เปิดขวด ‘ซอส’ เครื่องปรุงรสไทย มองโอกาสต่อยอด ‘วัฒนธรรมกินได้’
หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหาร “ซอสปรุงรสไทย” นอกจากมีมูลค่าการส่งออกสูง เป็นสินค้าที่ต้องการในตลาดโลกแล้ว เครื่องปรุงรสไทยยังเป็นตัวอย่างการหยิบนำเรื่องเล่าจากครัวไทย เบื้องหลังความกลมกล่อมจานเด็ดหลากเมนู นำมาต่อยอดสร้างสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
ชวนสำรวจ “พลังซอสไทย” ซอสปรุงรสท้องถิ่นที่บอกเล่าเรื่องราวหลายมิติที่ซ่อนอยู่ในขวดซอส ผ่านนิทรรศการ “Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ” โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เปิดให้ชมฟรีต่อเนื่องถึงเดือนพฤศจิกายน ณ บริเวณโถงทางเข้า TCDC กรุงเทพฯ โดย มนต์นภา พานิชเกรียงไกร นักจัดการความรู้อาวุโส สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ภัณฑารักษ์นิทรรศการฯ พาสำรวจซอส เครื่องปรุงรส”วัฒนธรรมอาหารที่กินได้” เล่าถึงนิทรรศการฯที่หยิบนำซอสปรุงรสท้องถิ่นมาต่อยอด ทั้งชวนมองโอกาสเครื่องปรุงไทยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์
“ซอส เครื่องปรุงรส ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่น่าสนใจ สามารถนำไปต่อยอดได้อีกหลากหลายมิติมาก นอกจากมีความโดดเด่นในตัวเอง ซอสเครื่องปรุงยังเป็นเบื้องหลังความอร่อยให้กับเมนูอาหารจานโปรดอีกมากมาย และไม่เพียงเติมเต็มอาหารให้สมบูรณ์ ยังเป็นจุดเชื่อมโยงวัตถุดิบ เชื่อมความทรงจำ ทั้งต่อขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการท่องเที่ยว ด้านอาหาร ด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมวัสดุอีกเช่นกัน
เรียกได้ว่าซอส เครื่องปรุงรสสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างครบรส ครั้งนี้จึงหยิบนำมาเสนอ จัดแสดงเป็น มินินิทรรศการเพื่อสะดวกต่อการนำไปจัดแสดงสัญจร ชวนให้ร่วมค้นเรื่องราวที่มีพลังที่ซ่อนอยู่ในขวดซอส เครื่องปรุงรสที่คุ้นเคย”
นักจัดการความรู้อาวุโส ภัณฑารักษ์นิทรรศการ Thai Local Sauce อร่อยเหยาะ คุณมนต์นภาอธิบายอีกว่า เครื่องปรุงรส หรือซอส จากที่กล่าวเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สำคัญ โดยในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยส่งออกซอสปรุงรสในหมวด HS CODE2103 เช่น ซอสถั่วเหลือง ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำปลา ฯลฯ ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกที่สูง
ประกอบกับนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกที่ช่วยสนับสนุนให้ซอสไทยเป็นที่ต้องการในตลาดโลกทั้งขยายผลไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆทั้งในด้านอาหาร การท่องเที่ยว และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ โดยทั้งหมดเป็นฟันเฟืองสร้างแรงกระเพื่อมให้แก่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต
“เครื่องปรุงรส สิ่งที่ใกล้ตัวที่นำมาแสดงครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “วัฒนธรรมที่กินได้” โดยจะมาชวนเรียนรู้ เข้าถึงในทุกสัมผัส ทั้งการดู การฟัง และการรับรส ศึกษาข้อมูล นำเครื่องปรุงรสท้องถิ่นมาตีความในมิติต่างๆ เสนอเอกลักษณ์และวัฒนธรรมพื้นถิ่น การต่อยอดภูมิปัญญาสู่สินค้าใหม่
ทั้งชวนมองโอกาสสร้างสรรค์ “ซอส” เครื่องปรุงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ต่อยอดซอสพื้นบ้านเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออก หรือสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ฯลฯ”
คุณมนต์นภา บอกเล่าเพิ่มอีกว่า ซอส เครื่องปรุงรส นอกจากน้ำปลา ซีอิ๊วที่คุ้นเคย ครั้งนี้เราศึกษาค้นข้อมูลนิยามแท้จริงของซอสปรุงรสว่าคืออะไร รวมถึงทำฐานข้อมูลซอสท้องถิ่น อยู่ที่ใดบ้าง มีเอกลักษณ์อย่างไร โดยจัดทำเป็นแผนที่ประเทศไทย สามารถสแกนคิวอาร์โคด เพื่อดูข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมไว้ อาทิ สินค้า ที่ตั้ง รวมถึงคำอธิบายเบื้องต้นบอกเล่าลักษณะซอส ฯลฯ โดยครั้งนี้มีซอส เครื่องปรุงทั่วไทยที่รวมไว้กว่า 60 รายการ แต่อย่างไรแล้วยังมีอีกมาก ที่พร้อมบอกเล่าความโดดเด่นซอสเครื่องปรุงรสไทย
“ซอส เครื่องปรุงที่นำมาเสนอ เผยให้เห็นถึงความเป็นวัตถุดิบที่มีพลัง โดยนิทรรศการฯเปิดพื้นพื้นที่ชวนย้อนถึงรสชาติจากเมนูอาหารที่คุ้นเคย ชวนค้นความทรงจำ รสชาติที่คิดถึง ที่ซ่อนความอร่อยอยู่ในซอสปรุงรส ฯลฯ จากนั้นชวนสำรวจซอสปรุงรสพื้นบ้านกว่า 60 รายการจากทุกภูมิภาคของไทย นับแต่เต้าหู้ยี้ห่อใบไผ่ จากภาคเหนือ บูดูจากภาคใต้ ปลาร้า ภาคอีสาน ไปจนถึงซีอิ๊วเก่าแก่ในภาคกลาง โดยแต่ละขวดเครื่องปรุงรส ไม่เพียงสะท้อนแค่รสชาติ แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวซอสผ่านการออกแบบแบรนด์และโลโก้”
คุณมนต์นภา นักจัดการความรู้อาวุโสภัณฑารักษ์นิทรรศการ ฯ อธิบายอีกว่า ในด้านการออกแบบ มีความหลากหลายที่น่าศึกษา ชวนให้ถอดรหัส โดยหลักๆที่เห็นได้ชัด อย่างเรื่อง ชื่อ เน้นความโชคดี ความเป็นมงคล ความแข็งแรง การเป็นผู้นำ บางชื่อสะท้อนบุคคลสำคัญในครอบครัว เพื่อสร้างความไว้ใจ บางยี่ห้อใช้สัตว์หรือสิ่งมงคลในท้องถิ่นเป็นสัญลักษณ์ ตั้งชื่อมงคลจากสิ่งที่อยู่รอบตัว ที่เน้นความยิ่งใหญ่
บางแบรนด์หยิบภูมิประเทศหรือวัฒนธรรมท้องถิ่นมาใส่ในชื่อเพื่อให้จำง่าย ติดหู ฯลฯ จากสิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่า“ซอส” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องปรุง แต่ยังเป็นงานออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ที่ส่งต่อภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ผ่านทุกขวดซอสที่ผลิตออกมา เป็นวัตถุดิบทางความคิดที่นำไปสู่การสร้างสรรค์ในมุมอื่นๆ
“ไม่เพียงฉลาก รูปทรงรูปลักษณ์ขวดก็น่าสนใจ สร้างเอกลักษณ์ สร้างการจดจำ หรือแม้แต่สีที่นำมาใช้ก็มีรายละเอียดแฝงอยู่ นอกจากนี้ยังพาสำรวจซอสประจำถิ่นทั่วไทย การต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) การเดินทางไปสัมผัสรสชาติถึงถิ่น ทั้งมีรายละเอียดข้อมูลเครื่องปรุงรส เมนูของกินประจำฤดูกาล ฯลฯ เพิ่มการเข้าถึงเครื่องปรุงรส”
อีกทั้งยังแสดงถึง การนำวัตถุดิบไปต่อยอด ดังเช่นไอศกรีม4 รสพิเศษจากซอสไทย แสดงให้เห็นการนำวัตถุดิบใหม่ๆนำมาสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว เป็นแนวทางให้เห็นถึงการพัฒนาสูตร แนะนำให้กับผู้ที่อาจไม่เคยรู้จักกับวัตถุดิบ รู้จักซอสเครื่องปรุงได้ชิม ได้ทดลอง ได้ซับพอร์ตสินค้าท้องถิ่น และนอกจากส่งผลต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมอาหาร ยังเกิดการพัฒนาย่าน พัฒนา เมืองเป็นย่านที่อยู่อาศัย และน่าท่องเที่ยว ฯลฯ
นอกจากนี้ ซอส เครื่องปรุงที่จัดแสดงยังทำให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ ภูมิปัญญาอาหาร การถนอมรักษาวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น อย่างเช่น ปลา ที่นำมาทำน้ำปลา แต่ละพื้นที่ใช้ปลาที่ไม่เหมือนกัน ใช้ปลากะตัก ปลาสร้อย ฯลฯ มีภูมิปัญญา วิธีการทำ หรือมีส่วนผสมที่ต่างกันใช้เกลือ ใช้ดอกเกลือ ฯลฯ ที่ทำให้ได้น้ำปลา เครื่องปรุงรส ที่มีรสชาติกล่อมแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ เสริมรสชาติ สร้างเอกลักษณ์ให้อาหาร ทั้งมีองค์ความรู้ แฝงอยู่ฯลฯ โดยทั้งหมดสืบค้นได้จากซอส เครื่องปรุงรส
ซอสท้องถิ่นจากที่กล่าวยังมีอีกมาก โดยภัณฑารักษ์นิทรรศการฯ คุณมนต์นภา เล่าทิ้งท้ายอีกว่า จากการศึกษาสำรวจข้อมูลซอสเครื่องปรุง บางอย่างก็ไม่มีจำหน่ายทั่วไป ต้องซื้อในพื้นที่ หรือเป็นซอสสูตรเฉพาะ ซอสในเชิงคราฟท์ที่เชฟหมักขึ้นเพื่อชูความเป็นเอกลักษณ์ ชูวัตถุดิบโดยเฉพาะ ฯลฯซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งบอกเล่าความหลากหลายซอสจากครัวไทย
เครื่องปรุงที่อยู่เบื้องหลังความกลมกล่อม บอกเล่าเรื่องราวแห่งรสชาติและโอกาสผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย
พงษ์พรรณ บุญเลิศ