กาฬสินธุ์เดินหน้าส่งเสริมชาวประมง สู่ความมั่นคงทางอาหาร
ผู้ตรวจราชการกรมประมง ลงพื้นที่มอบใบอนุญาตเลี้ยงปลากระชังในที่สาธารณสมบัติแผ่นดิน พื้นที่อ.สหัสขันธ์ - อ.หนองกุงศรี พร้อมลงสำรวจน่านน้ำเขื่อนลำปาวคุมเข้มฤดูปลาวางไข่ ชมเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำคำเขื่อนแก้ว วัดเกาะแก้ว อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
วันที่ 9 ก.ค.68ที่บ้านโนนอุดม ต.ภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ นายสุชาติ แสงจันทร์ ผู้ตรวจราชการกรมประมง พร้อมด้วยนายบุญธง เภาเจริญ ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ นางสายฝน เสียงหวาน หน.กลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง นายวีระ จิตรสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดกาฬสินธุ์ และนางสาวกฤษณา อิงเอนุ ประมงอำเภอสหัสขันธ์ รับผิดชอบพื้นที่อ.สหัสขันธ์ อ.หนองกุงศรี และ.คำม่วง ลงพื้นที่รับฟังและแลกเปลี่ยนความรู้ในการเลี้ยงปลานิลในกระชังพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว พร้อมมอบใบอนุญาตเลี้ยงปลาในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ให้เกษตรผู้เลี้ยงนิลในกระชัง บ้านโนนอุดม ต.ภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ และบ้านนาอวน ต.หนองสรวง อ.หนองกุงศรี มีเกษตรกรร่วมต้อนรับจำนวนมาก
จากนั้นลงสำรวจผู้ทำการประมงในเขื่อนลำปาวช่วงประกาศฤดูปลาวางไข่และพื้นที่เขตที่รักษาพันธุ์สัตว์น้ำคำเขื่อนแก้ว วัดเกาะแก้ว ต.สำราญใต้ อ.สามชัย พบปลาสร้อยขาวรวมฝูงจำนวนมากในช่วงนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำมากขึ้นในพื้นที่ เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ รอบเขื่อนลำปาวที่มีอยู่กว่า 8 แห่ง พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ประมง เข้มงวดในการตรวจพื้นที่รอบเขื่อนลำปาว และเฝ้าระวังการลักลอบเลี้ยงปลากระชัง หรือการเลี้ยงปลาในกระชัง โดยไม่ได้รับอนุญาต
นายสุชาติ แสงจันทร์ ผู้ตรวจราชการกรมประมง กล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้เน้นการพบเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง และกลุ่มประมงพื้นบ้าน เพื่อสร้างการรับรู้ร่วมกันในการจัดการพื้นที่ทำการเกษตร สำหรับการเลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นที่สารธารณสมบัติของแผ่นดิน และมีขอบเขตกำหนดตามเกณฑ์ที่ทางกรมประมงได้ทำข้อตกลงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมด 268,304 ตรม. มีจำนวนกระชังทั้งหมด 11,904 กระชัง เกษตรกรทั้งหมด 450 ราย ซึ่งจากนี้จะไม่มีการเพิ่มกระชังเลี้ยงปลา และไม่สามารถออกใบอนุญาตให้อีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของชาวประมง ทั้งประมงพื้นบ้าน และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ล้วนแต่เป็นผู้สร้างความมั่นคงทางอาหาร ที่สามารถทำเป็นอาชีพมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้
“ความมั่นคงทางอาหารจากสัตว์น้ำมีความสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุ ที่ต้องบริโภคอาหารประภทสัตว์น้ำ ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบว่าปริมาณสัตว์น้ำจากการเลี้ยงมีปริมาณเยอะกว่า สัตว์น้ำธรรมชาติ จากปัจจัยด้านสภาพอากาศ และน้ำ ซึ่งทำให้ทางกรมประมง ได้หาทางออกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต้องออกมาส่งเสริมให้เกษตรกรได้ทำการประมง สำหรับเกษตรกรที่สนใจ โดยเฉพาะโซนอีสานจะมีพื้นที่และโอกาสเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจได้ดี เป็นการสร้างเศรษฐกิจของชุมชนด้วย” นายสุชาติ กล่าว