รวบ 3 บัญชีม้ารับโอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้าน
รวบ 3 บัญชีม้ารับโอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้าน
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 3 ราย
1. นายคิด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 ในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุมได้บริเวณหอพัก ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
2. นายนนท์ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ในฐานความผิด "เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และเป็นผู้สนับสนุนนการกระทำความผิดฐาน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งอมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีความผิดอาญาอื่นใด" จับได้บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
3. น.ส.รินทร์ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 3 มกราคม 2568 ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับได้ที่หน้าบ้าน ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการการระดมกวาดล้างอาวุธปืน เครื่องกระสุน และ จับบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบุคคลตามหมายจับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. นายคิด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด พร้อมกับหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย โดยอ้างว่าเพื่อทำการตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ผู้เสียหายรู้ตัวจึงได้มาร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยถูกเพื่อนชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อตอนอายุ 16 ปี ได้รับค่าจ้าง 1,200 บาท
2. นายนนท์ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการโฆษณาหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการในราคาถูกทางช่องทางออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย กลับไม่ได้รับสินค้าหรือบริการ ตามที่คนร้ายแอบอ้าง จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าได้มีการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารจากเพื่อนที่รู้จักกัน ในราคา 5,000 บาท แต่หลังจากเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้ว่าจ้างแล้ว กลับไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมพบมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกจับดำเนินคดี ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 และเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
3. น.ส.รินทร์ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ถูกชักชวนจากคนใน Facebook ให้เปิดบัญชีธนาคารผ่านทางออนไลน์ โดยได้รับค่าจ้าง 300 บาท โดยหลังจากจับกุม ได้ดำเนินการนำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่ง สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป