“สภาฯ” หวิดล่ม! หลัง “ฝ่ายค้าน” ไม่ลงชื่อร่วมเป็นองค์ประชุม “วิโรจน์” ยกคำ “วิสุทธิ์” ขี้เกียจสันหลังยาว ทำ “พท.-รทสช.”ประท้วงวุ่น
วันที่ 27 ส.ค.2568 เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา ในกาประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในช่วงที่่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย หารือเป็นคนสุดท้าย เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวสุรินทร์ ที่ยังกังวลและหวาดผวา กับการสู้รบชายแดนไทยกัมพูชา แต่ถูกนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วง การทำหน้าที่ของประธานไม่เป็นกลาง ว่าเวลาสส.คนอื่นหารือก็ใช้เวลา 2 นาที แต่นายครูมานิตย์ ใช้เวลาหารือประมาณ 5 นาที และพูดวนเวียนซ้ำซากไปเรื่อยๆ ถ้าพูดกันตรงๆตอนนี้ถ้าดูจากหน้าจอ มีผู้มาประชุมจำนวน 240 คน ซึ่งยังไม่ครบองค์ประชุมที่ต้องใช้ 246
“ไม่ต้องถาม เพราะเห็นสส.หลายคนไปโพสต์ว่า พรรคฝ่ายค้านไม่มาลงชื่อ ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ขอบอกแบบไม่มีเม้ม ว่าผมมาแล้ว แต่ไม่ลงชื่อ เพราะถ้าลงชื่อจะไม่มีทางรู้เลยว่าสส.ฝ่ายรัฐบาล รับผิดชอบต่อหน้าที่ มีพฤติกรรมที่ขอใช้คำพูดของท่านวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล ว่าขี้เกียจสันหลังยาวหรือป่าว ขอให้รีบโทรกันมาตอนนี้อยู่สายเอเซีย สายใต้ ให้รีบมา”นายวิโรจน์ กล่าว
ทำให้นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ ประท้วงว่า สิ่งที่นายวิโรจน์พูดว่า สส.ฝั่งรัฐบาลสันหลังยาว ท่านต้องเข้าใจว่าตอนนี้หน้าฝน มีปัญหาเรื่องการเดินทาง พื้นที่ท่านฝนอาจจะไม่ตก แต่ฝั่งธนฯฝนตกเยอะ รถติดเยอะมาก เพระาฉะนั้นท่านอย่าเอาสิ่งนี้มาเป็นเรื่องการเมืองให้มากเกินไป ฝ่ายค้านไม่ลงชื่อไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเรารอ และขอให้ประธานวินิจฉัยให้ชัด ไม่เช่นนั้นพวกเราเสียชื่อหมด เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ประชาชนดูอยู่ เขารู้ว่าใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร ตอนนี้ประชาชนเริ่มเบื่อพวกเราสส.ทั้งสภา เพราะฉะนั้นอย่าทำอย่างนี้
ขณะที่นางนุชนารถ จารุวงศ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่าไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านต่างก็กินเงินเดือนภาษีของประชาชน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ตัดบทไม่ให้พูดโดยบอกว่าประเด็นนี้่น่าจะจบได้แล้ว เพระาหมดการหารือแล้ว
ทั้งนี้นายครูมานิตย์ ชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะดึงเวลา และอภิปรายซ้ำซาก เพราะเป็นเรื่องของชีวิตคนคนตาย คนหวาดผวา คิดว่าสส.น่าจะเข้าใจปัญหาเรื่องเหล่านี้ ตนจึงจำเป็นต้องขอเป็นคนสุดท้ายในการหารือ ถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก
ส่วนนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาลชี้แจงเรื่ององค์ประชุมว่า ขอขอบคุณฝ่ายค้านที่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ที่ผ่านกฎหมายสำคัญได้ และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากฝ่ายค้าน และกฎหมายการขนส่งทางราง ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่ประชาชนรออยู่ ซึ่งโครงการที่รัฐบาลตั้งไจทำ และถ้ามาดูในรายละเอียด กรุงเทพฯมีส.ส. พรรคเพื่อไทยแค่คนเดียว ที่เหลือมาจากพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด ดังนั้นหากสส.จากพรรคฝ่ายค้านไม่เป็นองค์ประชุมก็คงต้องตอบคำถามสังคมกันเอง
นายวันมูหะมัดนอร์ พยายามควบคุมกาประชุมให้เกิดความเรียบร้อยเพื่อประโยชน์ของประชาชน และแจงว่าขณนี้มีผู้เข้าประชุมคบองค์ประชุม ขอเปิดประชุมและดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระต่อไป แต่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ลุกขึ้นแย้งว่า คิดว่าการประชุมวันนี้ไม่ราบรื่นแน่นอน ที่มีวาระที่เกี่ยวข้องถ้าเกิดมีความจำเป็นเร่งด่วน และเป็นนโยบายเรือธงของท่านจริง คิดว่าถ้าท่านมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ถ้ามากันการพิจารณาก็ไปไกลแล้วไม่ต้องมาขอโทษกัน
ทำให้นนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ขอให้ยุติการอภิปรายเพราะมองว่าครบประเด็นแล้ว แต่นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชนลุกประท้วงประธานสภาฯ ข้อหาไม่เป็นกลางและพยายามพูดแข่ง จนนายวันมูหะมัดนนอร์ พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า “จะต่อว่า หรือให้ว่าไปตามระเบียบ หากต่อว่าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ว่าผิดระเบียบข้อบังคับ ว่ากันได้ ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือทุกมาตรา หากองค์ประชุมไม่ครบเดินต่อไปไม่ได้ ไม่ว่าครบหรือไม่ครบด้วยยเหตุใด หากครบเดินต่อไป ไม่ได้รอให้ครบ หากไม่ครบต้องเตรียมไม่เปิดประชุม เมื่อครบต้องเปิดประชุมตามข้อบังคับ
ทำให้นายเอกราช ยืนยันการประท้วงและขอให้ นายวัชระพลถอนคำพูดที่กล่าวหาสส.กทม.พรรคประชาชนไม่เป็นองค์ประชุม ซึ่งนายวัชระพลพยายามแก้เกี้ยวก่อนจะถอนคำพูด จากนั้นที่ประชุมได้ดำเนินการต่อซึ่งเป็นวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ… ต่อเนื่องในมาตรา35 ซึ่งเป็นการลงมติ ทั้งนี้พบว่ามีการใช้เวลารอองค์ประชุมเกือบ 10 นาที โดยผลมีผู้แสดงตน 248 คนซึ่งเกินองค์ประชุมที่ต้องใช้ 246 คนมาเพียง 2 เสียงเท่านั้น