เปิดตัวในไทยแล้ว ! Volvo EX30 Cross Country เอสยูวีไฟฟ้าสายลุยวิ่งไกล 490 กม. มอเตอร์คู่ 428 แรงม้า
เปิดตัวในไทยแล้ว ! Volvo EX30 Cross Country เอสยูวีไฟฟ้าสายลุยวิ่งไกล 490 กม. มอเตอร์คู่ 428 แรงม้า
Volvo Car Thailand เปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Volvo EX30 Cross Country ที่งาน Fast Auto Show Thailand 2025 ระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา, ฮอลล์ BH102-103 บูธ Volvo (B4) พร้อมให้จับจองแล้ววันนี้บนเว็บไซต์ Volvo Car website
EX30 Cross Country ของ Volvo มีความแตกต่างจาก EX30 รุ่นมาตรฐาน ด้วยสัดส่วนความสูงที่เพิ่มขึ้น อุปกรณ์ตกแต่งตัวถังทั้งภายนอกและภายในเน้นไปที่สไตล์ของรถอเนกประสงค์เอสยูวีที่เน้นการขับลุย (จริงๆแล้วเบบี้ไฟฟ้าของไวกิ้งคันนี้ ลุยลำบากครับ) EX30 Cross มีการปรับขยายซุ้มล้อพลาสติกสีดำ แผงกันกระแทกสีดำที่ด้านหลัง ด้านหน้ามีแผนที่ภูเขา Kebnekaise ของสวีเดน สัญลักษณ์ Cross Country บนเสา C
EX30 เป็นรถไฟฟ้ารุ่นเด็กเล็กของแบรนด์ไวกิ้งที่ใช้ขับในเมืองมีออกทางไกลบ้าง ส่วน EX30 Cross รุ่นใหม่ในสไตล์ยกสูง มุ่งไปที่การเดินทางท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมกลางแจ้ง Volvo EX30 Cross ปรับความสูงเดิมเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย พร้อมแผ่นกันกระแทกป้องกันใต้ท้องรถ ล้อ 19 นิ้ว ของเดิม ถูกเปลี่ยนเป็นขนาด 18 นิ้วที่หุ้มด้วยยางออฟโรด AT ของ michelin แพ็กเกจ 'Cross Country Experience' ทำให้ EX30 Cross Country ดูจริงจังและใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากกว่าเดิมโดยเฉพาะสายแคมป์ปิ้งที่ชอบกางเต้นท์นอนหรือใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวันหยุดไปกับการเดินทางไกลท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
แพ็กเกจ Cross Country Experience ได้แก่ กันโคลนด้านหน้าและด้านหลัง ชั้นวางสัมภาระสีดำ แรคหลังคากับยาง AT ซึ่งดูดีแต่น่าจะทำให้ระยะทางหดสั้นลงกว่าเดิม Volvo แจ้งว่า EX30 Cross Country ใช้แบตเตอรี่ ความจุ 69 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกลระยะทาง 427 กม. ลดลงจากรุ่นมาตรฐานที่เคลมระยะทางเอาไว้ 450 กม.แต่ EX30 Ultra Single Motor Extended Range รุ่นมาตรฐานที่ผมเคยขับทดสอบ วิ่งจริง ขับเร็ว อยู่ที่ประมาณ 340 กิโลเมตร ช่วงท้ายๆที่ไฟเหลือน้อย ยิ่งขับเร็วเท่าไหร่ ความจุแบตเตอรี่ที่แจ้งไว้ในจอมอนิเตอร์จะลดลงเร็วมาก
ด้านงานออกแบบดีไซน์ฝากระโปรงหน้า และท้ายที่ถูกตกแต่งด้วยสีดำเฉพาะตัว เสริมบุคลิกให้รถดูโฉบเฉี่ยว และมีมิติยิ่งขึ้น กระจังหน้ามาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ถูกแต่งเติมลวดลายกราฟิก ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของเทือกเขาเค็บเนอไคเซ (Kebnekaise) ในเขตอาร์กติกของสวีเดน ถ่ายทอดสุนทรียภาพของธรรมชาติสู่รายละเอียดที่เปี่ยมไปด้วยด้วยเอกลักษณ์ มาพร้อมแผ่นกันกระแทกหน้า–หลังสีเทา (Vapour Grey) แบบด้าน อีกทั้งยังตกแต่งแผงด้านหลังด้วยผิวสีดำด้าน
นอกจากนั้นยังออกแบบในส่วนของกันชนหน้า และซุ้มล้อด้วยเฉดสีดำด้านรูปแบบใหม่ มาพร้อมล้อดีไซน์ใหม่สำหรับรุ่น Cross Country ขนาด 19” นิ้ว แบบ 5 ก้าน สีเทากราไฟต์ด้านและดำด้าน ที่รัดด้วยยาง Summer tires ขนาดใหญ่ 720 มม. (235/50/19) ส่วนที่ด้านท้าย ตัวกันชนล่างด้านหลัง และบริเวณเสา C เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นด้วยโลโก้ Cross Country บ่งบอกความพิเศษของรุ่น มิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 4,233 มม. กว้าง 1,838 มม. สูง 1,567 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,650 มม. โดยจะมีความสุงเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นมาตรฐาน 19 มม. (12 มม.จากแชสซี และ 7 มม. จากล้อ) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์มากขึ้น
ภายในห้องโดยสารจะมากับเบาะใหม่โดยจะมีให้เลือก 2 โทนสี ได้แก่ สีเขียว Pine ที่มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ และสีน้ำเงินเข้ม Indigo โทนที่ให้ความรู้สึก สุขุม และมีเอกลักษณ์ แผงแดชบอร์ดไร้ปุ่มกดบนแผงหน้าปัด ช่องแอร์ทรงตั้ง ตรงกลางแผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอควบคุมแบบสัมผัสแนวตั้งขนาด 12.3 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป ชิปประมวลผล Snapdragon® Cockpit จาก Qualcomm รองรับการเชื่อต่อทั้ง Apple Car Play / Andriod Auto และระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth มาพร้อมระบบ Google Built-in ที่ติดตั้งภายในรถ ที่พร้อมใช้งานทันทีเพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นสั่งงานด้วยเสียง Hey Google
ขณะที่ชุดอุปกรณ์ยังคงเดิมทั้ง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ควบคุมอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone, หลังคากระจก Panoramic Sunroof, แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger, ชุดไฟ Ambient Light, ช่องชาร์จไฟ 12V, ระบบเสียง Harman Kardon มาพนร้อม ลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อม SubWoofer
และเพื่อให้มีความแตกต่างจากรุ่นมาตราฐานทางวอลโว่ ได้ปรับเปลี่ยนการจัดวางในส่วนของชุดลำโพงจากบริเวณแผงประตู มาติดตั้งรวมไว้บนซาวด์บาร์บริเวณคอนโซลหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ตรงประตูให้สามารถใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้มากขึ้น
พื้นที่เก็บของส่วนกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสาร ก็ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ที่วางแก้วสามารถเลื่อนพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางได้มากขึ้น มาพร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่ส่วนล่างระหว่างเบาะหน้าผู้ขับและผู้โดยสาร และช่องเก็บของหน้ารถ (Glove compartment) ถูกย้ายมาไว้ใต้คอนโซลกลาง เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
พละกำลังขับเคลื่อนจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD กำลังสูงสุด 315 kW / 428 แรงม้า โดยทาง Volvo ระบุว่าสามารถทำความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ใน 3.7 วินาที ซึ่งช้ากว่าระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกันในรุ่นที่ไม่ใช่ Cross Country ถึง 1 ใน 10 วินาที จับคุ่กับแบตเตอรี่ขนาด 69 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกลลสุด 490 กม. (NEDC) รองรัลการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ภายในเวลาเพียง 28 นาที
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะได้รับ เบรก ABS มาพร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และ BA, ระบบช่วยในการขึ้นที่ลาดชัน, ระบบช่วยในการลงที่ลาดชัน, กล้องมองภาพขณะถอยจอด, เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า – ด้านหลัง, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, Adaptive Cruise Control, ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ, ระบบเบรก และการควบคุมพวงมาลัยได้รับการออกแบบให้สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากด้านหน้า, รถที่สวนทาง, ผู้ใช้ถนน หรือจักรยาน รวมถึงระบบเซนเซอร์ตรวจจับความพร้อมของผู้ขับขี่ ที่สามารถแจ้งเตือนเมื่อระบบพบสัญญาณของความเหนื่อยล้า หรือภาวะขาดสมาธิ และกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา เป็นต้น
Charging การชาร์จไฟฟ้า
หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo
- กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kW
- กระแสตรง DC Fast Charge รองรับสูงสุด 175 kW
- ชาร์จ DC Fast Charge จาก 10-80% ภายใน 26.5 นาที (NMC)
Volvo EX30 Cross Country จะมีสีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Crystal White และ สีเทา Vapour Grey
ราคาจำหน่ายทาง วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดราคา Volvo EX30 Cross Country (นำเข้าจากจีน) ไว้ที่ 1,890,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
-รับประกันแบตเตอรี่ นาน 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
-Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 1 ปี