รู้จัก กบข. กองทุนออมเกษียณ 1.26 ล้านข้าราชการ ที่ไม่ใช่แค่การออมธรรมดา | เงินทองของจริง

เมื่อพูดถึงการวางแผนการเงินสำหรับวัยเกษียณ สิ่งหนึ่งที่ข้าราชการไทยจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ คือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า กบข. กบข. ไม่ใช่เพียงแค่กองทุนออมเกษียณธรรมดา แต่เป็นระบบสวัสดิการที่รัฐออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อดูแลความมั่นคงทางการเงินของข้าราชการและครอบครัวในระยะยาว ด้วยโครงสร้างที่มีทั้งการสะสมเงินจากตัวข้าราชการเอง การสมทบจากรัฐบาล และยังมีเงินชดเชยพิเศษสำหรับผู้ที่เลือกรับบำนาญ ทำให้ กบข. กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างความมั่นคงทางการเงินที่สำคัญที่สุดสำหรับข้าราชการ ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกทั้งหมดกว่า 1.26 ล้านคน ครอบคลุมข้าราชการ 14 ประเภทจากทุกภาคส่วน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจระบบการทำงานของ กบข. อย่างละเอียด ตั้งแต่ใครบ้างที่ต้องเป็นสมาชิก จุดเด่นที่แตกต่างจากกองทุนอื่น แผนการลงทุนที่หลากหลาย ไปจนถึงวิธีการติดตามและตรวจสอบเงินสะสมของคุณ ใครต้องเป็นสมาชิก กบข.? สำหรับข้าราชการที่เข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2540 ไม่สามารถเลือกได้ว่าจะสมัคร กบข. หรือไม่ เพราะทุกคนต้องเป็นสมาชิก กบข. ตามที่พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 กำหนด ส่วนข้าราชการที่เข้ารับราชการก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 มีสิทธิเลือกเป็นสมาชิกตามความสมัครใจ ปัจจุบัน สมาชิก กบข. ประกอบด้วยข้าราชการ 14 ประเภท ได้แก่ 1. ข้าราชการพลเรือน 2. ข้าราชการฝ่ายตุลาการ 3. ข้าราชการฝ่ายอัยการ 4. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 5. ข้าราชการรัฐสภาสามัญ 6. ข้าราชการตำรวจ 7. ข้าราชการทหาร 8. ข้าราชการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ 9. ข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง 10. ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน 11. ข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 12. ข้าราชการในพระองค์ 13. ข้าราชการซึ่งโอนไปเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น 14. ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ กบข. ในระบบออมเกษียณของประเทศไทย กบข. เป็นหนึ่งในระบบออมเกษียณภาคบังคับในประเทศไทย นอกเหนือไปจากการออมในกองทุนชราภาพประกันสังคม และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฝั่งบริษัทเอกชน ในภาพรวมแล้ว ทั้ง 3 กองทุนนี้มีลักษณะคล้ายกัน คือ เป็นการออมภาคบังคับ ที่เมื่อฝั่งลูกจ้างออม จะมีนายจ้างหรือรัฐบาลช่วยสมทบเพิ่มให้ด้วย และเงินที่สะสมแต่ละปีสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย ปัจจุบัน จำนวนข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. ทั้งหมด 1,262,628 คน (อัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567) จุดเด่นของ กบข. ที่แตกต่างจากกองทุนอื่น รายละเอียดของ กบข. ที่แตกต่างไปจากกองทุนอื่น ได้แก่ - ฝั่งลูกจ้าง ต้องสะสมเงินอย่างน้อย 3 ของเงินเดือน และสามารถขอสะสมเงินเพิ่มได้อีกไม่เกิน 12 รวมเป็นเงินสะสมสูงสุดไม่เกิน 15 ของเงินเดือน - ฝั่งนายจ้าง/รัฐบาล จะช่วยสมทบเพิ่มให้ที่เพดาน 3 เท่านั้น ไม่สมทบเพิ่มให้ตามการสะสมเงินเพิ่มของลูกจ้าง - เงินชดเชย มีการสมทบให้อีก 2 เรียกว่าเงินชดเชย ซึ่งลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับเงินชดเชยนี้ ก็ต่อเมื่อตอนเกษียณเลือกรับเงินบำนาญเท่านั้น แผนการลงทุนของ กบข. การเลือกแผนการลงทุนของสมาชิกมี 2 ลักษณะ 1. แผนการลงทุนแบบเลือกแผนใดแผนหนึ่ง กบข. จะให้สมาชิกเลือกลงทุนได้ 12 แผน โดยจะมีทั้งแผนที่กระจายการลงทุนในสัดส่วนสินทรัพย์ที่ต่างกัน โดยจัดมาให้แล้ว และแผนที่เลือกลงทุนเฉพาะสินทรัพย์ 2. แผนการลงทุนแบบเลือกผสมสัดส่วนเอง สมาชิกต้องทำแบบประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้มาก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดสัดส่วนสินทรัพย์ที่ต้องการ ก่อนจะเลือกแผนการลงทุนนั้น ต้องรู้ว่าเป้าหมายการลงทุนคืออะไร มีอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังเท่าไหร่ ยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน และทำความรู้จักแผนการลงทุนให้ดี เพื่อจะได้เลือกแผนที่ใช่และตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนได้ดีที่สุด ช่องทางตรวจสอบข้อมูลเงินสะสม สมาชิกสามารถตรวจสอบจำนวนเงินสะสมและข้อมูลได้สะดวกผ่านหลายช่องทาง: ช่องทางออนไลน์ - My GPF Application เข้าดูได้ที่ My Account หรือเมนูบัญชีของฉัน - My GPF Website ที่เมนูบัญชีของฉัน - LINE กบข. gpfcommunity เมนู ดูยอดเงินปัจจุบัน - e-Statement ใบแจ้งยอดเงินประจำปี สมาชิกจะได้รับช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี สามารถเปิดไฟล์ผ่าน My GPF Application, LINE กบข. และ My GPF Website ช่องทาง Contact Center 1. โทร. 1179 กด 6 เพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่โดยตรง 2. IVR Service โทร. 1179 กด 4 สอบถามผ่านระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ พบกับ โคชหนุ่ม และ ทิน โชคกมลกิจ ได้ใน เงินทองของจริง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 - 8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero #เงินทองของจริง #TERODigital #CH7HDNews