‘ก๊อต-จิรายุ’ เผยเหตุงานหด ยันไม่กระทบ เบื่อละครตบตีแย่งชิง ขอเน้นงานที่สร้างคุณค่า!
เรียกได้ว่าห่างหายจากหน้าจอไปพักใหญ่ๆ สำหรับ "ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล" พระเอกมากฝีมือ ซึ่งล่าสุดในงาน Pet Expo Championship 2025 เจ้าตัวได้เปิดใจถึงประเด็นที่ช่วงหลังมานี้งานแสดงในวงการบันเทิงดูจะน้อยลง โดยยอมรับว่าไม่ใช่แค่ตนเองแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทั่วทั้งวงการ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไป
ก๊อต จิรายุ เผยว่า “สำหรับผลงานตอนนี้มีจอมขมังเวทย์ ของช่องโมโน เรื่องเดียว ที่ใกล้ออนแอร์แล้ว ผมว่างานหายไปทั้งวงการนะ สำหรับผมไม่ได้กระทบ ผมไม่ได้ชอบอยู่แล้ว ผมชอบเล่นหนัง แต่ผมไม่ชอบแบบโซไซตี้ แล้วหลังๆ เริ่มโตอยากเล่นหนังที่มีคุณค่า ถ้าตบตีแย่งชิงกันก็เบื่อ แค่นั้น ตอนนี้รับหนัง ซีรีส์เป็นหลัก เพราะละครไม่มีคนดูแล้ว
ผมไม่เห็นคนเปิดทีวีกันแล้วเดี๋ยวนี้ ผมเห็นไปอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์กันหมดแล้วไง แม้แต่พวกเราที่สัมภาษณ์อยู่ มีใครเปิดทีวีบ้าง ผมว่าเมื่อก่อนรับเพราะเราอยากเล่น เราอยากทำงาน แต่พอเราเริ่มโต เราเริ่มตั้งคำถามว่าละครที่เรากำลังออนๆ กันอยู่เนี่ย จะมีค่าได้เพิ่มขึ้นด้วยคอนเทนต์แบบไหนบ้าง ผมเบื่ออะไรที่เก่าๆ ตบตีแย่งชิง แย่งxxกัน เบื่อแบบนั้น ผมเชื่อว่าเราดีขึ้นกว่านั้นได้ แต่มันยังไม่เข้ามา เข้ามาก็เล่น
ผมไม่รู้ว่าเมืองไทยทำงานกันยังไง แต่เมืองนอกซีรีส์เขาถ่ายไม่เหมือนละคร บ้านเราแอบถ่ายซีรีส์เหมือนละครเหมือนกัน ผมไม่ได้โทษเรื่องเศรษฐกิจนะ ส่วนเรื่องไม่มีงาน ผมว่ามันเปลี่ยนไปทั่วโลกนะ อุตสาหกรรมทั่วโลกที่มันพัฒนากว่าเรา ยังซบเซา เพราะแพลตฟอร์มอยู่ในจอเล็กๆ มือถือกันหมดแล้ว คนก็เปลี่ยนคอนเทนต์ เมื่อก่อนมีไม่กี่ช่อง มีไม่กี่แพลตฟอร์ม คนก็ดูแบบนั้น แต่วันนี้แม้แต่คนทำรายการเอง ก็ยังไม่ดูรายการตัวเองเลย
ผมไม่เคยมองว่าอาชีพดารามั่นคงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันเป็นศิลปะที่ผมชอบ แต่ผมใช้คำว่าถ้าจะอยู่ยาวๆ มีเรื่องอื่นเข้ามาด้วย เรื่องการเกี่ยวพันกับสังคมวงการเข้ามาด้วย ซึ่งผมมีแผนตลอด ไม่อยู่แค่นี้ครับ ส่วนข้อเสนอผมว่าข้อเสนอพวกนั้นจะนำเสนอในกลุ่มนักแสดงที่ไม่ใช่มืออาชีพ ถ้าเขามืออาชีพเขาจะรู้ว่างานเขาต้องทำอะไร ผมเป็นนักแสดงเขาส่งอะไรมาก็ต้องทำให้มันเกิดขึ้น ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้
ส่วนหุ่นลีน ทุกวันนี้กินข้าวสองมื้อ เพราะไม่มีบทอะไรเล่น เลยไม่ต้องแบกน้ำหนักไว้ เดี๋ยวค่อยถ่ายแล้วค่อยเพิ่ม ผมยังฟิตอยู่ แต่แค่วิธีการออกกำลังกายเปลี่ยนไปแค่นั้นเอง อยู่กับแมว ผมดูไม่แข็งแรงเหรอ ลงไปประมาณ 3-4 กิโลมั้ง”
แล้วสำหรับเรื่องรายได้ต้องใช้คำว่าถ้าเตรียมตัวมา 10 ปีแล้วมันไม่มีผลกระทบ มันมีผลกระทบก็ต่อเมื่อการบริหารจัดการไม่เคยทำมาก่อน แต่สำหรับผม บริหารมาเป็น 10 ปีแล้ว ผมรู้ว่าผมต้องเตรียมตัวยังไง เพราะอาชีพผมขึ้นๆ ลงๆ ผมฝากชีวิตไว้กับใครไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบความไม่แน่นอนตรงนั้นด้วยการบริหาร ซึ่งผมว่างานผมเหมือนงานศิลปะ อยากทำเมื่อไหร่ก็ทำ ทุกวันนี้ไม่ใช่ไม่มีงาน เรามีงานให้ทำตลอด แต่ไม่ทำ เพราะมันไร้ค่า พอเริ่มโตเริ่มอยากทำงานที่มีค่า ไม่ได้พูดว่าไม่มีวันเกษียณ เลิกก็เบื่อ เบื่อก็เลิก"
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก godfather1632