ธุรกิจไม่ติด 'ยุบสภา' ตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ แนะดึง 'มือดีเศรษฐกิจ' ร่วมบริหาร แก้ปากท้อง
ธุรกิจไม่ติดยุบสภา ตั้งรัฐบาลขั้วใหม่แนะดึงมือดีเศรษฐกิจร่วมบริหาร ฟื้นเชื่อมั่น แก้ปัญหาปากท้อง
เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า อยากให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็วและยากให้เป็นรัฐบาลแห่งความเชื่อมั่น ดึงคนนอก เป็นมืออาชีพ เป็นนักธุรกิจ นักกฎหมายเข้าร่วมด้วย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีอยากให้เลือกผู้ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญหลายวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาชายแดน สงครามการค้า ซึ่งรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศก็ต้องมุ่งเรื่องเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง และต้องเร่งแก้ 2 เรื่องนี้ ถ้าหากไม่เร่งแก้ไขจะทำให้ความเชื่อมั่นไม่เกิด จะยิ่งฉุดให้เศรษฐกิจทรุดหนักมากยิ่งขึ้น
“ถ้าปมขัดแย้งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเขตแดน นักลงทุนจะไม่มีความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ ดังนั้นต้องเปลี่ยนจากสนามรบ เป็นสนามการค้า ส่วนการรับมือผลกระทบภาษีทรัมป์ต้องเร่งหาตลาดใหม่ เพื่อช่วยผู้ส่งออก ถ้าธุรกิจส่งออกดี ผลที่ตามมาคือ จะทำให้คนมีรายได้ และหนี้ครัวเรือนจะได้รับการแก้ไข” นายสุนทรกล่าว
นายสุนทร กล่าวว่า ทั้งนี้ในความเห็นส่วนตัว เห็นด้วยที่จะมีการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ เพราะไม่ว่าเร็วหรือช้าก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว ถือเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลขั้วใหม่เข้ามาบริหารดูบ้าง แม้จะเป็นการจับมือกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ก็ถือว่ายังพอรับได้ แต่ภายใต้เงื่อนไขต้องไม่มีการแตะรัฐธรรมนูญ มาตรา 112
“เนื่องจากต้องยอมรับว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นยังไม่กลับมา ดังนั้นต้องลองใหขั้วใหม่เข้ามาดูบ้าง อย่างไรก็ตามมองว่าแม้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้า คงไม่มีการรื้อนโยบายเก่าทั้งหมด นโยบายไหนดีน่าจะมีการสานต่อ เช่น โครงการคุณสู้เราช่วย ,เก็บภาษีเงินได้ติดลบ หรือNegative Income Tax (NIT)”
นายสุนทร กล่าวว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถ้ามีงบประมาณแน่นอน ไม่ทำให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ขาดทุนและเป็นภาระการคลังมากก็เห็นด้วยที่จะทำ รวมถึงพลักดันการแก้กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ให้เช่าได้มากกว่า 30 ปี หากเป็นอสังหาฯ 50+20 ปี พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม 50+40 ปี ระบบสาธารณูปโภคใหญ่ๆ ไม่เกิน 99 ปี ยกเว้นพื้นที่เกษตรกรรมที่ไม่ให้เช่า ส่วนบ้านเพื่อคนไทยอยากให้ยางทำเลมีศักยภาพ มีการทบทวนถึงการนำที่ดินของรัฐมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ โดยเปิดให้เอกชนร่วม PPP ทำโครงการมิกซ์ยูสและกำหนดว่าต้องมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยรวมอยู่ด้วย เช่นเดียวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ต้องทบทวนใหม่ เพราะมีเสียงสะท้อนของประชาชนว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย จึงไม่ควรฝืนทำต่อ
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่ฝ่ายการเมืองกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งนั้น ในมุมมองด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังเผชิญทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อยากให้มีมืออาชีพและรู้เรื่องเศรษฐกิจเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ขั้วและด้วยระยะเวลาในการบริหารประเทศที่สั้นประมาณ 4-5 เดือนเท่านั้น ดังนั้นจึงมองว่าหากกลุ่มพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นขั้วเดิมเป็นรัฐบาลน่าจะเป็นทีมรัฐบาลชุดเดิมเพื่อให้การบริหารงานมีความต่อเนื่อง แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนเป็นขั้วใหม่เป็นกลุ่มพรรคภูมิใจไทย อยากให้ดึงมืออาชีพด้านเศรษฐกิจเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย
“ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนประเทศ แม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น คือ 1.เร่งงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านบาทและงบประมาณปี 2569 2.แก้ปัญหาความเดือดร้อนบริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชาและผลกระทบจากภาษีนำเข้าสินค้าที่สหรัฐเรียกเก็บจากไทย 19% และ 3.แก้หนี้สินครัวเรือนทั้งระบบ โดยสานต่อจากรัฐบาลเพื่อไทยที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการมาดูแลหนี้สินแต่ละด้านแล้ว ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าไม่ทัน” นายอิสระกล่าว
ด้าน นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะนักธุรกิจสิ่งที่อยากเห็นมากที่สุด คือ มีรัฐบาลใหม่โดยเร็วและเป็นรัฐบาลที่มีความมั่นคง เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันต้องไดร์ฟโดยรัฐบาล ซึ่งคนทำธุรกิจสิ่งที่อยากเห็นคือ ความมั่นคงของนโยบายที่ได้รับการสานต่ออย่างเนื่อง รวมถึงความมีเสถียรภาพทางการเมืองและรัฐบาล ซึ่งเมื่อการเมืองนิ่ง จะทำให้เศรษฐกิจดีและทำให้สิ่งต่างๆดีขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจเข้ามาร่วมคณะรัฐมนตรีด้วย
“เพราะตอนนี้มีปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ไข คือ เศรษฐกิจปากท้องโดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้าที่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ ต้องมีมาตรการออกมากระตุ้นและแก้ไขภาระหนี้สิน เพื่อให้คนมีรายได้เพิ่ม ในขณะเดียวกันต้องเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา”นายอุทัยกล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ธุรกิจไม่ติด ‘ยุบสภา’ ตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ แนะดึง ‘มือดีเศรษฐกิจ’ ร่วมบริหาร แก้ปากท้อง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th