โรงแรมขอนแก่น จ่อปลดพนักงาน เซ่นค่าแรง 400 บาท
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 68 นายจักรกฤษณ์ ศิริพาณิชย์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตอนนี้ภาคการโรงแรมของขอนแก่น อยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ลูกค้ามีการมาใช้บริการน้อยลง ภาครัฐและภาคเอกชนก็มาใช้บริการน้อยลง โดยเฉพาะการประชุมสัมมนาที่งบประมาณในการดำเนินการนั้นน้อยลง แต่ผู้ประกอบการโรงแรมกลับมาถูกการปรับขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาทโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ยอมรับว่าผู้ประกอบการโรงแรมได้รับผลกระทบที่ชัดเจน แต่เมื่อกฎหมายกำหนดมาแบบนี้ ผู้ประกอบการก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อขึ้นค่าแรงแล้ว ผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัว เพราะค่าแรงถือเป็นต้นทุนหลักที่สำคัญ ผู้ประกอบการจะต้องมองถึงภาวะต้นทุน ซึ่งอาจจะลดจำนวนพนักงานลง หรือลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วไม่มีนายจ้างรายใดที่อยากไล่พนักงานออก ในภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองในขณะนี้ แต่ถ้ามีลูกจ้างลาออกเอง ก็อาจจะไม่รับพนักงานเพิ่ม ถ้าจะมองว่าให้เราไปขึ้นค่าห้องพักกับการลดค่าใช้จ่าย ผู้ประกอบการเองก็ไม่อยากที่จะผลักภาระตรงนี้ไปให้ผู้บริโภค
ดังนั้นวันนี้ผู้ประกอบการโรงแรมกำลังพูดคุยกันว่าอะไรที่เราลดค่าใช้จ่ายลงได้ เราต้องทำทันที เพราะค่าแรงนั้นมีคำสั่งให้ขึ้นทันที ส่วนการจะไปขึ้นค่าห้องพักหรือขึ้นราคา โดยเฉพาะโรงแรมในภาคอีสานของเรานั้นค่าที่พักถูกมาก ซึ่งการที่จะปรับราคาขึ้นในหลักสิบบาท เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมาก ซึ่งลูกค้าจะเลือกและพิจารณาเยอะขึ้น อย่างบางโรงแรมปรับขึ้น บางโรงแรมไม่ปรับราคาขึ้นก็จะกลับสู่การแข่งขันด้านราคา แต่โดยส่วนตัวมองว่าสุดท้ายผู้ประกอบการก็ต้องมาแบกรับภาระเรื่องค่าแรงอยู่ดี
ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า นโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมา เป็นการผลักภาระให้กับผู้ประกอบการอย่างชัดเจน เพราะทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น มีต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าบริการด้านแรงงานเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ โรงแรมเราลดคนไม่ได้ เราไม่สามารถนำเครื่องจักรมาใช้งานแทนกำลังคนได้ ซึ่งในเรื่องค่าแรงนั้นเรามีอนุกรรมการไตรภาคีเรื่องการพิจารณาค่าแรงในระดับจังหวัด ซึ่งก็มีการประชุมกันตลอดว่าขอนแก่น คนมีค่าแรงขั้นต่ำเท่าใด ซึ่งวันนี้อยู่ที่วันละ 357 บาท แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่รัฐบาลจึงประกาศนโยบาย 400 บาทออกมา ถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ จังหวัดหลัก จังหวัดท่องเที่ยวที่มีภาวะเศรษฐกิจที่คึกคัก หรือมเองท่องเที่ยวชั้นนำของไทย นโยบายนี้ไม่น่าที่จะมีปัญหา แต่ขอนแก่น หรือจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว จะมากำหนดว่าโรงแรมระดับ 2 ดาวขึ้นจะต้องปรับขึ้นค่าแรงนั้นไม่สมเหตุสมผล
ส่วนเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทไม่ควรเกิดขึ้น รัฐบาลควรให้เป็นไปตามกลไกที่มีอยู่ เพราะเรามีคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มาดูเรื่องค่าแรงและพิจารณาสกลั่นกรองด้วยเหตุและผลและรับทราบถึงสภาพพื้นที่ระดับจังหวัดของตนเอง ซึ่งเมื่อเรามีการพิจารณาไปแล้ว แต่กลับเป็นว่าสุดท้ายอำนาจตัดสินใจอยู่ที่ส่วนกลางเพียงอย่างเดียว จึงถึงเวลาที่หอการค้า และสมาคมท่องเที่ยวและโรงแรม และส่วนงานที่เกี่ยวข้องเรากำลังพูดคุยในประเด็นดังกล่านี่เพราะเป็นนโยบายรัฐที่ส่งผลกระทบไปทั่วทุ้งประเทศ ดังนั้นสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนของโรงแรม หรือสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคของไทย ซึ่งก็มีสมาชิกที่เป็นโรงแรมจำนวนมาก รวมทั้งสมาคมโรงแรมไทยและสมาคมโรงแรมต่างๆในระดับจังหวัด จะต้องมารวมพลังกัน เพราะตอนนี้ทุกคนงงว่า เกิดอะไรขึ้น ที่รัฐได้ประกาศให้ขึ้นค่าแรงเฉพาะโรงแรม จนทำให้เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดและผู้ประกอบการยังไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้.