‘Fantasy Premier League’ เกมกลคนมหัศจรรย์ ที่มากกว่าชวนกันจัดทีม
“ใครสนใจอยากร่วมจอยลีกของพวกเรา กดเข้ามา Join ที่ลิงค์นี้ได้เลยนะ”
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะได้รับคำเชิญชวนนี้จากใครสักคนหรือห้องแชทกลุ่มไหนสักกลุ่มที่เปิดรับสมัครพรรคพวกชักชวนกันมาร่วมประลองมันสมองกันในเกมฟุตบอลสุดฮิตอันดับหนึ่งอย่าง Fantasy Premier League (FPL) ที่กำลังจะเปิดม่านฤดูกาลใหม่ไปพร้อมกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ 2025-26 ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่คืนวันศุกร์นี้เป็นต้นไป
เพียงแต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าเกมนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมถึงกลายเป็นเกมยอดฮิตที่เล่นกันได้ทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนี้? บอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!
กำเนิดเกมมหัศจรรย์
สำหรับเกม Fantasy Premier League (FPL) หรือคนไทยส่วนมากเรียกกันแบบสั้นๆว่า “แฟนตาซี” นั้นเป็นเกมที่มีมายาวนานพอสมควร
เพราะจุดเริ่มต้นนั้นต้องย้อนกลับไปถึงปี 2002 เลยทีเดียว โดยเกิดจากความตั้งใจของ “พรีเมียร์ลีก” ในฐานะองค์กรจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ต้องการที่จะขยายฐานแฟนฟุตบอลไปทั่วโลก ทำให้พยายามคิดค้นเกมขึ้นมาเพื่อให้เล่นกันได้แบบฟรีๆบนเว็บไซต์ premierleague.com ในเวลานั้น
ท่ามกลางเกมหลากหลาย (ซึ่งเป็นเกมง่ายๆที่พัฒนาบนภาษา Java ที่นิยมในช่วงนั้น) เกมที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือเกมที่มีชื่อว่า “Premier League Fantasy Football” ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Integrated Sports Management (ISM) บริษัทเทคผู้ชำนาญทั้งด้านเทคโนโลยีการสร้างเกม การรวบรวมข้อมูล และที่สำคัญคือรู้จักกีฬาฟุตบอลเป็นอยางดี
โดยไอเดียของเกมแฟนตาซีฟุตบอลนี้ก็ต่อยอดจากเกมตระกูล “แฟนตาซีฟุตบอล” ที่ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุค 1970 และเริ่มเข้าสู่ประเทศอังกฤษในช่วงปลายยุค 1980 ต่อมาจนถึงช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีการแยกตัวมาตั้งลีกสูงสุดใหม่อย่างพรีเมียร์ลีกในปี 1992
ในยุคปี 1992 นั้นเกมแฟนตาซี เปิดให้ผู้เล่นจัดทีมกันได้ตามสะดวก แต่จะใช้วิธีในการส่งทีมเข้ามาทางไปรษณีย์ โดยที่ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องรวบรวมคะแนนกันเองผ่านข้อมูลสถิติการแข่งขันที่เรียกว่า Match Facts โดยจะมีเกณฑ์ในการให้คะแนน เช่น ยิงประตูได้ 6 คะแนน ผ่านบอลได้ 4 คะแนน และไม่เสียประตูได้ 4 คะแนน
จนถึงฤดูกาล 2002-03 ที่มีการเริ่มต้นเกม Premier League Fantasy Football วิธีการเล่นยังคล้ายเดิม ผู้เล่นมีงบประมาณ 100 ล้านปอนด์สำหรับการจัดทีม แบ่งเป็นผู้เล่นตัวจริง 11 คน ผู้เล่นสำรองไว้สับเปลี่ยนอีก 4 คน แต่เปลี่ยนจากการส่งทางไปรษณีย์เป็นการเข้าระบบผ่านเว็บไซต์ โดยไม่คิดค่าสมัครเล่น และเช็คคะแนนของตัวเองได้แบบอัพเดตทันที
โดยที่เวลานั้นไม่มีใครคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นจะกลายเป็น “ปรากฏการณ์” ในเวลาต่อมา
การเติบโตที่น่าตกใจ
ในช่วงแรกที่เริ่มเปิดให้มีการสมัครเล่นเกมแฟนตาซีกันนั้นมีจำนวนผู้เล่นไม่มากเพียงแค่หลักพันคนเท่านั้น แต่ล่าสุดในปัจจุบันมีผู้เล่นเกม FPL มากถึง 11.4 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นเกมที่มีจำนวนผู้เล่นเยอะมาก
โดยที่คนเล่นเกมนั้นไม่ได้เล่นกันแค่อย่างเดียว แต่มีการสร้างชุมชน (Community) ทั้งในกลุ่มเพื่อนในชีวิตจริง ไปจนถึงกลุ่มเพื่อนบนโลกออนไลน์ ที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทีมในแต่ละสัปดาห์ (ทุกสัปดาห์จะมีเส้นตายให้อนุญาตเปลี่ยนแปลงทีมได้ ตั้งแต่ระบบการเล่น สลับตัวจริงตัวสำรอง และที่สนุกที่สุดคือการซื้อและขายผู้เล่นแบบจำลอง)
ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมที่เล่นได้ฟรีแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีรางวัล
รางวัลนั้นมีทั้งแบบเป็นทางการซึ่งมาจากพรีเมียร์ลีกเองที่จะมอบให้แก่ผู้ชนะในแต่ละฤดูกาล ซึ่งหมายถึงการเป็นแชมป์ FPL เบอร์หนึ่งของโลกตัวจริง และมีการจัดการแข่งขันกันแบบไม่เป็นทางการของกลุ่มต่างๆมากมายด้วย แล้วแต่จะตกลงกันว่ารางวัลจะเป็นเงิน สิ่งของ หรืออะไร
ในส่วนของเกมการเล่นก็มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จากการเล่นบนเว็บไซต์อย่างเดียวก็พัฒนาสู่การเล่นบนแอพลิเคชัน เปลี่ยนทีมได้ทุกเวลาตราบที่ยังไม่เลยเส้นตาย นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนกฎกติกาให้สนุกขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้นอกจากแฟนขาประจำที่จะไม่มีวันพลาดในการจัดทีม (เพื่อไว้ขิงเพื่อนได้) ก็ยังนำไปสู่แฟนกลุ่มใหม่ๆที่ถูกดึงดูดเข้ามาร่วมเล่นเกม โดยที่อาจจะไม่ได้เป็นแฟนฟุตบอลที่ติดตามพรีเมียร์ลีกประจำมาก่อน และนั่นแหละคือหนึ่งในเป้าหมายของเกม!
ความแยบยลของเกมแสนกล ความสำเร็จและความนิยมที่เกิดขึ้นทำให้เกม FPL กลายเป็นหนึ่งใน “เครื่องมือการตลาด” ที่สำคัญของพรีเมียร์ลีกในระดับที่ต้องให้ความสำคัญสูงเลยทีเดียว
โดยสังเกตได้จากการให้พื้นที่ การโปรโมตแคมเปญ ไปจนถึงการผลิตคอนเทนต์เพื่อรองรับแฟนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ (ซึ่งไม่นับคอนเทนต์ในแบบ User-generated-content ที่แฟนๆผลิตเพื่อวิเคราะห์กันเองอีกมากมาย)
FPL นอกจากจะเป็นกุศโลบายในการสร้างความผูกพันกับแฟนๆที่จะต้องเกาะติดผลเกมการแข่งขันพรีเมียร์ลีกทุกสัปดาห์ (อยากรู้ว่าฟอร์มนักเตะที่เลือกไว้เป็นอย่างไร หรือควรจะเลือกใครมาแทนตัวที่บาดเจ็บ) ก็ยังเป็นประตูบานแรกของใครอีกหลายคนที่จะถูกดึงดูดให้เข้ามาอยู่ในโลกของฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นแฟนขาประจำในเวลาต่อมา เพียงแต่สิ่งที่พรีเมียร์ลีกได้มีมากกว่านั้น
บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรมีมูลค่าไปมากกว่า “ข้อมูล” ซึ่งเกม FPL นั้นเป็นวิธีในการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างดียิ่งโดยที่แฟนๆอาจจะไม่รู้ตัวหรือต่อให้รู้ตัวก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจมากนัก
สิ่งที่แฟนบอลทำในเกมจะถูกเก็บรวบรวมเอาไว้อย่างละเอียด พฤติกรรมการใช้งานต่างๆ โดยพรีเมียร์ลีกเก็บข้อมูลการตลาดผ่าน Adobe Experience Platform ซึ่งจะ “พื้นฐานสำคัญ” ที่จะถูกนำมาใช้ต่อในทางการตลาดต่อไป
“โดยพื้นฐานแล้วเกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการขยายการทำการตลาดให้กว้างขึ้นและเป็นเครื่องมือการโปรโมตที่สำคัญของพรีเมียร์ลีกในภาพรวม และสร้างสิ่งที่จะดึงดูดคนใหม่ๆให้เข้ามาสู่กีฬาและรายการนี้” อเล็กซานดรา วิลลิส ผู้อำนวยการ Digital Media and Audience Development ของพรีเมียร์ลีกกล่าวไว้ในงาน SportsPro Live เมื่อปี 2022
จากเกมแฟนตาซีสู่โลกความจริง
ลำพังด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากมายมหาศาลถึง 11.4 ล้านคนทำให้แบรนด์ต่างๆให้ความสนใจเกม FPL อยู่แล้ว เพราะคิดง่ายๆหมายถึงสายตานับ “สิบล้าน” คู่ที่จะมองเห็นหากแบรนด์เลือกที่จะโปรโมตอะไรสักอย่างผ่านเกมนี้ โดยที่เรายังไม่ได้นับคนที่ไม่ได้เล่นเกมแต่แอบสนใจติดตามข่าวสารของเกมอยู่
หนึ่งในแบรนด์ใหญ่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของพรีเมียร์ลีกคือ EA Sports ยักษ์ใหญ่ในวงการเกมที่จับมือร่วมกันทำแคมเปญและกิจกรรมโดยตลอด และยังมีอีกมากมายที่ให้ความสนใจ โดยย้อนกลับไปในปี 2023 พรีเมียร์ลีกเคยจัดอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของเกม FPL ขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ในงานที่มีชื่อว่า "Fantasy Premier League Draft”
เป้าหมายของการจัดงานครั้งนั้นเพื่อดึงดูดแฟนชาวอเมริกันที่เป็นตลาดใหญ่และใหม่ ในงานก็บอกเล่าเรื่องราว วิธีการ รวมถึงรูปแบบการแข่งขันใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าก็มีแบรนด์มากมายมาร่วมกันเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย โดยที่ทั้งหมดมีเป้าหมายในการมอบ “ประสบการณ์” ที่พิเศษให้แก่คนที่มาร่วมงาน
ผลตอบแทนที่ได้จากการจัดงานครั้งนั้นคือตัวเลขจำนวนแฟนฟุตบอลที่เข้าไปชมเกมของสโมสรจากพรีเมียร์ลีกในสนามจริงที่มาจัดมินิทัวร์นาเมนต์โปรโมตในชื่อ “พรีเมียร์ลีก ซัมเมอร์ ซีรีส์” (Premier League Summer Series”
ความประทับใจที่เกิดขึ้น รวมถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับแบรนด์
Goal! ใช้ AI ประตูสู่ยุคต่อไปของ FPL
สำหรับเกม FPL ในฤดูกาลใหม่ 2025-26 มีการเปลี่ยนแปลงกฎให้เกมสนุกสนานขึ้น เช่น เรื่องของระบบการคิดคะแนนที่มีรายละเอียดมากขึ้น ระบบการให้คะแนนโบนัส การใช้การ์ดตัวพิเศษแบบใหม่ๆ
แต่ในทางเทคนิคแล้ว FPL มีการนำปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอกับ Machine learning โดยจับมือกับ Microsoft เข้ามาใช้ด้วยในฤดูกาลใหม่นี้ โดยจะใช้ในเรื่องของการเก็บและศึกษาข้อมูลเรื่องต่างๆ ไปจนถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวผู้เล่น เพื่อให้เกมสนุกขึ้น
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะมีการนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เข้ามาใช้ในอนาคตด้วย โดยที่เราจะสามารถเกาะติดทีมของเราบนสนามจำลองได้เลยว่าตอนนี้ตัวผู้เล่นที่เราเลือกนั้นทำผลงานเป็นอย่างไร เข้าท่าไหม แน่นอนว่านี่จะเป็นโอกาสสำหรับยักษ์ใหญ่วงการเทคที่อาจจะสนใจการนำเอไอของตัวเองมาใช้กับเกม FPL อีก
ยังมีแนวคิดในเรื่องของการมีส่วนร่วม (Inclusivity) ซึ่งจะเพิ่มจากแค่ทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว เป็นการเลือกผู้เล่นจากทีมลีกหญิง Women’s Super League (WSL) ซึ่งเป็นลีกฟุตบอลหญิงสูงสุดของอังกฤษเข้ามาด้วย
และอาจจะมีการเพิ่มโหมดสำหรับผู้เล่นเยาวชนให้เล่นกันได้ง่ายขึ้น ลดความซับซ้อนลง ไปจนถึงการ Localization ให้เข้ากับภูมิภาคและท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงการหารายได้เพิ่มจากวิธีการต่างๆ เช่น การสร้าง FPL Pro สำหรับสมาชิกที่มีความชำนาญระดับสูงไว้อ่านบทวิเคราะห์ต่างๆในเชิงลึก หรือการขายสิ่งพิเศษในเกมแบบ In-app purchase ก็อาจจะเกิดขึ้นได้
โดยที่อย่าลืมว่ายิ่งมีคนเล่นเยอะมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งดีขึ้นและเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นเท่านั้นสำหรับแบรนด์และสปอนเซอร์ต่างๆด้วย
ดังนั้นเกม FPL ที่ทุกคนชวนกันมา “จัดทีม” เล่นกันสนุกๆนั้น จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นเป็นแค่เกมสนุกๆธรรมดาๆ แต่เป็นเกมกลคนมหัศจรรย์ที่น่าปรบมือเป็นอย่างยิ่ง
ว่าแต่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คุณกดจอยลีกและจัดทีมเสร็จแล้วหรือยัง?
อ้างอิง
- premierleague.com/en/news/4373187/whats-new-for-202526-changes-in-fantasy-premier-league
- bbc.com/sport/football/articles/c5y0g7dq8zeo
- transfer-site.co.uk/premier-league/the-fantasy-football-phenomenon-impact-on-players-and-clubs
- premierleague.com/en/news/4338015/premier-league-announces-partnership-with-microsoft