เมื่อท่องเที่ยวไทยเสี่ยงวิกฤต ‘ความยั่งยืน’ ไม่ใช่แค่ต้นทุน แต่คือขุมทรัพย์ใหม่พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตและประเทศไทย
ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของตลาด การดำเนินธุรกิจโรงแรมด้วยแนวคิด ‘ความยั่งยืน’ กำลังถูกผลักดันให้เป็นมากกว่าแค่เทรนด์ แต่เป็น ‘กลยุทธ์สำคัญ’ ที่จะช่วยฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันให้อุตสาหกรรมในระยะยาว โดยเฉพาะในบริบทของ ‘ภูเก็ต’ ซึ่งตั้งเป้าสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก
สหรัฐ จิวะวิศิษฎ์นนท์ กรรมการบริหาร หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้ ผู้บริหารโรงแรมโฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท และในฐานะประธานฝ่ายความยั่งยืนของสมาคมโรงแรมภาคใต้ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของความยั่งยืนในการขับเคลื่อนธุรกิจ
“การดำเนินงานด้านความยั่งยืนไม่ใช่เพียงแค่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการสร้างคุณค่าและประหยัดต้นทุนได้อย่างชัดเจน” สหรัฐกล่าว พร้อมยกตัวอย่างจากโรงแรมโฟร์พอยท์ส ภูเก็ตฯ ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้เกือบ 7% และประหยัดพลังงานได้อีก 7% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.1 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมจากการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนตั้งแต่เริ่มต้น
สำหรับสหรัฐ ‘ความยั่งยืนคือเมกะเทรนด์ที่ทุกภาคส่วนกำลังมุ่งหน้าสู่จุดนั้น’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภูเก็ตจะเป็นเจ้าภาพการประชุม GSTC (Global Sustainable Tourism Council) ในปีหน้า ซึ่งจะดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกมายังภูเก็ตในฐานะเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่าการผลักดันให้โรงแรมมีมาตรฐานด้านความยั่งยืนเดียวกันทั่วทั้งเกาะจะช่วยเสริมสร้างภูเก็ตให้เป็นจุดหมายปลายทางที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลและคนรุ่นใหม่ ต่างมองหาโรงแรมที่มีการรับรองด้านความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ยั่งยืน: สร้างคุณค่าและเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น
นอกเหนือจากผลประโยชน์ด้านการลดต้นทุนแล้ว การดำเนินงานที่เน้นความยั่งยืนยังส่งผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมีนัยสำคัญ โฟร์พอยท์ส ภูเก็ตฯ ได้นำกลยุทธ์ ‘Localization Strategy’ มาใช้ ด้วยการเลือกซื้อวัตถุดิบและสินค้าจากชุมชนท้องถิ่น แทนที่จะพึ่งพาสินค้านำเข้าหรือจากห้างค้าส่งขนาดใหญ่ การสนับสนุนเช่นนี้ก่อให้เกิดการกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สูงถึง 90% ในปีที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อสินค้าจากชุมชนจึงสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาล
“ผมเชื่อว่าความยั่งยืนไม่ได้ช่วยแค่ทางโรงแรม แต่ยังช่วยทำให้สังคมดีขึ้น และเศรษฐกิจดีขึ้น” สหรัฐ กล่าว
Screenshot
Screenshot
แผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในอนาคต
โฟร์พอยท์ส ภูเก็ตฯ มีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโรงแรม ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมกับชุมชนมากขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ โรงแรมยังตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนลงเหลือ 1.6 ล้านกิโลกรัมภายในปี 2030 จาก 4.8 ล้านกิโลกรัมในปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเครือแมริออทที่มุ่งสู่ Net Carbon Zero ภายในปี 2050
นอกจากนี้ โครงการโรงแรมใหม่ ‘เชอราตัน ในหาน’ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปี 2028 จะถูกออกแบบให้เป็น ‘Sustainable Hotel’ ตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง และจะขอรับรอง EDGE Certification แม้ต้นทุนการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนจะสูงขึ้นประมาณ 20-30% แต่มูลค่าที่ได้รับกลับมาก็สูงขึ้นเช่นกัน รวมถึงการได้รับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน (Sustainability Linked Loan) จากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการเงินที่สำคัญ โดยเชื่อว่าการได้รับ EDGE Certification จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มองหาโรงแรมที่มีมาตรฐานด้านความยั่งยืนมากขึ้น
“การลงทุนของเราในความยั่งยืน แสดงให้เห็นว่าเราไม่ใช่ผู้ตาม แต่กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำ” สหรัฐทิ้งท้าย และเชื่อมั่นว่าความพยายามเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลกได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูเก็ต และการหายไปของกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักบางกลุ่ม ซึ่งทำให้ความยั่งยืนกลายเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวและเติบโตอย่างมีคุณภาพในระยะยาว