ราคา-หุ้นลิเทียมพุ่งแรง หลัง CATL ปิดเหมืองใหญ่ในจีนคุมการผลิตส่วนเกิน
ราคาลิเทียมและหุ้นกลุ่มผู้ผลิตปรับตัวพุ่งแรงในวันจันทร์ หลังบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก Contemporary Amperex Technology Co. Ltd. (CATL) ประกาศหยุดดำเนินงานที่เหมืองลิเทียมสำคัญในจีน กระตุ้นกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลปักกิ่งอาจเดินหน้าระงับโครงการอื่นเพิ่มเติม เพื่อควบคุมปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจ
หุ้นของ Tianqi Lithium Corp. ทะยานขึ้นสูงสุดถึง 19% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ขณะที่ Ganfeng Lithium Group Co. เพิ่มขึ้น 21% ส่วนหุ้นผู้ประกอบการเหมืองในออสเตรเลียก็ปรับตัวตาม หลัง CATL ยืนยันการปิดเหมืองในมณฑลเจียงซี ขณะที่ราคาลิเทียมในตลาดซื้อขายล่วงหน้า Guangzhou Futures Exchange พุ่งแตะเพดานการปรับขึ้นรายวัน
เหมืองของ CATL ในเมืองอี้ชุน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตลิเทียมของจีนและถือเป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่าทางการอาจไม่ต่ออายุใบอนุญาต เหมืองแห่งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 6% ของการผลิตลิเทียมทั่วโลก ตามข้อมูลของ Bank of America Corp. ขณะที่เหมืองอื่น ๆ ในพื้นที่มีส่วนแบ่งรวมอย่างน้อยอีก 5%
แมตตี จ้าว (Matty Zhao) หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยหุ้นจีนของธนาคาร ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg TV ว่า “ผมมองว่าราคาลิเทียมในระยะสั้นยังมีศักยภาพปรับขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ”
แรงกดดันจากอุปทานล้นตลาด และบทบาทของนโยบายรัฐ
ปัจจุบัน ตลาดลิเทียมโลกกำลังเผชิญปัญหาอุปทานล้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัว ประกอบกับการที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ลดแรงจูงใจด้านภาษีและนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าว ในฝั่งจีน กระแส “ต่อต้านการทำงานเกินจำเป็น” (anti-involution) กำลังหนุนกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลอาจเข้มงวดขึ้นในการควบคุมภาคอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตส่วนเกิน
CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลก ยืนยันการปิดเหมือง Jianxiawo ในเช้าวันจันทร์ พร้อมระบุว่ากำลังยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตที่หมดอายุไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับ Bloomberg News ว่า เหมืองดังกล่าวจะหยุดดำเนินการอย่างน้อย 3 เดือน
แม้การหยุดดำเนินงานจะไม่กระทบต่อธุรกิจโดยรวมมากนัก แต่หุ้น CATL ในตลาดฮ่องกงก็ปรับขึ้นสูงสุด 2.8% ก่อนอ่อนตัวลงครึ่งหนึ่งหลังการประกาศ
ยูจีน เซียว (Eugene Hsiao) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นจีนของ Macquarie Capital ให้ความเห็นว่า “เราไม่คาดว่าการหยุดเหมืองในเจียงซีจะส่งผลกระทบต่อการผลิตแบตเตอรี่อย่างมีนัยสำคัญ แต่ประเด็นที่ควรติดตามคือห่วงโซ่อุปทานลิเทียมโดยรวมอาจเผชิญข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นหรือไม่ และสถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นไปตามการประสานงานของรัฐบาลจีนหรือไม่”
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก Citigroup Inc. ระบุว่า การปิดเหมืองในอี้ชุนอาจเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการ “anti-involution” ที่จะช่วยให้จีนสามารถกำหนดราคาทรัพยากรยุทธศาสตร์ใหม่ในระยะยาว พร้อมรับประกันว่าการทำเหมืองและกระบวนการสกัดลิเทียมจะดำเนินไปอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
ราคาซื้อขายล่วงหน้าพุ่ง หุ้นเหมืองออสเตรเลียรับแรงหนุน
เช่นเดียวกับผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีนรายอื่น CATL ได้เร่งขยายการลงทุนในแร่สำคัญ อาทิ ลิเทียม นิกเกิล และโคบอลต์ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านอุปทานและควบคุมต้นทุน ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ของจีนในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก
ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า สัญญาคาร์บอเนตลิเทียมที่มีการซื้อขายมากที่สุดใน Guangzhou Futures Exchange ปรับขึ้นเต็มเพดานรายวัน 8% ตั้งแต่เปิดตลาดเช้าวันจันทร์ โดยสัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนซื้อขายที่ 81,000 หยวนต่อตัน จากระดับปิดวันศุกร์ที่ 75,000 หยวน
แรงซื้อยังส่งต่อไปยังตลาดหุ้นออสเตรเลีย โดยหุ้นผู้ผลิตลิเทียมรายสำคัญปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง PLS Ltd. (เดิมคือ Pilbara Minerals Ltd.) พุ่งสูงสุด 19% Liontown Resources Ltd. พุ่ง 25% และ Mineral Resources Ltd. เพิ่มขึ้นสูงสุด 14%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนและผู้บริหารอุตสาหกรรมกำลังจับตาว่า จีนจะออกมาตรการจำกัดการทำเหมืองเพิ่มเติมรอบเมืองอี้ชุนหรือไม่ หลังมีรายงานว่าหน่วยงานท้องถิ่นขอให้ผู้ประกอบการเหมือง 8 แห่ง ส่งรายงานสำรองแร่ภายในสิ้นเดือนกันยายน ภายหลังการตรวจสอบพบข้อบกพร่องในขั้นตอนการจดทะเบียนและอนุมัติ
จาง เว่ยซิน นักวิเคราะห์จาก China Futures Co. ให้ความเห็นว่า “สถานการณ์ของ CATL ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างอุปทานล้นตลาดในปัจจุบัน แต่หากการหยุดการผลิตขยายไปยังเหมืองอื่นในอี้ชุนหลังวันที่ 30 กันยายน ราคาลิเทียมอาจปรับตัวสูงขึ้นได้อีก”