โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"พิชัย" รับข้อเสนอหอการค้าฯ ฟื้นฟูศก.7 จังหวัด ชายแดน 4 มาตรการ

The Better

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER
“พิชัย” เผย รัฐบาลรับข้อเสนอหอการค้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจ7 จังหวัด ชายแดน 4 มาตรการ ขอรัฐชะลอขึ้นค่าแรง 400 บาท พร้อมลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม เตรียมถก ธ.พาณิชย์ คุยมาตรการช่วยเหลือ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและคณะ ที่เดินทางเข้ายื่นหนังสือข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา กรณีผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลได้รับข้อเสนอมาตรการเยียวยาผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนของภาคเอกชน เพื่อรวบรวมออกเป็นมาตรการมารองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น เบื้องต้นในปัญหาด้านแรงงานและการจ้างงาน รวมถึงการฟื้นฟูธุรกิจ การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เช่น การดึงงานสัมมนาไปจัดในพื้นที่และมีสิทธิพิเศษทางด้านภาษี

นายพิชัย กล่าวว่า ในส่วนข้อเสนอด้านแรงงานและการจ้างงานนั้น จะนัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะบริหารจัดการแรงงานอย่างไร ทั้งแรงงานที่อยู่ในประเทศ แรงงานที่มีใบอนุญาตอยู่แล้วจะให้ทำงานต่อได้หรือไม่ หรือแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตก็ต้องดึงมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง รวมถึงการจัดหาแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เช่น แรงงานบังกลาเทศ เป็นต้น ส่วนมาตรการช่วยเหลือทางด้านภาษี ที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติมาตรการภาษีไปแล้วหลายรายการ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษี สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับการยืดระยะเวลา การชะลอการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้เร่งออกมาช่วยเหลือ ส่วนมาตรการทางการเงิน ขณะนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีมาตรการออกมาช่วยเหลือหลายอย่าง เหลือเพียงธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลจะประสานธนาคารต่าง ๆ มาหารือเพื่อจัดทำมาตรการช่วยเหลือออกมาอีกครั้ง

นายพิชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้รับทราบผลกระทบจากภาคธุรกิจ ซึ่งทางหอการค้าได้รวบรวมจากทุกคนที่ได้รับผลกระทบมายื่นให้รัฐบาลพิจารณา จากนี้จะดูเป็นเรื่อง ๆ เป็นกลุ่มธุรกิจ เพื่อพิจารณาว่าใครได้รับผลกระทบเรื่องอะไร และคงต้องดูทางฝ่ายความมั่นคงประเมินด้วยว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไร จะได้เร่งขั้นตอนการฟื้นฟู

ด้านนายพจน์ เปิดเผยว่า ขอยื่นข้อเสนอที่รวบรวมจากเอกชนเพื่อเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด ใน 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย มาตรการทางด้านภาษีค่าธรรมเนียม ดังนี้ 1.ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดให้นิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนที่จัดประชุมสัมมนา หรือศึกษาดูงานและเข้าพักในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่กำหนดสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง 2.ขอให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณามาตรการลดภาษีในส่วนของภาษีท้องถิ่น ได้แก่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย รวมถึงภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยให้ลดอัตราภาษีลง 90% จากอัตราที่กำหนดไว้เดิม 3.ขอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาใช้มาตรการภาษีเฉพาะพื้นที่ 7 จังหวัด ดังนี้ ยกเว้นเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม สำหรับผู้เสียภาษีที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ต่ำ/เกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ไม่สงบ, ขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษี 3-6 เดือน ครอบคลุมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในพื้นที่, ลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจาก 3% เหลือ 1% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดน

นายพจน์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการการเงินเพื่อสภาพคล่องผู้ประกอบการ ได้แก่ 1.ขอให้ธนาคารพาณิชย์ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ในลักษณะที่สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐที่ได้มีมาตรการช่วยเหลือออกมาแล้ว 2.ขอให้ธนาคารภาครัฐออกมาตรการ “เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำฉุกเฉิน” ในวงเงิน ไม่เกิน 50,000 บาทต่อครัวเรือน และดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อปี โดยยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยใน 12 เดือนแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนของครัวเรือนในพื้นที่ 3. พิจารณาจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูชายแดน วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายพจน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1.ขอให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พิจารณามาตรการสนับสนุนหรืองบประมาณแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน สำหรับการจัดกิจกรรมสัมมนาและศึกษาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยกำหนดพื้นที่ที่มีความปลอดภัยเป็นลำดับแรก ๆ 2.ขอให้ภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่มีแผนจัดประชุม สัมมนา หรือศึกษาดูงาน พิจารณาเลือกใช้สถานที่ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า สำหรับมาตรการด้านแรงงานและการจ้างงาน ได้แก่ 1.ขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท สำหรับสถานประกอบการในประเภทธุรกิจโรงแรมและสถานบริการ และขอให้ยังคงใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่เคยกำหนดไว้เดิม 2.ปรับลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนลงให้เหลือ 0.5% เป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งขยายกำหนดเวลาการนำส่งเงินสมทบของนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา39 (อ้างอิงกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย) 3.สนับสนุนนำเข้าแรงงานทดแทนจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม เช่น สปป.ลาว หรือเมียนมาโดยปรับขั้นตอนการนำเข้าแรงงานให้รวดเร็วและง่ายขึ้น และเสนอให้นำแรงงานจากประเทศอื่นๆมาเพิ่มเติม อาทิ จากประเทศบังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า 4.จัดตั้งศูนย์ประสานงานแรงงานระดับจังหวัด เพื่อช่วยจับคู่แรงงานกับผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานเร่งด่วน 5.สำหรับแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเดินทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขอให้พิจารณาผ่อนปรนให้สามารถกลับเข้ามาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และให้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง 6.แรงงานต่างด้าวที่ปัจจุบันยังพำนักและทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอให้พิจารณาเปิดช่วงเวลาให้นายจ้างหรือแรงงาน สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนและจัดทำเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในระยะเวลา 2 เดือน และ7.ในการจัดทำบันทึกความตกลง (MOU) รอบใหม่ สำหรับแรงงานกัมพูชาที่เคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขอให้พิจารณามาตรการผ่อนปรนค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนเพื่อจูงใจให้มีการดำเนินการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยเสนอให้ลดค่าใช้จ่ายลง 50% หรือมากกว่านั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

"การฉ้อโกงของกัมพูชาไร้มนุษยธรรม!" แก๊งใหญ่ของไต้หวันสั่งสมาชิกห้ามยุ่งกับสแกมเมอร์เขมร "ที่โหดเหี้ยมอำมหิต"

23 นาทีที่แล้ว

“นฤมล” ตั้ง “สหกรณ์กลาง” ลุยแก้ปัญหา “หนี้สินครู”

32 นาทีที่แล้ว

ทบ. โต้กัมพูชา! ยันฝ่ายไทยต่างหากควรเรียกร้อง หลังพบทหารเขมรละเมิดหยุดยิงต่อเนื่อง

49 นาทีที่แล้ว

ปตท.คว้าอันดับ 1 ทำสถิติมูลค่าแบรนด์สูงสุดในไทย 5 ปีซ้อน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยอมรับภาพรวมธุรกิจยังไม่ฟื้น คนกู้ไม่ผ่านคิดเป็นกว่า 70% ในปี 68 เปิดโครงการใหม่น้อยสุดเป็นประวัติการณ์

BTimes

กกร.ชงวุฒิฯรับมือภาษีทรัมป์ ชี้จุดเปลี่ยนชี้ชะตาส่งออกไทยในเวทีโลก

ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวด่วน! พรุ่งนี้ น้ำมันขึ้นราคา

สวพ.FM91

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 21ส.ค.ที่ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

สรุปราคาทองวันนี้ 21 สิงหาคม 2568

สยามนิวส์

สมาคมแบงก์รัฐ มติเอกฉันท์ ตั้ง ฉัตรชัย ศิริไล นั่งประธานสมาคมคนใหม่

มุมข่าว

หุ้นไทยเงียบ! ลุ้นผลศาลรัฐธรรมนูญคดีนายกฯอุ้งอิ้ง ฉุดปิด -3.34 จุด วอลุ่ม 4.9 หมื่นล.

สยามรัฐ

ราคาน้ำมันขึ้น 40 สต./ลิตร กลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด มีผล 22 ส.ค.68 เวลา 05.00 น.

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...