คำพูดสุดท้ายของ “คุณหมอเศรษฐี” ก่อนจากไปเพราะมะเร็ง เปลี่ยนชีวิตหลายคนตลอดกาล
คำพูดสุดท้ายของ “คุณหมอเศรษฐี” ก่อนเสียชีวิต เปลี่ยนมุมมองชีวิตของใครหลายคนไปตลอดกาล “น่าเศร้าที่บางครั้ง เราต้องเผชิญหน้าความตาย…ถึงจะเข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่จริงๆ”
เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้เป็นของดร.ริชาร์ด เตียว เคียง เซียง (Richard Teo Keng Siang) ศัลยแพทย์ตกแต่งชาวสิงคโปร์ ผู้ประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและทรัพย์สิน แต่สุดท้ายกลับถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายเมื่ออายุเพียง 40 ปี ก่อนจะเสียชีวิตในเดือนตุลาคม ปี 2012 แต่ก่อนจากโลกนี้ไป เขาได้ฝากบทเรียนล้ำค่าที่เปลี่ยนชีวิตของใครหลายคน… รวมถึงนิยามใหม่ของคำว่า "ความสุข"
หมอริชาร์ดเคยเป็นภาพแทนของ “ความสำเร็จในฝัน” เขาเรียนเก่ง แข่งขันสูง เปลี่ยนสายงานจากจักษุแพทย์มาทำศัลยกรรมความงามเพื่อรายได้ที่มากกว่า และก็ได้ผล เขากลายเป็นเศรษฐีภายในไม่กี่ปี มีรถซูเปอร์คาร์ถึง 4 คัน บ้านหรู ใช้ชีวิตในแวดวงคนดัง และทานอาหารจากร้านระดับมิชลิน “ผมคิดว่ารถเฟอร์รารี่ บ้านหลังโต หรือชื่อเสียงจะทำให้ผมมีความสุข…แต่มันกลับไม่ทำให้ผมหัวเราะได้แม้แต่น้อย”
จุดเปลี่ยนที่ไม่มีใครคาดคิด ในวันที่ 11 มีนาคม 2011 วันเดียวกับเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และเหลือชีวิตอยู่เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ข่าวร้ายนี้ทำให้เขาเสียศูนย์อย่างหนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโรคนี้ถึงเกิดขึ้นกับเขา เพราะในครอบครัวไม่เคยมีประวัติเป็นมะเร็งเลยแม้แต่คนเดียว
เมื่อเงินไม่สามารถซื้อ “ชีวิต” ได้ ท่ามกลางความเจ็บปวดจากโรคร้าย หมอริชาร์ดเริ่มเข้าใจว่า สิ่งที่มีค่าในชีวิต ไม่ใช่เงินทองหรือทรัพย์สิน…แต่คือ ‘คนที่อยู่เคียงข้าง’ เราในวันที่เราอ่อนแอที่สุด “สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาไม่ใช่เฟอร์รารี่ ไม่ใช่อาหารหรู…แต่เป็นรอยยิ้มของคนที่ผมรัก คนที่อยู่กับผมในวันที่ผมร้องไห้และไม่เหลืออะไรเลย”
- พญ.ป่วยมะเร็ง 2 ครั้ง เผยอาหารเช้าที่ "กินบ่อย" ก่อนถูกวินิจฉัย เตือนเป็นเมนูยอดนิยม!
- หมอชี้ ถ้าทั้ง 3 จุดบนร่างกาย "สีไม่คล้ำ" แสดงว่าไตยังแข็งแรง ไม่ใช่แค่ใต้ตา-ริมฝีปาก
คำสารภาพจากคุณหมอผู้เคยมอง“คนไข้เป็นรายได้” เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เมื่อก่อนผมไม่เคยเข้าใจผู้ป่วยเลย จนกระทั่ง…ผมกลายเป็นผู้ป่วยเอง” และ “ผมเคยเห็นคนไข้เป็นแค่แหล่งรายได้ พยายามกอบโกยให้ได้มากที่สุด แต่ตอนนี้ผมอยากเป็นหมอที่รักษาด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพื่อผลกำไร”
และเขาได้เคยพูดในงานสัมมนาสำหรับนักศึกษาแพทย์ว่า “อย่าให้ความสำเร็จและเงินทองทำให้คุณลืมว่าทำไมถึงเลือกเป็นหมอ คนไข้ไม่ใช่ตัวเลข หรือ ‘กำไร’…แต่คือมนุษย์ผู้ต้องการความเมตตา”
รวมทั้งคำเตือนสุดท้ายจากคนที่กำลังจะลาจากว่า “ตอนที่ผมรู้ว่าตัวเองจะตาย ผมละทิ้งทุกอย่างและเริ่มโฟกัสแค่สิ่งสำคัญจริงๆ ในชีวิต… น่าเศร้าที่เรามักจะเรียนรู้วิธีมีชีวิตอยู่ ก็ต่อเมื่อเราใกล้ความตาย”
10 กว่าปีผ่านไป เรื่องราวของหมอริชาร์ดยังคงถูกถ่ายทอดต่อ ทั้งในแวดวงแพทย์ และในหมู่คนทั่วไปที่กำลังตามหาความสุขท่ามกลางชีวิตที่เร่งรีบ ภรรยาของเขาเคยกล่าวไว้ว่า “ฉันภูมิใจในตัวเขามาก เขาคือครูที่ดีที่สุดที่พระเจ้ามอบให้กับฉัน”