้าจำเป็นต้องมีมีนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ประคับประคองให้งบประมาณ ปี 69 ผ่าน แล้วยุบสภา เราพร้อมที่จะยกมือให้ ถ้าจำเป็นที่จะใช้มือของเรา โดยที่เรายืนยันว่าไม่ขอร่วมรัฐบาล ไหนๆ ก็จะเลือกตั้งใหม่แล้ว จะช่วยประหยัดงบประมาณภาษีของประชาชน และเตรียมในเรื่องของการทำประชามติการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เป็นผลพวงของรัฐประหารได้เริ่มต้นแก้ไขอย่างจริงจังเสียทีไม่ใช่รำกันไปมา ถ้าประชาชนมีมติว่าควรมีสสร. เป็นการเริ่มต้นแล้ว และเห็นสว่างทางไปอุโมงค์ในระบอบประชาธิปไตย พร้อมยืนยันว่า จะอย่างไรก็ตามพรรคประชาชนจะไม่สร้างทางตันให้เกิดขึ้นให้เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน และเมื่อไหร่ที่มีทางตันพวกเราจะช่วยกันขุด เพื่อหาทางออก เลิกฝันไปเลยว่า จะเกิดรัฐประหารภายใต้การที่มีพรรคประชาชนยังอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรายื่นเงื่อนไขต่อสาธารณะ สมมุติว่า นายชัยเกษม นิติสิริ รับเงื่อนไขนี้ แล้วจำเป็นต้อง ยกมือให้นายชัยเกษม เราก็ยินดี ใครก็ได้ งบฯ 69 ผ่าน ทำประชามติร่วมกับการเลือกตั้งเลย ยุบสภาภายในสิ้นปีนี้ แล้วจำเป็นต้องใช้มือเรา เราก็ยินดีที่จะยกมือให้ เพื่อบ้านเมืองผ่านไปได้
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ สส. ที่ไปร่วมวงเจรจากับนายอนุทิน หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า การไปพบปะพูดคุยกันระหว่างนักการเมืองเป็นเรื่องปกติ และได้มีการชี้แจงออกมาแล้วว่า เป็นการพบปะกันจริงแต่เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าการพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่มีการแอบโทรไปหาอังเคิลอย่างที่ใครทำแน่นอน